ปั้นไทยเร่งฟื้นเศรษฐกิจ “กลุ่มเบสท์กรุ๊ป” โชว์ออกแบบ “ขุดคลองไทย”
“กลุ่มเบสท์กรุ๊ป” หนุนรัฐเร่งฟื้นเศรษฐกิจโลกผลักดันโครงการ “ขุดคลองไทย” โซนภาคใต้หวังพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย พร้อมขับเคลื่อน “ประเทศไทยเป็นพื้นที่กระตุ้นเศรษฐกิจโลก” ล่าสุดชงผลการออกแบบพัฒนารูปแบบศูนย์เศรษฐกิจใหม่ทันสมัยครบวงจรให้คณะอนุกรรมาธิการ ส.ส. ศึกษาขุดคลองไทยนำเสนอนายกรัฐมนตรีไฟเขียวเร่งดำเนินการ จ่อเซ็น MOU กว่า 30 แหล่งทุน ต.ค. นี้คาดตอกเข็มปีหน้า
นายสิทธิพล เจริญขจรกุล ประธานกลุ่มบริษัท เบสท์กรุ๊ป ที่ปรึกษาประธานคณะอนุกรรมาธิการ “ศึกษาขุดคลองไทย” เปิดเผยว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร (ส.ส.) เล็งเห็นถึงความสำคัญและจำเป็นต่อการพัฒนาโครงการดังกล่าวจึงนำมาศึกษาอีกครั้งและเร่งผลักดันโดยตั้งคณะอนุกรรมาธิการขึ้นมาขับเคลื่อนเรื่องนี้เพื่อศึกษาเชิงลึกว่าการขุดคลองไทยจะสร้างประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนอย่างไร โดยพบว่าแนว 9A มีความเหมาะสมมากที่สุดนั้น
“เมื่อปี 2548 มีการศึกษาเพียงขุดคลองให้เรือผ่านเท่านั้น แต่ปัจจุบันเห็นว่าน่าจะใช้ประโยชน์พื้นที่ให้เต็มที่เพื่อเพิ่มมูลค่าโครงการ สามารถพัฒนาธุรกิจต่อเนื่องได้ ไม่ใช่เฉพาะเก็บค่าบริการผ่านคลอง อาทิ การเป็นเมืองการค้าโลก ซื้อมา ขายไป เทรดดิ้ง คลังสินค้า อุตสาหกรรม ที่เกี่ยวข้องมากมาย จุดจอดเรือท่องเที่ยวขนาดใหญ่ โรงแรม ร้านอาหาร สถานบริการต่างๆ ตลอดจนสถานที่พักผ่อน ท่องเที่ยว เป็นต้น เช่นเมืองใหญ่ๆทั่วโลก โดยแนวเส้นทางผ่านไทยระยะทาง 130-135 กม. แต่จะต้องขุดเข้าไปในทะเลอีกด้านละ 30-50 กม.จะเป็นระยะทางเชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทยและทะเลอันดามันที่สั้นกว่าไปสิงคโปร์หลายเท่าตัว ถือเป็นทางลัดและทางด่วน จะให้มีบริการอย่างพร้อมสรรพที่ดีและทันสมัยสามารถตอบสนองให้กับเรือทุกขนาดได้ผ่านคลองไทยนี้ด้วยความสะดวกรวดเร็ว โดยมีเป้าหมายเป็นท่าเรือที่ดีที่สุดของโลก”
ทั้งนี้ กลุ่มเบสท์กรุ๊ปได้รับเชิญจากประธานอนุกรรมาธิการให้นำเสนอแนวคิดด้านการพัฒนาโครงการจึงได้ออกแบบนำเสนอคณะกรรมาธิการดังกล่าวไปเรียบร้อยแล้ว วัตถุประสงค์เพื่อต้องการมีส่วนร่วมในการนำความคิดเห็นไปประกอบการพัฒนาประเทศไทย เพื่อสร้างเศรษฐกิจของประเทศไทยให้แข็งแกร่งและลดการใช้พลังงานของโลกได้อย่างมากมาย
“มีหลายประเทศออกแบบนำเสนอที่หลากหลายแนวคิด โดยเบสท์กรุ๊ป เห็นว่า ควรจะพัฒนาให้เป็นคลองที่มีความสวยงามได้อีกด้วย ไม่ใช่ให้แค่เรือผ่านและเก็บค่าผ่านทางเท่านั้น แต่ควรจะพัฒนาให้เป็นเมืองเศรษฐกิจใหม่ ให้เป็นเมืองแห่งศูนย์กลางการเงิน เมืองแห่งอนาคตได้ตลอดแนวคลอง พัฒนาพื้นที่ให้มีทิวทัศน์สวยงาม มีท่าเรือและกิจกรรมทางน้ำให้บริการ เพื่อให้คลองไทยเป็นอีกจุดหนึ่งที่จะสร้างประโยชน์ต่อประเทศไทย ของอาเซียนและของโลกต่อไป”
