“สนธิรัตน์”ซุ่มสร้างฝันให้เป็นจริงโรงไฟฟ้าชุชน ช่วงพักยกกลับไปทำงานภาคประชาสังคม
“สนธิรัตน์” เปิดใจวันอำลากระทรวงพลังงาน ฝากสานต่อ “โรงไฟฟ้าชุมชน” พูดทีเล่นทีจริงจะชวนชุมชนสร้างฝันให้เป็นจริงยื่นข้อเสนอด้วย ยันไม่มีแนวคิดตั้งพรรคการเมือง ช่วงพักยกขอกลับไปทำงานภาคประชาสังคม
วันนี้ (17 ก.ค.63) นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงพลังงาน และขอบคุณผู้บริหาร และข้าราชการกระทรวงพลังงาน ที่ได้ทำงานร่วมกันมาตลอดระยะเวลา 1 ปี พร้อมทั้งได้สรุปผลการดำเนินงานที่ขับเคลื่อนมาตลอดระยะเวลา 1 ปีในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน หลังจากได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 63 ที่ผ่านมา
จากนั้นนายสนธิรัตน์ เปิดแถลงข่าวกับสื่อมวลชนว่า การเข้ามาทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานนั้น ได้วางนโยบายสำคัญไว้ 2 ด้านหลัก ได้แก่ 1. Energy For All ซึ่งมุ่งเน้นการนำพลังงานมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ และ 2. การสร้างความสามารถในการแข่งขันระดับประเทศ ยกระดับให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นผู้นำและเป็นศูนย์กลางด้านพลังงานของภูมิภาคอาเซียน
โดยตลอดการดำเนินงาน 1 ปีที่ผ่านมานั้น กระทรวงพลังงานได้เข้ามาเปลี่ยนบทบาทเปิดตัวเองไปสู่ประชาชนมากยิ่งขึ้น จากเดิมที่มีภาพเป็นกระทรวงด้านเทคนิคเพราะมีบทบาทในการกำกับดูแลความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชน และเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและปากท้องของประชาชนได้
เล็งชวนชุมชนยื่นข้อเสนอโรงไฟฟ้าชุมชน
สำหรับนโยบายสำคัญที่ได้ขับเคลื่อนที่ผ่านมานั้น ประกอบด้วย โครงการโรงไฟฟ้าชุมชน ซึ่งอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ย้ำว่าหัวใจที่แท้จริงของโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน ไม่ใช่ เอกชนที่เข้ามาลงทุนในโครงการ เพราะการมองที่ตัวเงินลงทุนเป็นที่ตั้งจะทำให้เกิดปัญหาระหว่างผู้ประกอบการและชุมชน แต่หัวใจสำคัญอยู่ที่ชุมชนที่ปลูกพืชพลังงาน ชุมชนในพื้นที่ที่ห่างไกลสายส่งเข้าไม่ถึง เพื่อให้โครงการดังกล่าวเข้าไปช่วยให้ประชาชนมีรายได้จากพืชพลังงาน แก้ปัญหาหนี้เกษตรกร
“ขณะนี้ความคืบหน้าโรงไฟฟ้าชุมชนอยู่ในขั้นตอนเสนอครม. ถ้าพิจารณาเห็นชอบแผนพีดีพีฉบับปรุงปรับใหม่ ที่บรรจุแผนลงทุนโรงไฟฟ้าไว้ 1,933 เมกะวัตต์ ก็สามารถดำเนินการขั้นตอนต่อไปในการเปิดประกาศให้ผู้สนใจยื่นข้อเสนอได้เลยสำหรับกลุ่ม Quick win 100 เมกะวัตต์ ไม่ต้องไปนับหนึ่งใหม่”
นอกจากนี้ นายสนธิรัตน์ ยังได้พูดทีเล่นทีจริงว่า หลังจากลาออกจากการเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานแล้ว ตนอาจจะไปร่วมกับชุมชนแห่งใดแห่งหนึ่งมายื่นข้อเสนอโรงไฟฟ้าชุมชนก็เป็นได้ เพราะเป็นคนที่อยู่ข้างนอกแล้ว และอยากเห็นฝันที่เป็นจริง โดยอาจจะหาชุมชนที่เข้มแข็งที่มีความสนใจโรงไฟฟ้าชุมชนแล้วชวนมายื่นเสนอโครงการกับกระทรวงพลังงาน
ยันทุ่มเททุกโครงการที่เป็นนโยบายเท่ากัน
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ยังกล่าวอีกว่า โครงการต่างๆ ที่ผลักดันออกไม่ได้ประทับใจโครงการไหนเป็นพิเศษ เพราะว่าทุ่มเทให้ความสำคัญเท่าๆ กันทุกโครงการ ซึ่งนอกจากโรงไฟฟ้าชุมชนแล้ว ยังมีการส่งเสริมการใช้น้ำมัน B10 และ B20 เพื่อให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มได้ราคาที่เป็นธรรม
