ไทยพาณิชย์ เปิดตัว “OPD (คุ้ม) เงินอยู่ครบ จบหายห่วง”
คว้า “หนุ่ม กรรชัย” เป็นพรีเซนเตอร์ ย้ำภาพมืออาชีพวางแผนสุขภาพที่คุ้มค่า
ไทยพาณิชย์จุดพลุตลาดประกันปีขาล ส่งโปรดักส์เรือธงแห่งปี “OPD (คุ้ม) เงินอยู่ครบ จบหายห่วง” ประกันเดียวในประเทศ ที่คืนเบี้ยครบ 100% เมื่อครบกำหนดสัญญา แม้จะเคลมค่ารักษาพยาบาล ทั้งผู้ป่วยนอก (OPD) – ผู้ป่วยใน (IPD) และเป็นกรมธรรม์ที่สามารถแชร์วงเงินค่ารักษาพยาบาลให้ครอบครัวได้สูงสุดรวม 5 คน* ทั้งสามารถสะสมผลประโยชน์ไปใช้ในปีถัดไปได้ พร้อมเปิดตัวบริการรูปแบบใหม่ “Live Chat” ที่ให้ความสะดวกแก่ลูกค้าสามารถคุยกับเจ้าหน้าที่ธนาคารที่มีใบอนุญาตนายหน้าประกันชีวิตได้ตลอด 24 ชั่วโมง ล่าสุดคว้าพิธีกรข่าวสุดฮอตแห่งปี “กรรชัย กำเนิดพลอย” มาเป็นพรีเซนเตอร์ ตอกย้ำภาพมืออาชีพที่ให้ความสำคัญกับการวางแผนการดูแลสุขภาพเพื่อตัวเองหรือคนที่รัก
นางสาวปรมาศิริ มโนลม้าย รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจประกัน ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า “ปัจจุบัน ประชาชนส่วนหนึ่งได้รับสวัสดิการด้านประกันสุขภาพจากที่ทำงานอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตามค่ารักษาพยาบาลจากประกันสุขภาพดังกล่าวก็ยังไม่เพียงพอ และกรณีที่ซื้อประกันสุขภาพเพิ่มเติมเอง เบี้ยที่จ่ายไปก็เป็นเบี้ยทิ้ง ไม่สามารถได้คืน แถมยังต้องซื้อประกันหลายฉบับ เพื่อหวังให้ครอบคลุมแผนการรักษาพยาบาลแบบครบครัน อีกทั้งยังต้องเดินทางไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล ทั้งที่ในปัจจุบันควรหลีกเลี่ยงสถานที่ ๆ มีคนพลุกพล่าน และหากต้องการที่จะซื้อประกันให้แก่คนในครอบครัว ก็ต้องซื้อแผนประกันเพิ่มขึ้น ถ้ามีสมาชิกในครอบครัวเยอะ ก็ยิ่งต้องซื้อประกันเยอะ บางคนซื้อแล้วความคุ้มครองก็ยังไม่พอ บางคนซื้อไปก็ไม่ได้ใช้ โดยจากเหตุผลทั้งหมดที่กล่าวมาแล้วนั้นธนาคารไทยพาณิชย์เข้าใจถึงปัญหาทั้งหมดที่ผู้บริโภคต้องพบเจอ เราจึงมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ให้ความคุ้มครองและคุ้มค่าแก่ลูกค้าอย่างแท้จริง จึงเดินหน้าสร้างความแตกต่างให้แก่ตลาดประกันสุขภาพอีกครั้ง ด้วยประกัน ‘OPD (คุ้ม) เงินอยู่ครบ จบหายห่วง’ โดยเป็นประกันสุขภาพรายแรกในประเทศที่คืนเบี้ยครบ 100% ครอบคลุมทั้ง OPD (ผู้ป่วยนอก) IPD (ผู้ป่วยใน) รวมถึงค่ารักษาอื่นๆ สมัครง่ายเพียงตอบคำถามสุขภาพ 3 คำถาม อีกทั้งยังสามารถแชร์ความคุ้มครองให้แก่คนในครอบครัวได้ รวมสูงสุดถึง 5 คนด้วยกันในกรมธรรม์ และหากไม่เคลมหรือใช้วงเงินค่ารักษาไม่หมดก็สามารถสะสมไปใช้ในปีถัดไปได้ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอขายผ่านเจ้าหน้าที่ของธนาคารโดยในปีนี้ได้เปิดให้บริการช่องทางใหม่ Live Chat www.โอพีดีคืนเบี้ยครบ.com ซึ่งถือเป็นการยกระดับการให้บริการเพื่อสร้างความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้าตามวิถี New Normal อีกทางด้วย”
