กลุ่ม ปตท. ผนึกพันธมิตรจัดตั้ง Thailand CCUS Consortium ตอกย้ำเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
กลุ่ม ปตท. ผนึกพันธมิตรภาครัฐและเอกชน จัดตั้ง Thailand CCUS Consortium ตอกย้ำเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ของประเทศ
วันนี้ (20 กค. 65) นายนพดล ปิ่นสุภา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ที่ 4 จากขวา) พร้อมด้วยผู้บริหาร กลุ่ม ปตท. ประกอบด้วย นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (ที่ 3 จากขวา) นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) (ที่ 2 จากขวา) นายวริทธิ์ นามวงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์เคมีมูลค่าเพิ่ม บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (ที่ 3 จากซ้าย) และ นางรสยา เธียรวรรณ รองกรรมมการผู้จัดการใหญ่พัฒนาธุรกิจ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ชินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (ขวา) พร้อมด้วยพันธมิตรภาคการศึกษาและภาคเอกชน ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (นำโดย ศาสตราจารย์ ดร.สุพจน์ เตชวรสินกุล คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์)
บริษัท เอส ซี จี ซีเมนต์ จำกัด (มหาชน) บริษัท บางกอกอินดัสเทรียลแก๊ส จำกัด และ บริษัท สหวิริยาสตีล อินดัสตรี จำกัด (มหาชน) ประกาศจัดตั้งกลุ่มความร่วมมือการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการดักจับ ใช้ประโยชน์ และกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ “CCUS Consortium” ภายในงาน Future Energy Asia 2022 โดยมีนางเปรมฤทัย วินัยแพทย์ รองปลัดกระทรวงพลังงานให้เกียรติร่วมเป็นสักขีพยาน พร้อมด้วยหน่วยงานภาครัฐและองค์กรสาธารณะเป็นที่ปรึกษา ได้แก่ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดักจับใช้ประโยชน์ และกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon Capture, Utilization and Storage: CCUS) ที่ได้จากภาคอุตสาหกรรมหลักของประเทศ ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการปล่อย CO2 ในกิจกรรมต่าง ๆ นับเป็นก้าวสำคัญของความร่วมมือระดับประเทศในการพัฒนาต้นแบบเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพ ตลอดจนขับเคลื่อนองค์กรและประเทศไทยให้บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ยกระดับการพัฒนาประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืนต่อไป