DRT มองบรรยากาศการซื้อสินค้าคึกคักกว่าปีก่อน คาดผลงานไตรมาส 1 โตตามแผน
‘บมจ.ผลิตภัณฑ์ตราเพชร หรือ DRT’ ประเมินผลงานไตรมาส 1/2564 เติบโตตามแผน หลังสัญญาณการฟื้นตัวจากกลุ่มลูกค้าโครงการและห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่อยู่ในเกณฑ์ดี และเครื่องจักร NT-11 เข้ามาเสริมศักยภาพการทำตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์ไม้สังเคราะห์ที่หลากหลายยิ่งขึ้น ขณะที่ไตรมาส 2/2564 เชื่อยังเป็นบวกจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและราคาพืชผลการเกษตรที่เพิ่มขึ้น หนุนการจับจ่ายใช้สอยคล่องตัว แม้เผชิญความเสี่ยงจาก COVID-19 ระบาดระลอกใหม่
นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์ แผ่นบอร์ด อิฐมวลเบา คานทับหลัง เคาน์เตอร์มวลเบาสำเร็จรูปและบริการหลังการขายภายใต้เครื่องหมายการค้า ‘ตราเพชร’ เปิดเผยว่า จากการประเมินผลงานไตรมาส 1/2564 คาดว่ายังทำได้ตามแผนจากการฟื้นตัวของลูกค้าโครงการอสังหาริมทรัพย์ ที่กลับมาพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรเพิ่มขึ้นจาก ปีก่อน และห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ที่มีการขยายสาขาใหม่เพิ่มเติม ทำให้มีคำสั่งซื้อสินค้าวัสดุก่อสร้าง เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะเดียวกัน การเดินเครื่องจักรเชิงพาณิชย์ NT-11 ได้เข้ามาช่วยเสริมความหลากหลายผลิตภัณฑ์ทั้งด้านขนาดและสีสันในกลุ่มผลิตภัณฑ์ไม้สังเคราะห์ เพื่อเพิ่มทางเลือกแก่ผู้บริโภค ทำให้ DRT สามารถบริหารจัดการด้าน Product Mix ได้อย่างมีประสิทธิภาพและการมีแบรนด์สินค้า ‘ตราเพชร’ ที่มีความแข็งแกร่งและได้รับการยอมรับจากผู้บริโภค เข้ามาช่วยสนับสนุนโอกาสทางการตลาดที่ดีกว่าช่วงเดียวกันในปีก่อน ประกอบกับการรักษาอัตราเดินเครื่องจักรเฉลี่ยอยู่ในเป้าหมายที่ 80-85% จึงเอื้อต่อการบริหารจัดการด้านต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนแนวโน้มไตรมาส 2/2564 แม้มีแรงกดดันจากปัจจัยต้นทุนด้านโลจิสติกส์และวัตถุดิบบางรายการที่ปรับตัวขึ้น แต่ DRT ยังเชื่อมั่นในการรักษาอัตราการเดินเครื่องจักรเฉลี่ยให้อยู่ในระดับที่ดี จะสามารถบริหารความเสี่ยงดังกล่าวได้ โดยยังคงรักษาเป้าหมายด้านอัตราการทำกำไรขั้นต้นอยู่ในเกณฑ์เฉลี่ย 27-29% จากผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่เข้ามาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคเพื่อรองรับบรรยากาศการซื้อสินค้าที่มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังประเทศไทยได้เริ่มทยอยฉีดวัคซีนป้องกัน COVID-19 ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคค่อยๆ ฟื้นตัว รวมถึงปัจจัยจากราคาพืชผลทางการเกษตรในปีนี้ที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้การซื้อสินค้าผ่านช่องทางตัวแทนจำหน่ายร้านค้ารายย่อยยังขยายตัวได้ดี
“ล่าสุดแม้มี Covid-19 ระบาดระลอกใหม่ แต่โดยรวมเรามองว่าบรรยากาศและกำลังซื้อยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีรวมถึงคาดการณ์ว่าหากการท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัว ก็จะส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคโดยรวมเป็นผลให้ยอดขายผ่านช่องทางตัวแทนจำหน่ายร้านค้าห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่และกลุ่มลูกค้าโครงการอสังหาริมทรัพย์ยังคงขยายตัวและสนับสนุนให้เป้าหมายในปีนี้เติบโต 5% ตามแผนที่วางไว้” นายสาธิต กล่าว