“ช่องทางการขายผ่านธนาคาร นับว่ามีบทบาทสำคัญในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกัน อีกทั้งธนาคารให้ความสำคัญต่อการให้บริการแก่ลูกค้าอย่างเป็นธรรม (Market Conduct) จึงทำให้ลูกค้าได้รับความรู้ความเข้าใจและได้รับความคุ้มครองที่ถูกต้องจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์จากพนักงานที่มีใบอนุญาตนายหน้าประกันชีวิตอย่างถูกต้อง โดยปีนี้ธนาคารได้พัฒนาการบริการใหม่ ‘Live Chat’ www.โอพีดีคืนเบี้ยครบ.com เพื่อให้ข้อมูลข่าวสาร อำนวยความสะดวกลูกค้าและติดต่อกับเจ้าหน้าที่ธนาคารได้ทันที โดยจะเริ่มนำมาให้บริการครั้งแรกแก่ลูกค้าที่สนใจในผลิตภัณฑ์ OPD (คุ้ม) เงินอยู่ครบ จบหายห่วง ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถแชทถามตอบกับเจ้าหน้าที่สาขาของธนาคารที่มีใบอนุญาตนายหน้าประกันชีวิตได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรองรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งธนาคารได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุกด้าน ทั้งด้านผลิตภัณฑ์ และด้านบริการ โดยเชื่อว่าจะสร้างความมั่นใจในเรื่องของสุขภาพให้แก่ลูกค้า และเป็นปรากฏการณ์สำคัญอีกครั้งให้แก่วงการประกันอย่างแน่นอน”
จากอินไซต์ที่ได้จากลูกค้า พบว่า 1. คนมีความต้องการความคุ้มครองสุขภาพ แต่ไม่อยากเสียเงินทิ้งไปกับเบี้ยประกันภัย หากไม่ได้เคลมหรือเคลมน้อยกว่าเบี้ยประกันภัยที่จ่ายไป 2. คนที่อยากได้ความคุ้มครองสุขภาพแบบคุ้มครบ จบในกรมธรรม์เดียว 3. คนที่ไม่อยากตรวจสุขภาพเพื่อทำประกัน 4. คนที่อยากดูแลสุขภาพของคนในครอบครัว แต่ไม่อยากซื้อประกันสุขภาพหลายฉบับ เพราะค่าใช้จ่ายสูง โดยจากข้อมูลที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น จึงเป็นที่มาของการพัฒนาประกัน OPD (คุ้ม) เงินอยู่ครบ จบหายห่วง ที่มาพร้อมกับ 4 คำตอบเพื่อความอุ่นใจให้แก่ผู้ถือกรมธรรม์ ประกอบด้วย 1. คืนครบ เบี้ยฯ ที่จ่ายไม่หาย สบายใจ โดยเมื่อครบกำหนดสัญญา ผู้ถือกรมธรรม์จะรับเงินคืนไม่น้อยกว่าเบี้ยฯ ที่จ่ายมาทั้งหมด แม้จะเคลมค่ารักษาพยาบาล ค่าชดเชย หรือเจ็บป่วยโรคร้ายแรง 2. คุ้มครองทั้ง OPD IPD ทำฟัน สายตา วัคซีน สุขภาพ และยังคุ้มครองกรณีรักษาตัวจาก 3 โรคร้ายแรง (โรคมะเร็งระยะลุกลาม กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน) อีกทั้งเมื่อรักษาตัวในโรงพยาบาลก็ยังไม่ขาดรายได้ โดยรับเงินชดเชยเมื่อเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลในฐานะผู้ป่วยในตั้งแต่ 500 – 15,000 บาทต่อวัน (ขึ้นอยู่กับแผนที่เลือก) และวงเงินความคุ้มครองสุขภาพยังสามารถสะสมไปในปีถัด ๆ ไปได้ กรณีไม่มีการเคลม 3. ไม่ต้องตรวจสุขภาพเพียงตอบคำถามสุขภาพ 3 คำถาม 4. กรมธรรม์เดียว ดูแลครอบคลุมถึงคนที่คุณรัก โดยให้สิทธิ์ผู้ที่ซื้อกรมธรรม์สามารถแชร์วงเงินค่ารักษาพยาบาลให้ครอบครัวได้สูงสุดรวม 5 คน* เป็นวงเงินค่ารักษาพยาบาล และดูแลสุขภาพ ครอบคลุม OPD IPD ค่าตรวจรักษาทางทันตกรรม ค่าดูแลและรักษาสายตา ค่าฉีดวัคซีน ค่าตรวจสุขภาพ และคนในครอบครัวที่แชร์วงเงินค่ารักษาจะได้รับความคุ้มครองชีวิตท่านละ 50,000 บาท
“ธนาคารฯ คาดหวังว่า ‘OPD (คุ้ม) เงินอยู่ครบ จบหายห่วง’ จะได้รับความสนใจจากลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพและผลประโยชน์ที่คุ้มค่า เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน” นางสาวปรมาศิริ กล่าว
ธนาคารฯ ยังได้เปิดตัว “กรรชัย กำเนิดพลอย” พิธีกรเล่าข่าวขวัญใจคนไทย มานั่งแท่นเป็นพรีเซนเตอร์ เนื่องจากมีบุคลิกภาพโดดเด่นและมีทัศนคติในการทำงานอย่างมืออาชีพ โดยยึดความถูกต้องและจริงใจเป็นหัวใจในการทำงาน อีกทั้งเป็นผู้ที่ใส่ใจกับการวางแผนการดูแลสุขภาพของตัวเองและคนในครอบครัว จึงเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะมาส่งต่อเรื่องราวประกัน OPD (คุ้ม) เงินอยู่ครบ จบหายห่วง ให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
นายกรรชัย กำเนิดพลอย ในฐานะพรีเซนเตอร์ OPD (คุ้ม) เงินอยู่ครบ จบหายห่วง เปิดเผยว่า “รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ร่วมงานกับธนาคารไทยพาณิชย์ และภาคภูมิใจอย่างมากที่ได้รับเลือกให้เป็นพรีเซนเตอร์ OPD (คุ้ม) เงินอยู่ครบ จบหายห่วง ส่วนตัวผมประทับใจกับสิทธิประโยชน์ของ OPD (คุ้ม) เงินอยู่ครบ จบหายห่วง คือ เห็นแล้วต้องขอใช้คำว่า อุ๊ย! มีประกันแบบนี้ด้วยหรือ ที่เมื่อจบสัญญาแล้วคืนเบี้ยที่จ่ายไปครบ 100% แม้ว่าจะเคลมค่ารักษาพยาบาล OPD IPD หรือกรณีเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงครบทุกรายการก็ตาม อีกทั้งยังครอบคลุมทั้งทำฟัน ตรวจสายตา วัคซีน ตรวจสุขภาพประจำปี ได้ด้วย และส่วนตัวที่ชื่นชอบมาก ๆ คือ การแชร์ความคุ้มครองให้คนในครอบครัวได้รวมสูงสุดถึง 5 คน ในกรมธรรม์ฉบับเดียว สำหรับแผน 300,000 บาทขึ้นไป ซึ่งถือเป็นความอุ่นใจทั้งตัวเราและคนที่เรารัก ผมจึงมั่นใจว่า OPD (คุ้ม) เงินอยู่ครบ จบหายห่วง เป็นประกันที่แสดงออกถึงความจริงใจในการให้ผลประโยชน์ที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับเบี้ยที่จ่ายไป”