“น้ำตาลบุรีรัมย์” คาดผลงานไตรมาส 2 ฟื้นตัวดีขึ้น หลังโควิดทั่วโลกเริ่มคลี่คลาย
“บมจ.น้ำตาลบุรีรัมย์” หรือ BRR ประเมินแนวโน้มไตรมาส 2/2563 ฟื้นตัวได้ดี หลังสถานการณ์ COVID-19 ทั่วโลกมีทิศทางที่ดีขึ้นและราคาน้ำมันเริ่มปรับตัวสูงขึ้นจากจุดต่ำสุด หวังการฟื้นตัวของราคาน้ำมันจะช่วยหนุนราคาน้ำตาลตลาดโลกปรับตัวดีขึ้นกว่าไตรมาสแรก ด้านผู้บริหารสบช่องเร่งส่งออกน้ำตาลเพิ่มเป็น 80,000-100,000 ตัน หลังไตรมาส 1/2563 ส่งออกประมาณ 20,000 ตัน ขณะที่กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์จากชานอ้อยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้รับความสนใจจากคู่ค้า มั่นใจมีดีมานต์สูง คาดจะเกิดคำสั่งซื้อสินค้าได้ในเร็วๆ นี้
นายอนันต์ ตั้งตรงเวชกิจ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท น้ำตาลบุรีรัมย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BRR เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2563 เชื่อว่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีนี้ (มกราคม-มีนาคม 2563) ที่มีรายได้รวม 976.46 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 30.39 ล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์ราคาน้ำตาลตลาดโลกปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย หลังราคาในช่วงเดือนเมษายนเคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 9 – 10 เซนต์ต่อปอนด์ เนื่องจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 และปัญหาความผันผวนของราคาน้ำมัน ซึ่งในปัจจุบันเริ่มคลี่คลายและมีทิศทางที่ดีขึ้น และหลายประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ให้ประชาชนทยอยกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติ ส่งผลต่อการบริโภคน้ำตาลในตลาดโลกปรับตัวดีขึ้น
“เดิมราคาน้ำตาลในตลาดโลกในช่วงต้นปียังอยู่ในเกณฑ์เฉลี่ยที่ดีคือประมาณ 14 – 15 เซนต์ต่อปอนด์ แต่พอเจอ การแพร่ระบาด COVID-19 และปัญหาราคาน้ำมันกดดัน ทำให้ผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่อย่างบราซิลเพิ่มการผลิตน้ำตาลเข้ามาในตลาดโลกและลดการผลิตเอทานอลหลังรายได้จากการผลิตน้ำตาลดีกว่า ควบคู่กับค่าเงินเรียลของบราซิลที่อ่อนตัวลง ขณะที่การบริโภคปรับตัวลดลง ส่งผลถึงราคาที่ลดลงเหลือเฉลี่ย 9-10 เซนต์ต่อปอนด์ ขณะที่ การส่งออกน้ำตาลไปยังคู่ค้าในในไตรมาส 1/63 อยู่ที่ประมาณ 20,000 ตัน เป็นผลให้การดำเนินงานในไตรมาสแรกปีนี้ยังต่ำกว่าที่คาดการณ์” นายอนันต์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ไตรมาส 2 ปีนี้ บริษัทจะทยอยส่งมอบน้ำตาลให้แก่คู่ค้าเพิ่มขึ้นเป็น 80,000-100,000 ตัน ซึ่งเป็นจังหวะที่ราคาน้ำตาลในตลาดโลกเริ่มปรับตัวดีขึ้นตามปัจจัยพื้นฐานทั้งราคาน้ำมันและสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID -19 ที่เริ่มคลี่คลาย ทำให้ BRR สามารถเก็บเกี่ยวรายได้จากธุรกิจน้ำตาลทรายในไตรมาสนี้ให้ได้สูงสุด ประกอบกับธุรกิจบรรจุภัณฑ์จากชานอ้อยประเภทถ้วย จาน ชาม รวมถึงภาชนะที่ใช้ในการแพทย์นั้น ได้เริ่มแนะนำสินค้ากับคู่ค้าทั้งภายในและตลาดต่างประเทศในยุโรปและสหรัฐอเมริกาแล้ว พบว่าได้รับความสนใจจากคู่ค้าเป็นอย่างดี และคาดว่าจะเริ่มเกิดคำสั่งซื้อสินค้าได้ในเร็วๆ นี้