“พีระพันธุ์” แย้มแผนลดค่าไฟทุกกลุ่มใช้งบกลางช่วยกลุ่มเปราะบาง 3.99 บาทต่อหน่วย พร้อมแก้ปัญหาปลดภาระหนี้ให้ กฟผ.
“พีระพันธุ์” เร่งดำเนินทุกมาตรการลดค่าไฟฟ้าให้ครอบคลุมทุกภาคส่วน ทั้งเอกชน ประชาชนทั่วไป ชี้กลุ่มเปราะบางใช้งบกลางช่วย 3.99 บาทต่อหน่วย พร้อมแก้ปัญหาปลดภาระหนี้ให้ กฟผ. หลังคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานเคาะค่าไฟงวดมกราคม – เมษายน 2567 ที่ 4.68 บาทต่อหน่วย ยืนยันเร่งเดินหน้าเต็มที่ พร้อมผลักดันให้ทันเป็นของขวัญปีใหม่ 2567
วันนี้ (8 ธันวาคม 2566) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ตามที่มีหลายฝ่ายออกมาแสดงความคิดเห็นและความกังวลเกี่ยวกับค่าไฟฟ้างวดใหม่ (มกราคม – เมษายน 2567) หลังจากที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานประกาศที่ราคา 4.68 บาทต่อหน่วยนั้น ตนได้เร่งให้ทุกหน่วยงานหาทุกมาตรการเพื่อลดค่าไฟฟ้าให้ได้
ที่ผ่านมา ก็ได้มีการจัดประชุมสั่งการ โดยในเบื้องต้น ค่าไฟฟ้าที่ลดได้จะเกิดจาก 3 ส่วนหลักๆ ได้แก่ 1) การขยายหนี้ กฟผ. ออกไปอีก 1 งวด 2) การปรับโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติ และ 3) การกำหนดราคาขายก๊าซธรรมชาติของ ปตท.
ซึ่งแม้ว่าการดำเนินการทั้ง 3 มาตรการ จะทำให้ค่าไฟฟ้าลดลงจากที่ทาง กกพ. เสนอ แต่ทุกฝ่ายก็ยังจะพยายามหาช่องทางให้สามารถลดค่าไฟให้ได้มากขึ้น โดยเฉพาะค่าไฟสำหรับกลุ่มเปราะบาง ซึ่งเป็นกลุ่มที่รัฐบาลให้ความสำคัญเนื่องจากเป็นกลุ่มที่ได้รับความเดือดร้อนมากที่สุด
“หลังจากที่มีการประชุมในหลายๆ ครั้ง ทำให้เราได้เห็นตัวเลขและข้อมูลต่างๆ ที่จะนำมาประกอบการพิจารณาค่าไฟฟ้าได้มากขึ้น สิ่งที่ผมเพิ่งได้ดำเนินการซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน คือการปรับโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติ เป็นการปรับโครงสร้างที่จะมีความยั่งยืน ไม่ฉาบฉวย และไม่เป็นการสร้างภาระในอนาคต
ส่วนมาตรการขยายหนี้ กฟผ. ถือว่าเป็นแนวทางแก้ไขปัญหาระยะสั้น แต่ผมก็มีแผนที่จะเตรียมแก้ปัญหาให้ กฟผ. เพื่อปลดภาระหนี้ด้วย ส่วนการกำหนดราคาขายก๊าซธรรมชาติของ ปตท. ก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่งในการลดราคาค่าไฟได้
ซึ่งทั้ง 3 มาตรการที่จะดำเนินการนี้ แม้จะทำให้ค่าไฟฟ้าลดลงจากที่ทาง กกพ. เสนอ แต่ผมยังต้องการจะลดลงให้มากกว่านี้ ให้ครอบคลุมทุกภาคส่วน ทั้งประชาชนและเอกชน ผมเข้าใจถึงความเดือดร้อนของทุกฝ่าย โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่จะใช้งบกลางเพื่อให้ค่าไฟฟ้าลดลงเหลือ 3.99 บาทต่อหน่วย
ขอให้มั่นใจว่า ทุกคนทำงานอย่างเต็มที่ และทำอย่างเร็วที่สุดเพื่อให้ทันเป็นของขวัญปีใหม่ 2567 ให้แก่คนไทยทุกคนครับ” นายพีระพันธุ์ กล่าว