“สุพัฒนพงษ์” ยืนยันเดินหน้าโรงไฟฟ้าชุมต่อไป ชี้ประชาชนกำลังรอโครงการอยู่ ส่งซิกให้วิสาหกิจชุมชนเตรียมความพร้อมรอลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ลั่นเดินหน้าคิกออฟ เฟส 2 ไตรมาส 3 ปีนี้ ขณะที่วงในเผย ป.ป.ช. เตรียมสรุปผลฮั้วประมูลโรงไฟฟ้าชุมชนเฟสแรกประมาณ 13 โครงการจากทั้งหมด 43 โครงการ
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โครงการนำร่อง) จำนวน 150 เมกะวัตต์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หลังจากมีผู้ร้องเรียนว่าโครงการดังกล่าวผิดพ.ร.บ. ฮั้ว ประมูลว่า โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนยังเดินหน้าต่อไปอย่างแน่นอน ซึ่งที่ผ่านมาได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ไปติดตามความคืบหน้ากับป.ป.ช. แต่ก็ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนว่า มีโรงไฟฟ้าชุมชนที่ไหนบ้างทำผิดกฎหมายฮั้วประมูล ซึ่งเราก็มองว่าถ้าหากมีโรงไฟฟ้าชุมชนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำผิดกฏหมายฮั้วประมูลก็ควรจะได้เซ็นสัญญาซื้อขายไฟต่อไป
“ผมทราบมาว่าในเดือนกรกฎาคม 2565 ทาง ป.ป.ช.จะมีการแจ้งผลการสอบสวนการฮั้วประมูลโรงไฟฟ้าชุมชน ส่วนผลการสอบสวนจะออกมาว่ามีเป็นโรงไฟฟ้ารายไหนบ้างมีความผิด หรือมีความผิดแบบเหมายกเข่งทั้งหมด ผมได้มอบให้สำนักงาน กกพ. ไปสอบถาม ป.ป.ช. ให้ชัดเลย เพราะว่าผลสอบสวนออกมาความผิดจะเหมาเข่ง หรือไม่เหมาเข่งก็ต้องไปดู ถ้ามีการเหมาเข่งสาเหตุมาจากอะไรผมก็ต้องไปดู เพราะประชาชนในพื้นที่เขากำลังรอโรงไฟฟ้าชุมชนอยู่”
นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวถึงที่ผ่านมามีการเลื่อนการลงนามซื้อขายไฟฟ้าและการจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์โรงไฟฟ้าชุมชน ว่า สาเหตุไม่ได้มาจากกระทรวงพลังงาน แต่เพื่อให้การดำเนินการประมูลโรงไฟฟ้าชุมชนเป็นไปอย่างโปร่งใส และเคารพสิทธิเสรีภาพในการยื่นเรื่องให้มีการสอบสวน จึงต้องปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ในทางตรงกันข้ามถ้าหากสำนักงาน กกพ. ยังเดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนต่อไป ขณะที่มีการสอบสวนเรื่องการประมูลอยู่ที่ ป.ป.ช. เกรงว่าจะไม่มีความเหมาะสม
“ที่ผ่านมาเราถาม ป.ป.ช. ไปว่า ครบกำหนดที่จะลงนามซื้อขายไฟฟ้าแล้ว แต่ทาง ป.ป.ช. บอกว่ายังไม่พร้อมที่จะแจ้งผลสอบสวน เพราะการพิจารณายังไม่แล้วเสร็จ และเพื่อความรอบคอบจึงได้ขอต่อเวลาการพิจารณาออกไป เราก็ได้แต่บอกประชาชนว่า การดำเนินการโรงไฟฟ้าชุมชนอย่าไปหยุดนะ ระหว่างนี้ขอให้วิสาหกิจชุมชนดำเนินการคอนแทรคฟาร์มมิ่ง หรือเข้าไปสำรวจพื้นที่ เตรียมความพร้อมเรื่องน้ำ เมื่อถึงเวลาอนุมัติก็จะได้ดำเนินการทันที”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาสำนักงาน กกพ. ได้ลงนามประกาศเปลี่ยนแปลงกรอบระยะเวลาลงนามซื้อขายไฟฟ้าโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน ครั้งที่ 3 ตามที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) หรือ PEA เสนอ โดยให้เลื่อนจากเดิมวันที่ 21 เมษายน 2565 ไปก่อนวันที่ 2 กรกฎาคม 2565 ซึ่งการพิจารณาของ ป.ป.ช. คาดว่าจะสรุปผลการสอบสวนคดีฮั้วประมูลโรงงานไฟฟ้าชุมชนก่อนวันที่ 2 กรกฏาคม 2565 เพื่อที่จะให้มีการลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าได้ทันตามกำหนด
นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวถึงการผลักดันโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน เฟส 2 ตามแผน PDP 2018 Rev.1 จำนวน 400 เมกะวัตต์ ว่า คาดว่าจะเปิดประมูลได้ในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ ซึ่งเป็นไปตามแผน PDP ที่เน้นพลังงานสะอาด พลังงานเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ที่มีราคาไม่แพง
ด้านแหล่งข่าวระดับสูงจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยกับ “สำนักข่าวไทยมุง” ว่า ทราบข้อมูลมาว่า ป.ป.ช.จะสรุปผลการพิจารณาคดีฮั้วประมูลโรงไฟฟ้าชุมชนก่อนวันที่ 2 กรกฏาคม 2565 เพื่อจะให้ทันการลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าตามที่ สำนักงาน กกพ. ได้ออกประกาศเอาไว้ก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ เบื้องต้นผลการพิจารณาฮั้วประมูลโรงไฟฟ้าชุมชนพบว่า มีการฮั้วประมูลจริง แต่เป็นการทำผิดกฏหมายเป็นรายโครงการ ไม่ได้มีความผิดแบบเหมาเข่งทั้งหมด โดยมีโรงไฟฟ้าชุมชนที่ทำผิดพ.ร.บ.ฮั้วประมูลประมาณ 13 โครงการ จากทั้งหมด 43 โครงการ ดังนั้น โรงไฟฟ้าชุมชนที่ไม่ได้ทำผิดกฏหมายก็สามารถเดินหน้าลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าต่อไปได้
