อั้นไม่ไหว! ปรับขึ้นราคาดีเซลลิตรละ 1 บาท
คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เห็นชอบปรับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นลิตรละ 1 บาท หลังจากสถานการณ์ราคาพลังงานในตลาดโลกยังผันผวนต่อเนื่องจากหลากหลายปัจจัยที่เกิดกับประเทศยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจ ทั้งการเปิดประเทศของจีน มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเชีย และน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ที่ลดลง หวังการปรับอัตราดีเซลช่วยเสริมสภาพคล่องให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสามารถดูแลราคาขายปลีกดีเซลในประเทศได้ยาวนานขึ้น โดยปัจจุบันฐานะกองทุนน้ำมันติดลบมากกว่า 8 หมื่นล้านบาท
วันนี้ (30 พ.ค. 65) นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้พิจารณาทบทวนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลประจำสัปดาห์ โดยมีมติให้ปรับขึ้นราคาน้ำดีเซลลิตรละ 1 บาท เนื่องจากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกยังคงมีความผันผวน ราคาน้ำมันดีเซล (Gas Oil) อยู่ที่ 149.49 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล (27 พ.ค.2565) จากเดิมสัปดาห์ก่อนราคาประมาณ 138 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ราคาที่ปรับเพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากหลายปัจจัย ทั้งเรื่องการเปิดประเทศของจีน มาตรการคว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเชีย ตลอดจนน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ปรับลดลง และจากการประเมินราคาน้ำมันดิบในช่วงสัปดาห์หน้ายังคงมีราคาสูงหากไม่มีปัจจัยที่มีนัยสำคัญเกิดขึ้น
การปรับราคาดังกล่าวเป็นการทยอยปรับขึ้นเพื่อไม่ให้กระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนมากนัก ส่งผลให้ราคาขายปลีกดีเซลปรับจากลิตรละ 31.94 บาท เป็นลิตรละ 32.94 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป
สำหรับมาตรการช่วยเหลือด้านราคาน้ำมันดีเซล มีมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2565 เกี่ยวกับมาตรการลดค่าครองชีพประชาชน โดยรัฐจะเข้าไปช่วยเหลือส่วนที่ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นครึ่งหนึ่ง ซึ่ง กบน. ได้พิจารณาปรับราคาน้ำมันดีเซลครั้งแรกมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นมา โดยปรับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 32 บาทต่อลิตร และจะทยอยปรับขึ้นลงตามสถานการณ์เป็นรายสัปดาห์ รวมทั้งขยายมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลรอบที่ 2 โดยปรับลดอัตราภาษีลง 5 บาทต่อลิตร ตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม ถึง 20 กรกฎาคม 2565 ทั้งนี้ อัตราภาษีที่ลดลง 5 บาทต่อลิตร คิดเป็นฐานภาษีที่ลดจริงสำหรับดีเซล B5 อยู่ที่ 4.65 บาทต่อลิตร และการลดภาษีนี้ไม่ได้ลดราคาหน้าสถานีน้ำมันทันที เพราะต้องนำมาช่วยกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงพยุงราคาดีเซลให้อยู่ในราคาที่เหมาะสมได้ยาวนานยิ่งขึ้น
ประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงปัจจุบัน วันที่ 29 พฤษภาคม 2565 ติดลบ 81,395 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 45,968 ล้านบาท และบัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 35,427 ล้านบาท