ยกเลิกงานคิกออฟโรงไฟฟ้าชุมชน “สนธิรัตน์” ลุยต่อเปิดประมูลนำร่อง Quick Win
“โควิด-19” เอฟเฟ็กต์ลามไปถึง “โรงไฟฟ้าชุมชน” ต้องยกเลิกงานคิกออฟโครงการกระทันหัน หวั่นคนเข้าร่วมงานกว่า 2 พันคนเสี่ยงติดเชื้อไวรัส “สนธิรัตน์” ชง “บิ๊กตู่” เดินหน้าต่อในจังหวะนั่งหัวโต๊ะประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการที่กระทรวงพลังงาน คาดได้ฤกษ์เปิดยื่นประมูลปลายมี.ค. นี้ นำร่องกลุ่ม Quick Win ด้านผู้ประกอบการประกาศพร้อมเต็มสูบ ส่วนเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนฯ หนุนเปิดประมูลพร้อมกันทั้ง 700 เมกะวัตต์ เหตุโครงการล่าช้ามามากแล้ว
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ในโอกาสที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเดินทางมาเป็นประธานการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 1 ประจำปี 2563 ที่กระทรวงพลังงาน เป็นเจ้าภาพ ในวันที่ 9 มีนาคม 2563 นี้ โดยกระทรวงพลังงานเตรียมเสนอความคืบหน้าโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน ขนาด 700 เมกะวัตต์ และการเปิดยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ครั้งที่ 23 บริเวณทะเลอ่าวไทย ให้พิจารณา
“โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานรากก่อนหน้านี้มีกำหนดจะเปิดตัวในวันที่ 11 มีนาคม 2563 นี้ โดยมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงได้ยกเลิกการจัดกิจกรรมที่มีคนมารวมกันมากๆ เสียก่อน ซึ่งโครงการนี้คาดว่าจะมีคนเข้ามาร่วมงานเปิดตัวมากถึง 2 พันคน”
นายสนธิรัตน์ ระบุว่า เมื่อยกเลิกงานเปิดตัวโรงไฟฟ้าชุมชนไปแล้ว แต่สามารถเริ่มเดินหน้าโครงการต่อไปได้เลย คาดว่าจะเปิดให้มีการยื่นข้อเสนอคัดเลือกผู้สนใจได้ประมาณปลายเดือนมี.ค. หรืออย่างช้าภายในต้นเดือนเม.ย. 2563 นี้ โดยจะเปิดยื่นข้อเสนอของกลุ่ม Quick Win ก่อน หลังจากนั้นค่อยเป็นกลุ่มทั่วไป ซึ่งเมื่อมีกำหนดหลักเกณฑ์การคัดเลือกเสร็จเรียบร้อยแล้วจะประกาศเป็นกฎกระทรวง แล้วส่งให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. ได้เปิดประชาพิจารณ์โครงการเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เมื่อขบวนการที่ กกพ. เสร็จเรียบร้อยแล้วสามารถเปิดให้ยื่นเสนอโครงการได้เลย
นายผจญ ศรีบุญเรือง นายกสมาคมการค้าก๊าซชีวภาพไทย กล่าวว่า ผู้ประกอบการในกลุ่มที่จะยื่น Quick Win มีความพร้อมอยู่แล้ว อยู่ที่รัฐบาลจะต้องรีบเปิดประมูลโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยภาครัฐไม่ต้องใช้เม็ดเงินลงทุนเลย ที่ผ่านมาภาคพลังงานหมุนเวียนพยายามช่วยคิดกติกาไม่ให้ภาครัฐมีค่าใช้จ่าย และกำจัดเศษวัสดุและขอเสียทางการเกษตรได้ด้วย
