“สนธิรัตน์”เปิดจำหน่ายแอลกอฮอล์ที่ปั๊มน้ำมัน พร้อมกระตุ้น ศก.เปิดยื่นขอโรงไฟฟ้าชุมชน 17 เม.ย.นี้
“สนธิรัตน์”เปิดจำหน่ายแอลกอฮอล์ผ่านปั๊มน้ำมัน พร้อมกระตุ้น ศก.เปิดยื่นข้อเสนอโรงไฟฟ้าชุมชน 17 เม.ย.นี้
“สนธิรัตน์” ประชุมออนไลน์ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพลังงาน เพื่อเตรียมพร้อมเดินหน้านโยบายและมาตรการด้านพลังงานต่อเนื่อง เพื่อเร่งกู้สถานการณ์การแพร่เชื้อ Covid-19 เตรียมเปิดช่องทางจำหน่ายแอลกอฮอล์ให้ประชาชนผ่านปั๊มน้ำมัน ปตท. บสงขาก และเชลล์ พจ้อมเร่งโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากดีเดย์เปิดยื่นข้อเสนอวันที่ 17 เม..ย.นี้ พร้อมยืดแผน E20 เป็นน้ำมันเบนซินฐานไปก่อนเพื่อนำเอทานอลพลังงานไปใช้เพื่อการสาธารณสุขก่อน ขณะเดียวกันเร่งให้ทุกหน่วยงานหามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจนำเสนอภายในสัปดาห์นี้
วันนี้ (30 มี.ค.63) กระทรวงพลังงานได้จัดประชุมผู้บริหารระดับสูง ผ่านระบบออนไลน์เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลในการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อ Covid-19 โดยที่ประชุมได้หารือเพื่อวางแผนนำมาตรการด้านพลังงานมาช่วยบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์ Covid-19 โดยมีประเด็นสำคัญ ได้แก่ การจำหน่ายแอลกอฮอล์ความเข้มข้น 70% โดยกระทรวงพลังงานจะเข้ามาร่วมผลักดันให้มีช่องทางการจำหน่ายเพิ่มขึ้นผ่านสถานีบริการน้ำมัน เช่น ปตท. บางจาก เชลล์ และผู้ค้ามาตรา 7 เพราะภายหลังจากกระทรวงพลังงานได้ปลดล็อกการนำแอลกอฮอล์ส่วนเกิน 1 ล้านลิตรเข้าสู่ตลาดแล้ว แต่เนื่องจากกลไกการกระจายสินค้ายังมีจำกัด กระทรวงพลังงานจึงเข้ามาร่วมผลักดันให้เกิดช่องทางจำหน่ายผ่านสถานีบริการน้ำมันเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเร่งรัดให้เกิดการจัดจำหน่ายได้เร็วที่สุด คาดว่าจะทำให้ปริมาณจำหน่ายแอลกอฮอล์มีเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน จะช่วยป้องกันปัญหาการระบาด Covid-19 ได้มาก ซึ่งที่ประชุมได้รับรายงานจาก ปตท. แจ้งว่าจะเริ่มจำหน่ายแอลกอฮอล์ให้ประชาชน ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 2563 เป็นต้นไป
ส่วนการขับเคลื่อนโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะสามารถประกาศเชิญชวนและรับข้อเสนอได้ตามกำหนดการเดิม ภายในวันที่ 17 เมษายน 2563 และจะพิจารณาแล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคม 2563 ซึ่งนโยบายนี้กระทรวงพลังงานจะเร่งรัดให้สามารถดำเนินการให้เร็วที่สุด เพราะจะมีส่วนช่วยนำรายได้จากการจำหน่ายเชื้อเพลิงชนิดต่างๆ กระจายสู่ระบบเศรษฐกิจฐานรากได้เพิ่มขึ้น
มาตรการส่งเสริมน้ำมันดีเซล B10 ปัจจุบันมียอดการใช้ประมาณกว่า 12 ล้านลิตร/วัน และคาดว่าเดือนเมษายนนี้น่าจะเป็นไปตามเป้าหมาย 20 ล้านลิตร/วันได้ แม้ว่าการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงจะลดลงบางส่วนจากสถานการณ์ Covid-19
รวมถึงจะมีมาตรการเพื่อตรวจสอบและป้องกันการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มจากต่างประเทศ
มาตรการส่งเสริมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ซึ่งสถานการณ์ขณะนี้อาจต้องชะลอแผนผลักดันให้ E20 เป็นน้ำมันเบนซินฐานออกไปก่อน เพราะมีความต้องการใช้เอทานอลเพื่อใช้ด้านสาธารณสุขเพิ่มขึ้น แต่ก็ได้ให้ทางกรมธุรกิจพลังงานได้เตรียมการไว้หากสถานการณ์กลับมาปกติจะเริ่มประกาศได้เมื่อใด
นอกจากนี้ ยังได้เตรียมการเพื่อเร่งมาตรการช่วยภัยแล้ง โดยเร่งรัดโครงการระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อการเกษตรที่ได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อรองรับภัยแล้งในปีนี้ ซึ่งปัจจุบันดำเนินการแล้วเสร็จพร้อมใช้ 2,265 ระบบ
ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานยังได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงพลังงานระดมหามาตรการเพื่อช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจในภาพรวมอีกด้วย โดยกล่าวว่า “ผมฝากผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงพลังงานได้ช่วยคิดแผนหรือมาตรการด้านพลังงานที่จะเข้ามาช่วยกระตุ้นและแก้ปัญหาเศรษฐกิจในขณะนี้ของประเทศ โดยกระทรวงพลังงานจะใช้ทุกองคาพยพที่มีอยู่เพื่อเข้าไปช่วยแก้ปัญหาปากท้องให้พี่น้องประชาชน ตลอดจนผู้ประกอบการ SMEs เพื่อก้าวผ่านอุปสรรคไปพร้อมๆ กัน”