พลังงาน
ตอบรับหุ้นกู้ “บี.กริม เพาเวอร์” 1.2 หมื่นล้าน คึกคัก
ดร. ฮาราลด์ ลิงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ตามที่ บี.กริม เพาเวอร์ มีแผนระดมทุนผ่านการออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิและหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) จำนวนรวมไม่เกิน 12,000 ล้านบาท และมีส่วนสำรองการเสนอขาย (Green shoe) ไม่เกิน 2,000 ล้านบาทนั้น ได้รับผลตอบรับจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดี จากการแสดงความจำนงในการลงทุน (Bookbuilding) ในหุ้นกู้จำนวนมากจากผู้ลงทุนทุกกลุ่ม ทั้งกลุ่มประกันชีวิต บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กองทุนภาครัฐ สหกรณ์ออมทรัพย์ และสถาบันการเงินอื่น ๆ ทำให้บริษัทฯ ตัดสินใจใช้สัดส่วนของ Green shoe รวมเป็นการออกหุ้นกู้ทั้งหมด 12,200 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการของผู้ลงทุนที่มีความเชื่อมั่นในบริษัทฯ”
โดยการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ มีจำนวน 5 รุ่น ประกอบด้วย หุ้นกู้อายุ 3 ปี จำนวน 4,200 ล้านบาท หุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) อายุ 3 ปี จำนวน 300 ล้านบาท หุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) อายุ 5 ปี จำนวน 3,000 ล้านบาท หุ้นกู้อายุ 7 ปี จำนวน 2,150 ล้านบาท และหุ้นกู้อายุ 10 ปี ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนวันครบกำหนดไถ่ถอน จำนวน 2,550 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ดังกล่าว ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับ “A-” แนวโน้ม “คงที่” จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2565 โดยการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ เป็นการเสนอขายต่อผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ และมีกำหนดการจองซื้อในวันที่ 6 และวันที่ 9 – 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 และออกหุ้นกู้ในวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 โดยมีผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ 5 ราย ประกอบด้วย ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ดร. ฮาราลด์ ลิงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางบริษัทฯ ขอขอบพระคุณผู้ลงทุนทุกท่านที่ให้ความสนใจในการลงทุนในหุ้นกู้ของ บี.กริม เพาเวอร์ ท่ามกลางสภาพตลาดที่ยังคงมีความผันผวนจากสถานการณ์ตลาดเงิน สถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมถึงผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาหรือ COVID-19 โดย บี.กริม เพาเวอร์ จะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ เพื่อใช้สำหรับการลงทุนในโครงการต่าง ๆ ของบริษัทฯ และ/หรือ ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ โดยในส่วนที่ได้จากการเสนอขาย Green Bond มูลค่า 3,300 ล้านบาท จะนำไปใช้เพื่อทดแทนเงินลงทุนของบริษัทฯ สำหรับโครงการที่เกี่ยวข้องกับพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) ทั้งโครงการที่เปิดดำเนินการแล้วและโครงการใหม่ ซึ่งได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (โครงการ Ray Power ประเทศกัมพูชาและโครงการ reNIKOLA ประเทศมาเลเซีย) โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม (โครงการบ่อทอง วินด์ฟาร์ม ประเทศไทย) และโครงการพลังงานหมุนเวียนในสาธารณรัฐเกาหลี หุ้นกู้ที่บริษัทฯ ออกในครั้งนี้มีต้นทุนที่เหมาะสม และเชื่อมั่นว่าเป็นการสร้างฐานผู้ลงทุน สำหรับการเสนอขายหุ้นกู้ในอนาคต การสนับสนุนจากผู้ลงทุนในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในบริษัทฯ ทั้งด้านผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์สูงและยาวนานในธุรกิจ ความเป็นผู้นำด้านการดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าและไอน้ำที่มีความเป็นเลิศและมีมาตรฐานระดับโลก ซึ่งบริษัทฯ ได้ดำเนินธุรกิจอย่างมั่นคงในประเทศไทยมายาวนาน และจะเติบโตคู่กับประเทศไทยต่อไป