ประธานกลุ่มบริษัทเบสท์กรุ๊ป กล่าวอีกว่า มีหลายประเทศที่จะได้รับประโยชน์เมื่อมีคลองไทยใช้เป็นทางลัดเพื่อการขนส่ง แต่ประเทศไทยจะได้รับประโยชน์เต็มๆ มากมายในหลากหลายรูปแบบ การร่นระยะทางให้สั้นแม้ไม่มาก แต่มีความปลอดภัย ครบครันด้วยรูปแบบการให้บริการยุคใหม่ที่ดีกว่าจะทำให้สายการเดินเรือขนาดใหญ่มาใช้บริการได้ทั่วโลก อีกทั้งภายในโครงการยังมีการจัดพื้นที่แสดงราชวงศ์ไทย และพระบรมมหาราชวังกว่า 28 ตร.กม. พื้นที่เศรษฐกิจใหม่มากถึง 2,300 ตร.กม. พื้นที่ขนถ่ายสินค้า และกระจายสินค้า เกือบ 500 ตร.กม. พื้นที่สนามบิน และเชื่อมต่อคมนาคมโดยรถไฟความเร็วสูง รถรางแขวนชมวิวและโดยสาร 32 ตร.กม. พื้นที่อยู่อาศัย และแนวเขตธรรมชาติ 2,200 ตร.กม. พื้นที่เกาะกลางคลองกว่า 12 เกาะให้มีเอกลักษ์เมืองใหญ่ 25 ตร.กม. พร้อมฐานทัพเรือและอากาศ แหล่งท่องเที่ยว เป็นต้น
นอกจากนั้น ยังมีถนนแลนด์บริจด์เชื่อมฝั่งทะเลอันดามันและทะเลอ่าวไทย ตลอดจนมีถนนรอบชายคลองเชื่อมต่อคมนาคมรองรับไว้ถึง 2 เส้นทางหลัก มีสะพานข้ามคลองและอุโมงค์รอดและเชื่อมเกาะหลายจุด มีท่าเทียบเรือชนิดต่างๆใหญ่และเล็กในคลองและชายฝั่งทะเล แนวคลองกว้าง 1,000 เมตร ลึก 32 เมตร มีพื้นที่ว่างตรงกลางเป็นช่วงๆ โดยสร้างผนังคอนกรีตกั้นดินและดินทรายที่จะเป็นเหตุให้คลองตื้นเขิน พื้นที่หัว-ท้ายคลองกว้าง 10 กม. เพื่อความสะดวกและปลอดภัยในการเดินเรือและเพื่อให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ทันสมัย มีการขุดเจาะอุโมงค์เชื่อมใต้ดินเพื่อเป็นเส้นทางรถยนต์และเชื่อมด้วยรถไฟฟ้า พร้อมศูนย์การค้า สิ่งอำนวยความสะดวกและบริการต่างๆ ในพื้นที่ใต้คลองที่เป็นการเชื่อมต่อพื้นที่ใต้ดินกับสองฝั่งคลองให้เป็นผืนเดียวกันได้อย่างลงตัว
ทั้งนี้ คอนเซ็ปต์คือเราจะพัฒนาคลองไทยให้ออกมาในรูปแบบที่จะทำให้คนไทยทุกคนได้ประโยชน์เห็นความเป็นไปได้จริง อย่างที่เราอยากให้เป็น คือเป้าหมายเมืองที่ทันสมัยสวยงามในทุกๆด้าน ปลดล็อคข้อกังวลต่างๆไม่ว่าหลายคนมองว่าจะเป็นการแบ่งแยกแผ่นดิน ความไม่คุ้มค่าการลงทุน ไม่เกิดประโยชน์แก่คนไทย มีผลกระทบสิ่งแวดล้อม ทำลายแหล่งท่องเที่ยว ระดับสูงต่ำน้ำทะเลทั้ง 2 ด้านต้องสร้างประตูน้ำ ตลอดจนการเวนคืน หรือผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งการออกแบบจะสามารถตอบโจทย์เหล่านี้ได้ทั้งหมด
โดยใต้คลองลึกไปราว 40 เมตรจะออกแบบเพื่อพัฒนาให้เป็นเมืองใหม่ใต้ดิน ทั้งเพื่อการพาณิชย์ อยู่อาศัย มีสถาบันการศึกษาชั้นนำและยังใช้เป็นสถานที่หลบภัยในกรณีเกิดศึกสงครามได้อีกด้วย ข้อสำคัญหากขุดคลองไทยในวันนี้จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศไทยกลับมาดีขึ้นทันที และยั่งยืนตลอดไป ประชาชนที่มาทำงานในพื้นที่เขตเศรษฐกิจคลองไทยทุกระดับจะมีรายได้ดีกว่าทำงานในพื้นที่กรุงเทพฯ 