พลังงาน

UAC ยังแกร่งไตรมาสแรกกำไร 103 ล้านบาทมาร์จิ้นพุ่ง 13.9% เดินหน้าลุยโรงไฟฟ้าชุมชน

บมจ.ยูเอซี โกลบอล หรือ UAC แจ้งผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2563 บริษัทมีกำไรสุทธิ 103.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.74 ล้านบาท หรือคิดเป็นราว 53% จากธุรกิจเทรดดิ้ง ที่มีมาร์จิ้นเพิ่มขึ้น และยังรับรู้ส่วนแบ่งผลกำไรของบริษัทฯ ร่วม BBF เพิ่มขึ้นอีกด้วย ด้าน CEO “ ชัชพล ประสพโชค ” ระบุบริษัทยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนทางธุรกิจทุกด้าน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตามแผน ประกาศเดินหน้าลุยโรงไฟฟ้าชุมชน Quick Win

นายชัชพล ประสพโชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2563 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 103.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดิม 35.74 ล้านบาท หรือคิดเป็น 53.1% และแม้รายได้จากการขายและบริการจะลดลง แต่ระดับอัตราผลกำไรขั้นต้น (gross margin) เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จาก 9.9% ขึ้นมาที่ 23.8% หรือคิดเป็นการเติบโต 13.9 %  เมื่อเทียบจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน  ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) ขยับขึ้นจาก 12.3% เป็น 29.1% หรือเพิ่มขึ้นราว 16.8%

ส่วน EBITDA งวดไตรมาส 1/2563 อยู่ที่ 153.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.39 ล้านบาท หรือ 22.7 %  จากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น โรงงานต่างๆ สามารถผลิตได้ตามแผนงาน และควบคุมค่าใช้จ่ายต่างลงอย่างชัดเจน

สำหรับส่วนแบ่งผลกำไร บริษัท บางจาก ไบโอฟูเอล จำกัด (BBF) ตามสัดส่วนการถือหุ้น 30% นั้น บริษัทได้รับประโยชน์จากการส่งเสริมของภาครัฐ ที่ให้ใช้ไบโอดีเซลเป็นพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่อง  โดยปรับให้มีการใช้น้ำมันดีเซลจาก B10 เป็น B20 ซึ่งในไตรมาสแรกนี้ BBF มีผลประกอบการที่โดดเด่น  ส่งผลให้บริษัทได้รับอานิสงส์จากกรณีดังกล่าว

“ต้องยอมรับว่า ในช่วงไตรมาส 1/2563 ที่ผ่านมา ภาพรวมการลงทุนทั้งประเทศและทั่วโลกต้องเจอสถานการณ์ที่เข้ามากดดัน ทั้งภายในและภายนอกประเทศ จนก่อให้เกิดภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทั้งสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ–จีน และล่าสุดมีสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID -19  ซึ่งถือว่าเป็นตัวแปรสำคัญต่อการลงทุน อีกทั้งการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันในตลาดโลกในช่วงที่ผ่านมา ยิ่งทำให้เกิดผลกระทบด้านลบมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มโรงกลั่นน้ำมัน และ ปิโตรเคมี ซึ่งเป็นลูกค้าหลักของบริษัท” นายชัชพล กล่าว

อย่างไรก็ตาม  บริษัทยังคงเดินหน้าขยายการลงทุน ทางธุรกิจทุกด้านทั้งในประเทศ และต่างประเทศ  โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าชุมชุน และการลงทุนในโครงการบริหารจัดการขยะ พร้อมโรงไฟฟ้าขยะ 6 เมกะวัตต์ ที่สปป.ลาว  ตามแผนอย่างต่อเนื่อง  พร้อม ยืนยันว่ายังพยายามรักษาระดับของกำไร (bottom line) ให้ได้ตามเป้าหมาย ขณะเดียวกันจะรักษาสภาพคล่องของบริษัทให้อยู่ระดับสูง และเตรียมชำระคืนเงินหุ้นกู้จำนวน 400 ล้านบาทที่จะครบอายุในเดือนมิถุนายน ไว้เรียบร้อยแล้ว  นอกจากนี้จะบริหารให้ส่วนของกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าใช้จ่ายตัดจ่าย (EBITDA) เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

Related Articles

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button