การเกษตร

“เฉลิมชัย”มอบ“อลงกรณ์”แจงมาตรการรับมือผลไม้ปี 65 ต่อกมธ.สภาฯ

“เฉลิมชัย”มอบ“อลงกรณ์”ชี้แจงมาตรการรับมือผลไม้ปี 2565 ต่อคณะกรรมาธิการสภาฯ เผยไทยครองตลาดผลไม้จีนเป็นอันดับ1 ส่งออกทำลายสถิติ พร้อมพิจารณาเยียวยาชาวสวนลำไยหากครม.เห็นชอบ “ณัฐวุฒิ” พอใจการทำงานของฟรุ้ทบอร์ดเตรียมทำข้อเสนอสู่ที่ประชุมFruit Board17 ก.พ.นี้

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะทำงานจัดทำแผนการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจผลไม้ล่วงหน้าทั้งระบบ ได้รับมอบหมายจาก ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าประชุมกับคณะกรรมธิการแก้ไขปัญหาราคาผลิตผลเกษตรกรรม ในวันนี้(3ก.พ.)ที่รัฐสภาเพื่อตอบข้อซักถามและร่วมหารือแสดงความคิดเห็นโดยมี นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ เป็นประธาน ดร.ประกอบ รัตนพันธ์คณะกรรมาธิการฯ พร้อมด้วย นายวีระกร คำประกอบที่ปรึกษากรรมการ และคณะกรรมาธิการฯ

นายขจร เราประเสริฐ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ในฐานะเลขานุการ คณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ ผู้แทนกรมวิชาการเกษตร ร่วมประชุมหารือให้ข้อมูล และผู้แทนภาคเอกชน ได้แก่ สมาคมทุเรียนไทย ผู้แทนสมาคมผูประกอบการส่งออกทุเรียน มังคุด และผู้แทนสมาคมผู้ค้าและส่งออกลำไยภาคตะวันออก เข้าร่วมประชุม

โดยนายอลงกรณ์ ชี้แจงถึงศักยภาพผลไม้ไทยและผลงานรัฐบาลโดยใน
ปี 2564 ประเทศไทยครองส่วนแบ่งตลาดผลไม้ในจีน45% เป็นอันดับ1
และส่งออกสูงสุดเป็นประวัติการณ์กว่า 1.6 แสนล้านบาท (ม.ค-พ.ย2564) โดยเฉพาะทุเรียนส่งออกทะลุแสนล้านเป็นครั้งแรกแม้จะเผชิญปัญหาด่านและการขนส่งจากผลกระทบโควิด19 โดยยึดแนวทางและมาตรการการบริหารจัดการผลไม้รวมทั้งการปฏิรูปเชิงระบบภายใต้5ยุทธศาสตร์ของดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯ และแนวทางการพัฒนาผลไม้ไทย พ.ศ. 2565 – 2570

นอกจากนี้ นายอลงกรณ์ ยังชี้แจงประเด็นต่างๆที่เกี่ยวข้องเช่นโครงการประกันราคาสินค้าเกษตรและผลไม้ ,โครงการ1กลุ่มจังหวัด 1 นิคมอุตสาหกรรมเกษตรอาหารสู่เกษตรมูลค่าสูง (กรกอ.), ศูนย์ AIC (ศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม:Agritech and Innovation Center) 77 จังหวัด และ ศูนย์ความเป็นเลิศ 23 แห่งสนับสนุนด้าน R&D การอบรมบ่มเพาะ และการถ่ายทอดเทคโนโลยี เน้นMade in Thailand เช่น เทคโนโลยีจุลินทรีย์ขจัดการปนเปื้อนและคงสภาพความสดของผลไม้ได้เพิ่มขึ้นโดนAICจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและเทคโนโลยีไนโตรเจน ( Nitrogen Technology ), การบริหารข้อมูลโดยศูนย์ข้อมูลเกษตรแห่งชาติ (National Big Data Center :NABC) ,การบริหารLogistics ผลไม้ และสถานการณ์ด่านรวมทั้งการขนส่งเส้นทางรถไฟจีน-ลาวโดยขบวนรถไฟขนสินค้าเกษตรของไทยไปจีนเที่ยวปฐมฤกษ์ออกจากสถานีเวียงจันทน์ใต้27ม.ค.2565ส่วนการขนส่งผลไม้ไทยเหลือเพียงการก่อสร้างด่านตรวจพืชของจีนที่ด่านรถไฟโมฮ่านก็เริ่มใช้บริการได้ ในขณะที่สถานการณ์ด่านและการขนส่งมีแนวโน้มดีขึ้น ทั้ง 4 ด่านหลักเปิดบริการยกเว้นช่วงตรุษจีนแต่ยังมีความเสี่ยงจากมาตรการ Zero Covid ส่วนค่าระวางเรือเริ่มลดลงมีสายการเดินเรือเพิ่มขึ้น

นายอลงกรณ์ ยังได้นำเสนอตัวเลขการส่งออกปี 2564 ซึ่งสามารถส่งออกทำสถิติสูงสุด ทุเรียนทะลุแสนล้านทั้งนี้ 11 เดือน (ม.ค.-พ.ย.) ของปี 2564
ส่งออกผลไม้ 7 ชนิดได้แก่ ทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง ลำไย ลิ้นจี่และมะม่วงจำนวน 1,992,751 ตันคิดเป็นมูลค่า 165,624 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 40.75% เทียบกับปี 2563 ที่ส่งออก1,718,228ตันมูลค่า 117,673ล้านบาท