2 เท่า มีงานรอกว่าล้านตำแหน่ง แรงงานไทยทั่วโลกจะสามารถกลับมาพัฒนาบ้านเกิดได้อีกมากมาย ผู้ที่ถูกเวนคืนจะมีโอกาสเลือกทำงานและอยู่อาศัยในพื้นที่ก่อนใคร ซึ่งช่วงระหว่างการขุดคลอง 3-4 ปีจะมีโอการฝึกอบรมแรงงานให้ตรงตามเป้าหมายไว้ล่วงหน้าเพื่อป้อนเข้าสู่ระบบแรงงานได้อย่างเต็มที่นั่นคือ มีงานรองรับมากมายไว้ทันทีภายใต้สวัสดิการและรายได้ที่ดีกว่าปัจจุบัน
ทั้งนี้ แม้จะมีการพัฒนาให้เป็นเมืองใหม่แต่ก็จะมีที่จัดสรรใหม่ มีน้ำประปา ไฟฟ้าครบวงจรยังออกแบบให้เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบได้เลือกไปอยู่ในที่ที่จัดสรรไว้ได้อย่างตรงตามต้องการ หากต้องการประกอบอาชีพอะไรก็พร้อมจัดให้ อาทิ ชาวประมง ชาวสวน ช่างต่อเรือ แม่บ้าน ฯลฯ อีกทั้งร้านค้าในพื้นที่ผู้ได้รับผลกระทบยังเลือกที่จะมาประกอบอาชีพนี้ได้ เพียงขอให้เราทุกคนช่วยทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ของประเทศชาติ เท่านั้น
ในส่วนรูปแบบการลงทุนของโครงการนี้คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 4 ล้านล้านบาทนั้นเชื่อว่าเอกชนคนไทยสามารถระดมทุนได้ เพี่อให้คลองไทยเป็นของคนไทย แม้ว่ายังจะต้องใช้งบประมาณมหาศาลในการออกแบบการก่อสร้างให้คลองสวยงาม มั่นคง ป้องกันและสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี ให้ได้เมืองใหม่ที่สวยงาม เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ของคนทั่วโลกที่ทุกคนอยากเดินทางมาเยี่ยมชม
สำหรับรายละเอียดของการออกแบบนั้น ฝั่งทะเลอันดามันจะไม่มีอุตสาหกรรมการผลิตใดๆ ได้ออกแบบให้มีกิจกรรมต่างๆ เป็นการส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยวเพื่อให้สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ส่วนฝั่งอ่าวไทยที่เหมาะต่อการพัฒนาท่าเรือหรือเชิงพาณิชย์ต่างๆ ส่วนพื้นที่บริเวณเกาะกลางคลองออกแบบให้เป็นพื้นที่เศรษกิจใหม่ที่ทันสมัยบวกธรรมชาติเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม มีการก่อสร้างถนนไว้ตลอดแนวสองฝั่ง มีระยะทางห่างกันราว 10 กม. เพื่อรักษาแหล่งน้ำธรรมชาติที่จะเกิดขึ้นซึ่งจะต้องนำไปวิเคราะห์ออกแบบ ทั้งขุดบ่อ ขุดเลคขนาดใหญ่เก็บน้ำไว้ใช้งานหรือใช้ประกอบอาชีพเลี้ยงสัตว์ทะเลเนื่องจากจะใช้เป็นแหล่งอาหารป้อนให้ผู้คนจำนวนมากในโครงการได้อีกทางหนึ่งด้วย จึงต้องมีการศึกษาพร้อมออกแบบวิธีการรองรับไว้ก่อนตั้งแต่วันนี้
“ล่าสุดได้นำเสนอผลการออกแบบให้พล.ต.ทรงกลด ทิพย์รัตน์ ประธานคณะอนุกรรมาธิการศึกษาขุดคลองไทย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พิจารณานำเสนอพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีเห็นชอบและให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินโครงการโดยเร็วต่อไป” ประธานกลุ่มบริษัทเบสท์กรุ๊ป กล่าวในตอนท้าย