พลังงาน

ดีเดย์เปิดรับซื้อไฟจากโรงไฟฟ้าชุมชน 1 ก.ค. นี้ เล็งต่อยอดทำห้องเย็น ห้องอบ แหล่งท่องเที่ยวด้วย

“สนธิรัตน์” สั่ง กกพ. เปิดรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าชุมชน วันที่ 1 ก.ค. นี้ พร้อมเร่งรัดกระบวนการพิจารณาให้เร็วขึ้น ขีดเส้นกลุ่ม Quick Win 100 เมกะวัตต์ ต้องคัดเลือกผู้ลงทุนล็อตแรกให้ได้ในเดือน ส.ค. นี้ นำร่องอัดฉีดเม็ดเงิน 4 พันล้านกระตุ้นเศรษฐกิจ เผยเดินหน้านโยบายเชิงรุกต่อยอดโรงไฟฟ้าชุมชนสู่การทำห้องเย็น ห้องอบ และแหล่งท่องเที่ยวด้วย

ดร.สมคิด ประชุมมอบนโยบาย “พลังงานสร้างไทย”

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางมาประชุมมอบนโยบาย “พลังงานสร้างไทย” ว่า ที่ประชุม ครม. ในวันที่ 30 มิ.ย. นี้ จะมีการนำเสนอแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561-2580 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 (PDP 2018 Rev.1) เข้าสู่การพิจารณา ซึ่งแผนดังกล่าวได้บรรจุการรับซื้อไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานเข้าระบบตั้งแต่ปี 2563-2567 รวมทั้งสิ้นจำนวน 1,933 เมกะวัตต์ โดยแบ่งเป็นกลุ่มโรงไฟฟ้าเร่งด่วน  (Quick Win) จำนวน 100 เมกะวัตต์ และกลุ่มโรงไฟฟ้าทั่วไป จำนวน 600 เมกะวัตต์ ซึ่งโรงไฟฟ้าชุมชนจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน เกิดการลงทุนและสร้างรายได้ เกิดการจ้างงานกว่า 10,000 คน เมื่อครบเป้าหมาย 700 เมกะวัตต์

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ภายหลังจากการประชุมตนได้พูดคุยกับนายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เมื่อที่ประชุม ครม. ได้พิจารณาเห็นชอบแผนพีดีพี ฉบับใหม่แล้ว ให้เร่งดำเนินการเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าชุมชนได้เลย ไม่ต้องรอ 30 วัน เพราะขณะนี้เกษตรกรกำลังรอโครงการนี้ หลังจากนั้นการพิจารณาก็จะลดกระบวนการให้เร็วขึ้นด้วย คาดว่าจะคัดเลือกได้ผู้ลงทุนโรงไฟฟ้าชุมชนล็อตแรกกลุ่ม Quick Win  100 เมกะวัตต์ ภายในเดือนสิงหาคม นี้ อย่างแน่นอน

นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน หารือกับนายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ประธานบอร์ด กกพ.

“ประชาสัมพันธ์โครงการได้เลยว่า เมื่อที่ประชุมครม. พิจารณาเห็นชอบแผนพีดีพี ในวันที่ 30 มิ.ย. นี้แล้ว กกพ.จะมีการเปิดรับซื้อไฟฟ้าจาโรงไฟฟ้าชุมชนกลุ่ม Quick Win ในวันที่ 1 ก.ค. นี้ทันที  และหลังจากประกาศเปิดรับแล้วจะเร็วกว่าเดิม เพราะจะลดกระบวนการพิจารณาให้เร็วขึ้น เช่นเดียวกับกลุ่มทั่วไปก็จะเปิดต่อไปทันทีเพื่อให้ทันกับสถานการณ์การกระตุ้นเศรษฐกิจ ถ้าการลงทุน 1 เมกะวัตต์ ใช้เงิน 30-40 ล้านบาท ถ้า 100 เมกะวัตต์ ก็จะใช้เงินลงทุนมากถึง 4,000 ล้านบาท”

นายสนธิรัตน์ กล่าวด้วยว่า ต่อไปนี้การทำงานของกระทรวงพลังงานจะปรับเป็นรูปแบบเชิงรุกมากขึ้น จากเดิมที่มีหน้าที่หลักในการดูแลความมั่นคงด้านพลังงาน แต่จากนี้จะใช้ประโยชน์ของพลังงานไปกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยจะใช้โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนในส่วนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นผู้รับผิดชอบ เป็นต้นแบบในการเชื่อมโยงเศรษฐกิจฐานราก นอกจากผลิตไฟฟ้าช่วยเหลือชุมชนแล้ว จะมีการต่อยอดทำห้องเย็น ห้องอบ  รวมถึงทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวด้วย

Related Articles

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button