พลังงาน

สนพ. ชี้สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ หลังพายุเฮอร์เคนถล่มสหรัฐฯ และมีผู้ติดเชื้อโควิดพุ่ง

สนพ. ชี้สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ หลังผลกระทบพายุเฮอร์เคนในสหรัฐฯ และความกังวลมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้น

นายวัฒนพงษ์  คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ. เปิดเผยว่า สนพ. คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบยังคงเคลื่อนไหวในระดับต่ำ หลังนักลงทุนยังคงกังวลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกรวมถึงความต้องการใช้น้ำมันที่อ่อนแอจากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสหราชอาณาจักรได้ประกาศใช้มาตรการเข้มงวดอีกรอบ หลังจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายวันเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้งในรอเกือบ 4 เดือน ประกอบกับปริมาณน้ำมันดิบสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวลดลง หลังกำลังการผลิตได้รับผลกระทบจากพายุเฮอร์ริเคนซัลลี่ และพายุหมุนเขตร้อนเบต้า ที่พัดขึ้นฝั่งบริเวณอ่าวเม็กซิโก

อย่างไรก็ดี อุปทานน้ำมันดิบฝั่งตะวันออกกลางมีแนวโน้มปรับเพิ่ม จากลิเบียและอิหร่านเพิ่มการส่งออกน้ำมัน โดยลิเบียอยู่ระหว่างการเปิดท่าส่งออกน้ำมันในประเทศที่ปิดไปกว่า 8 เดือน ทั้งนี้ บริษัทน้ำมันแห่งชาติลิเบีย (NOC) ประกาศยกเลิกภาวะฉุกเฉิน และคาดว่าจะผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น 260,000 บาร์เรล/วัน ภายในสัปดาห์นี้ ด้านอิหร่านคาดว่าจะส่งออกน้ำมัน ในเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้นจากเดือน ส.ค. 0.1 – 0.75 ล้านบาร์เรล/วัน

นายวัฒนพงษ์ กล่าวด้วยว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันโลกระหว่างวันที่ 21-27 กันยายน 2563 ราคาน้ำมันดิบดูไบและเวสต์เท็กซัส เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 41.46 และ 39.78 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 0.67 และ 0.22 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับเพิ่มขึ้นหลังราคาน้ำมันดิบปรับลดลงอย่างหนักในการเทขาย ความกังวลจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ในหลายประเทศที่เพิ่มขึ้น โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์การปิดประเทศในยุโรปครั้งล่าสุดจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันไม่มากนัก ส่วนสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ (ณ วันที่ 18 ก.ย. 63) ปรับตัวลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล ลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน แต่ยังคงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 4.0 ล้านบาร์เรล ทางด้านนาย Ihsan Abdul Jabbar รมว.กระทรวงน้ำมันของอิรักออกมาปฏิเสธรายงานข่าวว่าอิรักบรรลุข้อตกลงกับกลุ่ม OPEC+ เพื่อเพิ่มการส่งออกน้ำมันดิบ

 

 

ราคากลางน้ำมันสำเร็จรูปตลาดภูมิภาคเอเชีย โดยราคาน้ำมันเบนซินออกเทน 95, 92 และ 91 (Non-Oxy) เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 47.85,46.25 และ 47.12 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 0.47, 0.65 และ 0.58 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล โดยตลาดกังวลอุปทานน้ำมันเบนซินในสหรัฐฯ จะปรับลดลงเนื่องจากโรงกลั่น ดำเนินการผลิตในระดับต่ำ ทางด้าน Petroleum Planning and Analysis Cell (PPAC) ของอินเดียรายงานปริมาณการผลิตน้ำมันเบนซิน เดือน ส.ค. 63 ลดลง 7.11% อยู่ที่ 23.04 ล้านบาร์เรล ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน จากรายงานของ International Enterprise Singapore ปริมาณสำรอง Light Distillates เชิงพาณิชย์ที่สิงคโปร์ (ณ วันที่ 23 ก.ย. 63) ลดลง 3.21 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 14.24 ล้านบาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ และ Platts ได้รายงานปริมาณสำรอง Light Distillates เชิงพาณิชย์ที่ Fujairah Oil Industry Zone ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ณ 21 ก.ย. 63) ลดลง 0.24 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ 6.66 ล้านบาร์เรล

ส่วนราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว (10 PPM) เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 43.58 เหรียญต่อบาร์เรล ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 0.03 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล โดยจีนมีแผนที่จะส่งออกน้ำมันดีเซลในเดือน ต.ค. 63 ลดลง 5.9% เมื่อเทียบกับเดือน ก.ย. 63 ทางด้าน PPAC ของอินเดียรายงานปริมาณการผลิตในเดือน ส.ค. 63 ลดลง 11.4% อยู่ที่ 56.7 ล้านบาร์เรล ประกอบกับรายงานของ Insights Global ปริมาณสำรองน้ำมันดีเซลเชิงพาณิชย์ที่ ARA ในยุโรป (ณ วันที่ 24 ก.ย. 63) ลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 20.76 ล้านบาร์เรล และ Platts รายงาน Arbitrage น้ำมันดีเซลจากภูมิภาคตะวันออกไปยังตะวันตกปิด

 

“ค่าการตลาดของน้ำมันเบนซิน น้ำมันแก๊สโซฮอล และน้ำมันดีเซล เฉลี่ยอยู่ที่ 2.53 บาท/ลิตร รวมค่าขนส่งน้ำมันทางท่อจากศรีราชา-กรุงเทพฯ 0.15 บาท/ลิตร และค่าการกลั่นเฉลี่ยอยู่ที่ 0.53 บาท/ลิตร โดยค่าเงินบาทอ่อนค่าลงจากสัปดาห์ที่แล้ว 0.20 บาท/เหรียญสหรัฐฯ มาอยู่ที่เฉลี่ย 31.5658 บาท/เหรียญสหรัฐฯ ซึ่งต้นทุนน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 0.15 บาท/ลิตร ขณะที่ต้นทุนน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น 0.06 บาท/ลิตร”

Related Articles

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button