“ส.ขอนแก่นฟู้ดส์” ออกมาตรการ ฝ่าวิกฤตโควิด-19
“ส.ขอนแก่นฟู้ดส์” เดินหน้าฝ่าวิกฤตโควิด-19 บริการลูกค้าตามมาตรการสาธารณสุขและกระทรวงมหาดไทยอย่างเคร่งครัด ดูแลจัดทำประกันให้พนักงานทุกคน ด้านกลุ่มลูกค้า เข้มงวดตั้งแต่เลือกวัตถุดิบจนถึงมือผู้บริโภค มั่นใจ สินค้าทุกชิ้นปลอดภัยและถูกสุขอนามัย รุกเสิร์ฟเดลิเวอรี่และออนไลน์ช็อปปิ้ง รองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น
นายจรัสภล รุจิราโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจอาหารพร้อมรับประทาน (RTE-QSR) บริษัท ส.ขอนแก่นฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SORKON ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์รายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโคโรน่า (COVID-19) ในปัจจุบัน บริษัทฯ ได้ตระหนักถึงความสำคัญและความปลอดภัยของพนักงานในองค์กร กลุ่มลูกค้าและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย โดยฝ่ายบริหารออกมาตรการเพื่อรับมือพร้อมติดตามประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อดำเนินการตามแผนบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ หรือ Business Continuity Plan (BCP) แบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก
1.มาตรการฝ่ายบริหาร จัดตั้งคณะกรรมการเพื่อควบคุมดูแลเหตุฉุกเฉินและกำหนดสายการสื่อสาร (Call Tree) เพื่อตัดสินใจและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่พนักงานอย่างเป็นระบบ 2.งานเทคโนโลยีการสื่อสาร (IT) หัวใจหลักของการดำเนินงานในภาวะนี้ บริษัทใช้ระบบ Cloud ในการเข้าใช้งานจากภายนอกบริษัท โดยผ่านระบบ VPN เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูล และจัดเตรียม Application สำหรับการสื่อสาร Online การส่งข้อมูล ให้รองรับแผนการ Work From Home โดยได้เตรียมความพร้อมอุปกรณ์ ในการทำงาน ระบบการสื่อสาร สิทธิในการเข้าใช้งาน รวมถึงความปลอดภัย เพื่อให้มั่นใจว่าพนักงานทุกคนปลอดภัยและสามารถปฎิบัติงานที่บ้านได้โดยธุรกิจยังดำเนินอย่างต่อเนื่อง
และ 3.งานบริหารทรัพยากรบุคคล (Human Resources) และ งานปฎิบัติการ (Operation) ฝั่งโรงงานและสำนักงานนั้น บริษัทฯ มีความห่วงใยในสุขภาพและสวัสดิภาพของพนักงาน ได้จัดทำกรมธรรม์คุ้มครองการติดเชื้อไวรัส โควิด-19 ให้กับพนักงานทุกคน พร้อมกำหนดมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดที่เป็นมาตรฐานตามคำแนะนำของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ทำความสะอาดจุดต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด รวมถึงฉีดพ่นฆ่าเชื้อบริเวณพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อโรค พร้อมให้ความรู้พนักงานเรื่องการดูแลป้องกันตัวเองและครอบครัวผ่าน Infographic ที่เข้าใจง่าย เพราะ บริษัทฯ เชื่อว่าหากพนักงานทุกคนมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง จะร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการให้เกิดผลจริงได้ ไม่ว่าจะเป็นการคัดกรอง พบว่าพนักงานให้ความร่วมมือตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าอาคารและยินดีบอกข้อมูลจริงในรายงานผลสุขภาพและพฤติกรรมเสี่ยงรายวัน (Call Tree) หรือ การเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) โรงงานมีการควบคุมอย่างเคร่ดครัด เช่น การรับประทานอาหารแบบเว้นระยะห่าง, การแบ่งจำนวนกลุ่มปฏิบัติงาน, การสวมหน้ากากอนามัยและสวมถุงมือทุกครั้งระหว่างปฏิบัติหน้าที่ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในทุกขั้นตอนการผลิต ให้สินค้าส่งตรงถึงมือผู้บริโภคอย่างถูกสุขอนามัย เป็นต้น
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจอาหารพร้อมรับประทาน (RTE-QSR) หรือ SORKON กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับประกาศของกระทรวงมหาดไทยที่แจ้งปิดสถานบริการและสถานประกอบการลักษณะคล้ายสถานบริการ ครอบคลุมถึงห้างสรรพสินค้าและงดนั่งรับประทานในร้านอาหาร เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส ทำให้ผู้บริโภครับประทานอาหารที่บ้านมากขึ้น ปัจจุบัน บริษัทฯ มีสาขาร้านอาหารทั้งสิ้น 29 สาขา แบ่งเป็น ร้านแซ่บคลาสสิก 13 สาขา และร้านข้าวขาหมูยูนนาน 16 สาขา ซึ่งได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบเป็น Takeaway และรองรับการสั่ง Delivery เพื่อสนับสนุนให้ทุกคนอยู่บ้านอย่างอิ่มท้อง เน้นความสะดวก ปลอดภัย และถูกสุขอนามัยให้กับผู้บริโภค
นอกจากนี้ SORKON ได้พัฒนาโมเดลอื่น ๆ เพื่อรองรับพฤติกรรมการสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น E-Commerce เว็บไซต์ www.sorkon.co.th และแพลตฟอร์ม Market Place อย่าง Shopee ในกลุ่มสินค้าอาหารพื้นเมือง เช่น กุนเชียง หมูแผ่น ทั้งนี้บริษัทฯ จะเร่งเพิ่มสต๊อกและกระจายสินค้าให้ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อรองรับต่อความต้องการของผู้บริโภค
“เรามีความห่วงใยในความปลอดภัยของผู้บริโภค รวมถึงพนักงานและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย โดยได้ออกมาตรการรับมือผลกระทบที่เกิดขึ้น เบื้องต้นในส่วนของพนักงาน ได้จัดทำประกันโควิด-19 ให้กับพนักงานในบริษัททุกคน และให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกัน พร้อมแจกหน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์เจลล้างมือ สำหรับด้านความปลอดภัยลูกค้า เราใส่ใจทุกขั้นตอนตั้งแต่กระบวนการคัดเลือกวัตถุดิบ การผลิต และการปรุง โดยให้พนักงานตรวจวัดอุณหภูมิก่อนทำงานและต้องสวมถุงมือยางทุกครั้งเมื่อเตรียมอาหาร ส่วนพนักงานส่งอาหารก็ต้องสวมหน้ากากอนามัยขณะปฎิบัติงานเพื่อคลายความกังวลและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคส.ขอนแก่น ขอร่วมส่งกำลังใจให้คนไทยทุกคน ในการร่วมมือฝ่าวิกฤตไวรัสโควิด-19 ครั้งนี้ ไปด้วยกันครับ” นายจรัสภล กล่าว