ทุกวันนี้เราเดินทางไปไหนมาไหน มักจะเห็นรถยนต์ไฟฟ้า (EV) วิ่งตามท้องถนนมากขึ้นจนผิดหูผิดตา มีทั้งรุ่นใหญ่แบบ SUV สุดเท่ห์ และมินิคาร์สวยไฉไล เห็นแล้วก็อยากจะหามาลองขับดูสักคัน
รถยนต์ EV ในบ้านเราได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ส่วนหนึ่งอาจจะมาจากเหตุผล ราคาน้ำมันมีราคาแพงจนเกินไป บวกกับกระแสรักษ์โลก รักษ์พลังงานสะอาด และมาตรการจูงใจจากภาครัฐแบบจัดเต็ม…ทุ่มไม่อั้น ทำให้คนหันมาใช้กันอย่างคึกคัก
กลายเป็นปัจจัยกระตุ้นการตัดสินใจอย่างไม่ลังเลที่จะซื้อหารถยนต์ EV มาไว้ใช้งานที่บ้านเป็นคันที่ 2 และคันที่ 3
ภาพคนเลือกหารถยนต์ EV ตามบูธต่างๆ ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป เมื่อเดือนธันวาคม 2565 จนบูธแทบแตก ส่งผลให้มียอดจองสูงถึง 5,800 คันทีเดียว นี่ยังไม่รวมยอดจองผ่านทางดีเลอร์ทั้งจากค่ายจีน และสหรัฐอเมริกาอีกไม่ต่ำกว่า 15,000 คัน
ทำให้ภาพรวมปี 2565 มีรถยนต์ EV ใหม่เพิ่มขึ้นถึง 20,816 คัน จากปี 2564 ที่เพิ่มเข้ามาเพียง 5,781 คัน หรือเติบโตแบบก้าวกระโดดถึง 260% เลยทีเดียว
และเชื่อเหลือเกินว่าในปี 2566 รถยนต์ EV ยังจะมาแรง ดีไม่ดียอดจดทะเบียนอาจจะแซงรถยนต์เครื่องไฮบริดเลยก็เป็นได้ ตัวชี้วัดจากบรรยากาศการประชันโฉมรถยนต์ EV ของค่ายรถยักษ์ใหญ่จากจีน ยุโรป และสหรัฐ ในงานมอเตอร์โชว์ วันที่ 22 มีนาคม – 2 เมษายน 2566 นี้…น่าจะเป็นคำตอบได้ดีที่สุด
แต่การเติบโตของรถยนต์ EV รวดเร็วอย่างมีนัยสำคัญ ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ในการพัฒนา Ecosystem มาไว้รองรับ อย่างจุดชาร์จไฟฟ้าตามที่สาธารณะ หรือตามถนนสายหลักให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งตอนนี้เริ่มไม่แนใจแล้วว่าจะมีเพียงพอกับปริมาณรถยนต์ EV ที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดหรือไม่ ?
ปัญหาจุดชาร์จไฟรถยนต์ EVไม่เพียงพอ ดูจะเป็นเรื่องใหญ่ทีเดียว ที่ผ่านมามักจะเกิดการแย่งที่ช่องจอดหลายต่อหลายครั้ง ถึงขนาดมีเสียงเรียกร้องให้ภาครัฐออกระเบียบจ่ายค่าปรับ กรณี “จอดแช่” เมื่อชาร์ตไฟฟ้าเต็มแล้ว…ก็มีมาแล้ว.!!
โดยเฉพาะช่วงเทศกาลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตรุษจีน ปีใหม่ สงกรานต์ หรือวันหยุดยาว จะมีรถยนต์ EV ออกเดินทางพร้อมกันเป็นจำนวนมาก มักจะเกิดปัญหาจุดชาร์จไม่เพียงพอ เกิดการแย่งจุดชาร์จกันบ่อยครั้ง
แม้ว่าผู้ใช้รถยนต์ EV จะจองคิวชาร์จไฟผ่านแอพฯ เรียบร้อยแล้ว แต่คันชาร์จก่อนไม่ยอมออกจากจุดชาร์จ ก็ทำให้ระบบรวนได้เหมือนกัน
และเรื่องมารยาทการใช้รถ ใช้ถนน ในบ้านเราขึ้นชื่อว่า Thailand Only กันอยู่แล้ว เชื่อหรือไม่ว่า เคยมีผู้ใช้รถยนต์ EV บางคนนำรถมาจอดในจุดชาร์จแล้วนำสายชาร์จมาคล้องไว้ แต่ไม่ได้ทำการชาร์จไฟ เพียงเพราะต้องการหาที่จอด เพื่อไปทำธุรกิจส่วนตัว ทำให้ผู้ใช้รถยนต์ EV คันอื่นๆ เสียโอกาสในการชาร์จไฟ…แบบไม่ควรจะเกิดขึ้นอย่างยิ่ง
และว่ากันว่าในปี 2568 รถยนต์ EV จะมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 300,000 คัน การเร่งขยายจุดชาร์จให้เพียงพอ จึงเป็นเรื่องที่ต้องส่งเสริมอย่างเร่งด่วน เช่นเดียวกับการส่งเสริมรถยนต์ EV
ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เป็นการชวนคิด ชวนคุย เพื่อร่วมด้วยช่วยกันพัฒนา Ecosystem รถยนต์ไฟฟ้าให้ผู้ใช้เกิดความสะดวกสบาย…คล้อยหลังวันหยุดเทศกาลตรุษจีน
และไม่ลืมจะกล่าว “ซินเจียยู่ ซินนี่ฮวดใช้” ย้อนหลังวันขึ้นปีใหม่กับทุกๆ ท่านนะครับ ขอให้มีความสุข เฮงๆ รวยๆ ทุกท่านครับ
