บทความ

ชี้ Digital Wallet โอนเงิน 10,000 บาททำได้ ไม่เกิดปัญหา หากไม่กู้เงินเกินเพดาน

คาดรัฐบาลใหม่เจอแรงกดดันทางการคลัง Digital Wallet โอนเงิน 10,000 บาททำได้ ไม่เกิดปัญหา หากไม่กู้เงินเกินเพดาน เผยราคาน้ำมันมีแนวโน้มทะลุ 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล  ดันเงินเฟ้อจากราคาน้ำมันแพงระลอกใหม่ บาทแข็ง เศรษฐกิจโลกชะลอกระทบส่งออก

รศ. ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลใหม่หลังการเลือกตั้งจะมีแรงกดดันทางการคลังและภาระทางการคลังเพิ่มขึ้น ขณะนี้ยอดหนี้สาธารณะคงค้างทั้งหมดอยู่ที่ 10.72 ล้านล้านบาทคิดเป็น 61.13% ของจีดีพี หนี้สาธารณะก้อนนี้ยังไม่รวมภาระผูกพันทางการคลังที่อาจเกิดขึ้นอีกจำนวนไม่น้อยจากโครงการต่างๆของรัฐบาลรวมทั้งความเสียหายทางการเงินจากใช้มาตรการกึ่งการคลังผ่านธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ จากข้อมูลล่าสุด พบว่า หนี้ที่รัฐบาลค้ำประกันยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยมีการรถไฟแห่งประเทศไทยเพิ่มขึ้น 600 ล้านบาท องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพเบิกจ่ายเงินกู้เพิ่ม 668 ล้านบาท การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 10,000 ล้านบาท เงินกู้ในประเทศเพื่อให้รัฐวิสาหกิจกู้ต่อในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐยังคงเพิ่มขึ้น 11,305 ล้านบาท หนี้กองทุนฟื้นฟูฯจากวิกฤตการณ์สถาบันการเงินปี 40 ยังทรงตัวอยู่ที่ 6.7 แสนล้านบาท สถานการณ์หนี้สาธารณะของไทยภาพรวมยังอยู่ในภาวะที่ต้องบริหารจัดการด้วยความระมัดระวัง

หากรัฐบาลใหม่สามารถทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจอยู่ที่ระดับ 5-6% จะทำให้ความเสี่ยงฐานะการคลังลดลง กรณีการนำเสนอนโยบายโอนเงินผ่านดิจิทัล วอลเลต Digital Wallet จำนวน 5,000-10,000 บาทให้ประชาชนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป เป็นระยะเวลา 6 เดือน ประมาณ 50 ล้านคนนั้นถือเป็นนโยบายแจกเงินให้กับประชาชนโดยตรง แต่ได้ปิดจุดอ่อนของมาตรการแจกเงินที่เคยทำกันมาและบัตรสวัสดิการคนจน โดยการโอนเงินหรือแจกเงิน เป็น มาตรการ Income Transfer ให้กับครอบครัวผู้มีรายได้น้อย หรือ ใช้บรรเทาความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ Digital Wallet ได้ออกแบบให้ใช้ Token หรือ Digital Coin ในชุมชนรัศมี 4 กิโลเมตร ทำให้แก้ปัญหารับเงินโอนจากรัฐแล้วเอาไปซื้อสินค้าในเครือข่ายห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ เม็ดเงินไม่กระจายมายังธุรกิจขนาดย่อมขนาดเล็ก การกำหนดรัศมีในการใช้ Token ทำให้ผลประโยชน์จากการใช้พุ่งตรงไปที่เครือข่ายร้านค้าชุมชน ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากและการจ้างงานสาธารณะได้ดีกว่า นอกจากนี้ยังสามารถใช้แอพลิเคชันในการหางานทำในชุมชน สามารถใช้แอพลิเคชันในการค้นหาหลักสูตรฝึกอบรมต่างๆเพื่อ Upskill Reskill และ สร้างทักษะความสามารถใหม่ New skill ได้ ระบบดิจิทัลผ่านแอพลิเคชันทำให้สามารถบริหารจัดการข้อมูลเพื่อประโยชน์ในการกำหนดนโยบาย กำกับประสิทธิภาพและประเมินผลนโยบายได้ดียิ่งขึ้น

