ดัน “เอ็กซ์ตร้าฟอร์ซ แก๊สโซฮอล์ อี 20” ขึ้นแท่นยอดขายอันดับหนึ่ง
สถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น เตรียมความพร้อมรองรับความต้องการผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิงชนิดใหม่ล่าสุด กับ เทคโนโลยี เอ็กซ์ตร้าฟอร์ซ แก๊สโซฮอล์ อี 20 (XtraForce Gasohol E20) พลังแรงเหนือใคร การันตีด้วยความเป็นผู้นำในการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศไทยมายาวนานกว่า 23 ปี และในปีนี้ (ม.ค. – ก.ค. 63) มีส่วนแบ่งทางการตลาดกว่า 46 % พร้อมจำหน่ายแล้วที่สถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น กว่า 1,900 สาขาทั่วประเทศ
นายบุญมา พนธนกรกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (โออาร์) เปิดเผยว่า เทคโนโลยี เอ็กซ์ตร้าฟอร์ซ แก๊สโซฮอล์ อี 20 ของสถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น (PTT Station) เป็นอีกหนึ่งทางเลือกน้ำมันเชื้อเพลิงคุณภาพสูงที่ได้เริ่มจำหน่ายตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 ที่ผ่านมา และได้รับผลตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีด้วยยอดขายอันดับหนึ่ง โดยเป็นเทคโนโลยีที่คิดค้นและพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง เริ่มตั้งแต่การศึกษาข้อมูลพฤติกรรมการใช้รถยนต์ของผู้ขับขี่ทั่วประเทศ และนำมาปรับปรุงคุณสมบัติของน้ำมันให้ตรงกับไลฟ์สไตล์การใช้งานของผู้ขับขี่มากที่สุด นวัตกรรม เอ็กซ์ตร้าฟอร์ซ แก๊สโซฮอล์ E20 ประกอบด้วยคุณสมบัติพิเศษ High octane คือการให้ค่าออกเทนที่สูงกว่า ทำให้เครื่องยนต์เดินเรียบ ทำงานเต็มสมรรถนะ พร้อม Acceleration เพิ่มสารเอ็กซ์ตร้า ฟริคชั่น โมดิฟายเออร์ (Xtra Friction Modifier) ให้อัตราเร่งแซงดีขึ้น ขับขี่ได้อย่างลื่นไหล เพิ่มความแรงเร็วได้ตามต้องการ นอกจากนี้ ยังมาพร้อมปฏิบัติการ GDI support ที่ผนึกกำลัง สารเติมแต่งเอ็กซ์ตร้า อินโน โพรเทคชั่น (Xtra Inno protection) สามารถชะล้างสิ่งสกปรกที่อุดตันหัวฉีดน้ำมันในเครื่องยนต์เบนซินรุ่นใหม่ระบบฉีดตรง Gasoline Direct Injection (GDI) คืนประสิทธิภาพหัวฉีดได้ 100%
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการอย่างไม่หยุดยั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิงสูตรใหม่อย่างต่อเนื่อง จนทำให้ พีทีที สเตชั่น เป็นผู้นำในการออกผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิงใหม่ ๆ สู่ท้องตลาดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างดีที่สุด และจะยังคงมุ่งมั่นคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมอันโดดเด่น เพื่อสร้างความแตกต่างทางธุรกิจ ควบคู่ไปกับพัฒนาแนวคิดลีฟวิ่ง คอมมิวนิตี้ (Living Community) ในการดำเนินธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้บริโภค ตลอดจนให้สถานีบริการน้ำมัน เป็นศูนย์กลางของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม ในการร่วมกันพัฒนาคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจชุมชน เพื่อเติบโตร่วมกันไปอย่างยั่งยืน