สำหรับทุเรียนส่งออก 903,700ตัน ปริมาณเพิ่มขึ้น38.29% คิดเป็นมูลค่า 115,459 ล้านบาทเติบโต 59.11% เทียบกับปี 2563 ส่งออก 653,476 ตันมูลค่า 72,566 ล้านบาท

ทางด้านฤดูกาลผลิตปี 2565 คาดว่าจะมีผลผลิตออกมา 5,200,009 ตันเพิ่ม 11.39% หรือเพิ่มกว่า 5 แสนตันเทียบกับปี 2563 ที่มีปริมาณ 4,668,435 ตัน
โดย 17 มาตรการบริหารจัดการผลไม้ปี 2565 เพื่อดูแลบริหารจัดการผลไม้ทั้งระบบ เป็นมาตรการหลักในการขับเคลื่อน เช่น

1.มาตรการเร่งรัดตรวจและรับรอง GAP ซึ่งมีเป้าหมายในปี 2565 ไม่ต่ำกว่า 120,000 แปลง
2.มาตรการช่วยผู้ประกอบการหรือเกษตรกรหรือล้งกระจายผลผลิตผลไม้ออกนอกแหล่งผลิต กิโลกรัมละ 3 บาท ปริมาณ 80,000 ตัน
3.มาตรการเสริมสภาพคล่องให้ผู้ส่งออกโดยจะช่วยเหลือดอกเบี้ย 3 %และช่วยผู้ส่งออกที่ส่งออกผลไม้อีกกิโลกรัมละ 5 บาท ปริมาณ 60,000 ตัน
4. กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สนับสนุนให้มีการใช้พระราชบัญญัติเกษตรพันธสัญญา การทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าด้านผลไม้ โดยจะสนับสนุนให้มีการทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เพื่อเกษตรกรได้ทราบว่าขายผลไม้ได้เท่าไหร่ มีคนซื้อที่มีหลักประกัน เซ็นสัญญาตามกฎหมายชัดเจนไม่ต่ำกว่า 30,000 ตัน
5.มาตรการส่งเสริมการบริโภคผลไม้ในประเทศเป็นต้น

 

ส่วนในกรณีเกิดวิกฤติได้มีการออก5มาตรการแก้ไขปัญหาล่วงหน้าทั้งระบบ ปี 2565 ได้แก่
1) มาตรการป้องกันเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับเหตุการณ์ไม่ปกติ
2) มาตรการช่วยเหลือในการกระจายสินค้า ควบคุม คุณภาพและกระตุ้นการบริโภคผลไม้
3) มาตรการช่วยเหลือสนับสนุนการส่งออกผลไม้ไทย
4) มาตรการแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่มผลไม้
5) มาตรการช่วยเหลือเยียวยาและฟื้นฟูเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไม่ปกติ

นายอลงกรณ์ได้ชี้แจงประเด็นเรื่อง GAPว่า กรมวิชาการมีการถ่ายโอนภารกิจมอบให้เอกชนรับรองแปลงสวน GAP ตาม มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อปี 2553ตั้งแต่ วันที่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นมา นำร่องแปลงที่มีพื้นที่มากกว่า 50 ไร่ ปีที่สอง จะถ่ายโอนตั้งแต่พื้นที่ 20 ไร่ ขึ้นไป ปีที่สาม จะถ่ายโอนตั้งแต่ พื้นที่ตั้งแต่ 10 ไร่ ขึ้นไป และในปีสุดท้ายจะถ่ายโอนภารกิจทั้งหมด โดยที่กรมวิชาการเกษตรจะตรวจรับรองให้เฉพาะสมาชิกของกลุ่มเกษตรกร สหกรณ์การเกษตร เกษตรแปลงใหญ่ และกลุ่มวิสาหกิจ ชุมชน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ทางราชการจัดตั้งขึ้นมาเท่านั้น

 

โดยมีหน่วยตรวจรับรองเอกชน
ที่ได้รับการถ่ายโอนภารกิจตรวจรับรองมาตรฐาน GAP แทนราชการ โดยกรมวิชาการจะดูแลอัตราค่าบริการที่เหมาะสมเป็นธรรม ซึ่งนายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ เป็นประธาน คณะกรรมาธิการฯแสดงความพอใจต่อการชี้แจงครั้งนี้และการทำงานของฟรุ้ทบอร์ดและจะทำหนังสือเป็นข้อเสนอถึงรัฐมนตรีเกษตรฯ.ในฐานะประธานFruit Boardต่อไป

นายอลงกรณ์กล่าวในท้ายที่สุดขอบคุณคณะกรรมาธิการฯ.ที่ห่วงใยชาวสวนและมีข้อเสนอที่ดีโดยคณะกรรมการบริหารจัดการผลไม้ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรเป็นประธานจะมีการประชุมครั้งต่อไปวันที่ 17 ก.พ.และจะนำข้อเสนอจากคณะกรรมาธิการเข้าสู่วาระการประชุมเพื่อพิจารณาปัญหาความเดือนร้อนของชาวสวนลำไย ฤดูกาลผลิตปี 2564 และแนวทางช่วยเหลือเช่นมาตรการเยียวยาทั้งนี้ขึ้นกับคณะรัฐมนตรี รวมทั้งข้อเสนอของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาคมต่างๆเช่นเรื่องGreen lane เรื่องด่าน เรื่องการผ่อนผันผ่อนปรนGAPสำหรับเกษตรกรซึ่งรู้สึกเห็นใจเกษตรกรที่ต้องมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะชาวสวนรายย่อย

Related Articles

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button