การปรับโครงสร้างราคาพลังงานที่เป็นธรรม โดยที่ผ่านมาได้ปรับราคาหน้าโรงกลั่น 50 สต./ลิตร สำเร็จแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการเรื่องโครงสร้างราคาแก๊ส ซึ่งจะนำไปสู่การวางโครงสร้างราคาแก๊สระยะยาว และกำลังพิจารณาเรื่องโครงสร้างราคาไฟฟ้าระยะยาว
การเปลี่ยนผ่านไปสู่ EV ซึ่งใช้บทบาทของกระทรวงพลังงานในแง่ของการเป็น Supply ด้านพลังงาน ไปกำหนดบทบาทของการส่งเสริม EV เช่น นโยบายลดค่าไฟให้เกิดแรงจูงใจในการลงทุนของ Charging Station การปลักดันให้ไทยเป็น LNG Hub ซึ่งอยู่ระหว่างการขับเคลื่อนของ ปตท. คาดว่าอีกไม่เกิน 1-2 เดือน ทาง ปตท. จะขับเคลื่อนให้เกิดความชัดเจนการเจรจาพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา ซึ่งหากบรรลุข้อตกลงได้จะทำให้เกิดความมั่นคงด้านพลังงานไปอีก 30 ปี
รวมถึงการเปิดสัมปทานแหล่งปิโตรเลียมรอบที่ 23 หลังจากที่ไม่ได้เปิดประมูลมาเป็นเวลา 10 กว่าปี ซึ่งตามแผนจะให้กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติเปิดประมูลได้ภายในสัปดาห์หน้า และการเจรจาระงับการเกิดข้อพิพาทการฟ้องร้องอนุญาโตตุลาการเกี่ยวกับการรื้อถอนแท่นปิโตรเลียมกับทางบริษัท เชฟรอนฯ
“แม้ว่าผมจะหมดวาระในวันนี้ แต่ในส่วนของเนื้องานก็ยังจะต้องเดินหน้าต่อตามกรอบเวลา ถ้าโครงการไหนที่รัฐมนตรีคนใหม่เห็นว่าเป็นประโยชน์ และจะดำเนินการสานต่อก็รู้สึกยินดี แต่อย่างไรก็คงต้องขึ้นอยู่กับนโยบาย และดุลยพินิจของรัฐมนตรีคนใหม่ ผมไม่มีความคิดที่จะไปก้าวล่วง”อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานกล่าว
ช่วงว่างงานจะกับไปทำภาคประชาสังคม
นายสนธิรัตน์ กล่าวย้ำว่า ยังไม่มีแผนและยังไม่ได้แนวคิดจะตั้งพรรคการเมือง แต่บทบาทการทำงานเพื่อประเทศชาตินั้น ทำได้หลากหลาย ไม่จำเป็นต้องเป็นนักการเมืองก็ได้ คนทุกคนมีบทบาททางการเมืองทั้งสิ้น ส่วนใครจะมารับช่วงต่อนั้น ทางนายกรัฐมนตรีจะต้องเป็นผู้ตัดสินใจเลือก เพราะอยู่ในอำนาจและดุลยพินิจของท่าน ซึ่งตนขอไม่แสดงความเห็นใด ๆ และไม่ขอตอบคำถามว่าระหว่าง นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพลังงาน และอดีตผู้บริหาร ปตท. และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ใครมีเหมาะสมกว่ากัน
“จากนี้ไปผมขอเว้นว่างงานทางการเมือง เพื่อพักผ่อนก่อน และอาจจะกลับไปทำบทบาทเดิมทำงานร่วมกับชุมชน ผมมาจากภาคประชาสังคมที่มูลนิธิสัมมาชีพ”
ส่วนคำถามที่ว่า มีโอกาสจะได้กลับมาทำงานเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานอีกหรือไม่
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ตอนนี้ยังมองไม่เห็นโอกาส ก็ยังไม่เข้าสู่วงการการเมือง จะเห็นโอกาสได้อย่างไร
ผู้สื่อข่าว “สำนักข่าวไทยมุง” รายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. นายสนธิรัตน์ ได้เวลาเดินทางออกจากกระทรวงพลังงาน ได้มีผู้บริหาร และพนักงานกระทรวงพลังงาน รวมถึงหน่วยงานในสังกัดกระทรวงพลังงาน มาเข้าแถวมอบดอกกุหลาบให้กับอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานทั้งสองฝั่งซ้ายและขวาทางเดินออกประตู ทำให้นายสนธิรัตน์ ตื้นตันใจถึงกับน้ำตาคลอเลยทีเดียว