“เรามุ่งเน้นแก้ไขโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพที่สร้างไปแล้ว แต่มีปัญหาไม่ได้รับใบอนุญาตให้ขายไฟฟ้าได้ตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งเตรียมจะยื่นกลุ่ม Quick Win ทั้งหมด 33 โครงการ จำนวน 80 เมกะวัตต์ โดยส่วนใหญ่ใช้ก๊าซชีวภาพไม่ว่าจะเป็นโรงแป้ง ปาล์ม และพืชพลังงานเป็นวัตถุดิบป้อนโรงไฟฟ้า”
นายผจญ กล่าวด้วยว่า การกำหนดหลักเกณฑ์โรงไฟฟ้าชุมชนไม่ง่าย ซึ่งมีการพยายามร่างข้อกำหนดให้รัดกุมไม่ให้มีช่องโหว่ป้องกันการสอดแทรกที่ไม่ต้องการเข้ามา แต่ในทางปฏิบัติก็จะเป็นการผูกมัดตัวเองด้วย เช่น การปลูกพืชพลังงานแปลงใหญ่ ระบบคอนแทรคฟาร์มมิ่ง การดึงวิสาหกิจชุมชนที่มี 200 ครัวเรือนเข้ามา ซึ่งบางพื้นที่อาจจะมีข้อจำกัดในส่วนนี้ แต่ก็จะมีข้อดีสามารถแก้ปัญหาในอดีตที่โรงไฟฟ้ากับชุมชนมักจะมีปัญหาขัดแย้งกันได้
ด้านนายชัชพล ประสพโชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC กล่าวว่า บริษัทมีความพร้อมมากเข้ายื่นประมูลโรงไฟฟ้าชุมชนในกลุ่ม Quick Win ซึ่งได้ร่วมลงนาม MOU กับบริษัท พีอีเอ เอ็นคอมฯ เข้าร่วมถือหุ้นในสัดส่วนไม่เกิน 25% ในบริษัท ยูเอซี แอนด็ ทีพีที เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด และวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่เข้าถือหุ้น เพื่อนำโรงไฟฟ้าชุมชนที่ ต.นาฝาย อ.ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น ขนาด 3 เมกะวัตต์ เข้ายื่นประมูลโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนในกลุ่ม Quick Win
ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าที่ชุมชนที่ภูผาม่านของ UAC ใช้วัตถุดิบจากหญ้าเนเปียร์ จำนวน 300 ตันต่อวัน ใช้มีพื้นที่เพาะปลูกประมาณ 1,600 ไร่ รัศมีไม่เกิน 30 กิโลเมตร และเป็นการสร้างมีส่วนร่วมของชุมชนรอบโรงไฟฟ้า ซึ่งจะทำให้เกษตรกรรอบโรงไฟฟ้ามีรายได้จากการขายหญ้าเนเปียร์ป้อนโรงไฟฟ้าด้วย
ขณะที่นายนฤพล วันทูล ผู้จัดการเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนธนาคารต้นไม้ กล่าวว่า โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเปิดตัวตั้งแต่เดือนกันยายน 2562 และได้รับความสนใจจากวิสาหกิจชุมชนทั่วประเทศที่จะเข้าร่วมประมูล เพื่อแก้ปัญหาความยากจน สร้างรายได้ สร้างอาชีพให้กับเกษตรกร ขณะนี้ถือว่าล่าช้ามามากแล้ว จึงอยากให้กระทรวงพลังงานเปิดยื่นข้อเสนอเพื่อคัดเลือกผู้สนใจพร้อมๆ กันไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม Quick Win และกลุ่มทั่วไป เพราะไม่มีแหตุผลอะไรที่จะให้กลุ่มทั่วไปรอต่อไปอีก ตอนนี้ความพร้อมทั้งในส่วนของบริษัทที่จะลงทุน วิสาหกิจที่จะเข้าร่วม พื้นที่ปลูกพืชพลังงาน และเงินทุนด้วย
“ในวันที่ 16 มีนาคม นี้ ทางเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนทั่วประเทศได้นัดประชุมใหญ่กันที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อสรุปครั้งสุดท้ายเตรียมความพร้อมการยื่นโรงไฟฟ้าชุมชน 133 โรง จำนวนเกือบ 400 เมกะวัตต์ ซึ่งจะมีการหยิบยกประเด็นความล่าช้าของภาครัฐมาหารือกันด้วย”