รศ. ดร. อนุสรณ์ กล่าวอีกว่า Digital Wallet อยู่บนฐานคิดการกำหนดนโยบายจากฐานเรื่องสิทธิของประชาชนอันเป็นส่งเสริมค่านิยมประชาธิปไตย มากกว่า ฐานคิดแบบสังคมสงเคราะห์ที่ส่งเสริมวัฒนธรรมอุปถัมภ์ ข้อควรระวังของนโยบายลักษณะโอนเงินหรือแจกเงินไม่จะใช้ฐานคิดหรือวิธีการแบบไหน คือ หากเศรษฐกิจไม่สามารถขยายตัวได้ตามเป้า ไม่สามารถจัดเก็บภาษีมาสนับสนุนได้มากพอและต้องก่อหนี้อาจเกิดความเสี่ยงทางการคลังได้ เนื่องจากนโยบายดิจิทัล วอตเลทเป็นมาตรการที่ใช้เม็ดเงินงบประมาณสูงถึง 2.5-5 แสนล้านบาท มาตรการนี้ประสบความสำเร็จโดยมีเงื่อนไขว่า อัตราความโน้มเอียงในการบริโภคของครอบครัวที่มีรายได้น้อยอยู่ที่ประมาณ 0.7 และ ตัวทวีคูณทางการคลังอยู่ที่ 6 เท่า ก็จะทำให้มูลค่าจีดีพีเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านล้านบาท (กรณีโอนเงิน 5,000 บาท) และ เพิ่มขึ้น 3 ล้านล้านบาท (กรณีโอนเงิน 10,000 บาท) ทำให้การตั้งเป้าหมายให้เศรษฐกิจเติบโตเต็มศักยภาพที่ระดับ 5-6% มีความเป็นไปได้

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลต้องพยายามเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT เพิ่มให้ได้อย่างน้อย 2 แสนล้านบาทและภาษีอื่นๆอีกอย่างน้อย 5 หมื่นล้านบาท ทำให้การที่กู้เงินจำนวนมากๆมาสนับสนุนโครงการลดลง การกำหนดระยะเวลาในการใช้ไว้ที่ 6 เดือน หรือ Digital coin จะหมดอายุใน 6 เดือน คาดหวังว่าจะไม่เกิดตลาดรอง และ ไม่ควรสร้างปัญหาซับซ้อนต่อการทำหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทยในการควบคุมปริมาณเงิน การดูแลปริมาณเงินเป็นหน้าที่ของแบงก์ชาติผ่านนโยบายการเงิน หากมีการโอนเงินซ้ำซ้อนต้องนำเทคโนโลยี Blockchain มาช่วยจัดการ Digital Wallet ไม่ให้ซ้ำซ้อนกับบัตรสวัสดิการคนจนที่ให้ก่อนหน้านี้

รศ. ดร. อนุสรณ์ กล่าวต่อถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันล่าสุดว่า ราคาน้ำมันอาจทดสอบระดับ 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลอีกครั้งหนึ่งหลังโอเปคพลัสประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมันอีก 1.16 ล้านบาร์เรลต่อวัน ทำให้ประเทศนำเข้าน้ำมันและพลังงานอย่างไทย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่นและอินเดียได้รับผลกระทบเศรษฐกิจ ไทยอาจขาดดุลการค้าต่อเนื่องและอัตราเงินเฟ้ออาจไม่ลดลงมากอย่างที่คาดการณ์ไว้เดิม สร้างแรงกดดันต่อนโยบายการเงินที่ต้องรักษาสมดุลระหว่างการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ควบคุมเงินเฟ้อตามเป้าหมาย และ ระบบเศรษฐกิจที่มีขีดจำกัดจากสัดส่วนหนี้สูง มาตรการเข้มงวดทางการเงินอาจส่งผลต่อการชะลอตัวการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคและการลงทุนได้ เงินเฟ้อจากราคาน้ำมันแพงระลอกใหม่ บาทแข็งจากเงินทุนระยะสั้นไหลเข้าตลาดการเงินไทย เศรษฐกิจคู่ค้าชะลอ กระทบส่งออกไทย ส่อเค้าขยายตัวติดลบปีนี้

Related Articles

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button