พลังงาน

บางจากฯ เปิดตัวสตาร์ทอัพ “วิน No หนี้”

บางจากฯ เปิดตัวสตาร์ทอัพ “Winnonie” (วิน No หนี้)
นำนวัตกรรมพลังงานสีเขียวยกระดับคุณภาพชีวิตวินมอเตอร์ไซค์

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดตัว “Winnonie” สตาร์ทอัพภายในกลุ่มบางจากฯ ที่นำนวัตกรรมพลังงานสีเขียวมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามาช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ประกอบอาชีพขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ นำร่องพื้นที่รอบสำนักงานใหญ่และโรงกลั่นน้ำมันบางจาก โดยมี ดร. สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมแสดงความยินดี ที่สถานีบริการน้ำมันบางจาก สุขุมวิท 62

นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า “Winnonie” เป็นส่วนหนึ่งของโครงการส่งเสริมนวัตกรรมภายในองค์กร “The Intrapreneur – ปั้นคนในให้เป็นเถ้าแก่” สนับสนุนให้พนักงานนำหลัก design thinking มาใช้ในการคิดแนวการทำธุรกิจ จัดขึ้นโดยสถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจหรือ BiiC ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่พัฒนา และแสวงหาธุรกิจใหม่ๆ และกิจกรรมงานวิจัยพัฒนา เพื่อใช้นวัตกรรมต่อยอดขยายธุรกิจพลังงานสีเขียวและธุรกิจด้านชีวภาพทั้งในและนอกประเทศ
โดยกลุ่มพนักงานที่เป็นผู้ริเริ่มโครงการนี้ ได้ทำการศึกษาการประกอบอาชีพและการใช้ชีวิตของผู้ประกอบการรถวินมอเตอร์ไซค์ในบริเวณพื้นที่รอบๆ สำนักงานใหญ่และโรงกลั่นน้ำมันบางจาก เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาคิดเป็นโครงการให้ตอบโจทย์ความต้องการของเขาเหล่านั้น พบว่ามีค่าใช้จ่ายสูงมาก ซึ่งกว่า 60% เป็นค่าใช้จ่ายในการผ่อนรถและเชื้อเพลิง (น้ำมัน) ทำให้คิดว่าถ้าสามารถปรับเปลี่ยนเพื่อลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มรายได้ให้กับพวกเขา อีกทั้งช่วยดูแลโลกและสิ่งแวดล้อม โดยสามารถเก็บข้อมูลการเดินทางเพื่อใช้ประโยชน์ต่อไป จะเป็นทางออกที่ดี

วัตถุประสงค์หลักของ “Winnonie” คือช่วยลดภาระหนี้สินซึ่งถือเป็น pain point ของวินมอเตอร์ไซค์ ด้วยการนำมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามาให้วินมอเตอร์ไซค์เช่า ลดภาระดอกเบี้ยทบต้นจำนวนมากจากการผ่อนรถที่ต้องซื้อมาประกอบอาชีพ รวมทั้งลดภาระค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิง ซึ่งจากการศึกษาพบว่าการใช้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าประหยัดค่าใช้จ่ายกว่าการใช้น้ำมันประมาณ 10 เท่า พร้อมการเปลี่ยนแบตเตอรี่แบบ swapping เป็นรายแรกในประเทศไทย โดยสามารถนำแบตเตอรี่ไปเปลี่ยนได้ที่ตู้สำหรับแลกเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่สถานีบริการน้ำมันบางจาก
“Winnonie” เริ่มจากโครงการนำร่อง ทดลองให้ผู้ประกอบอาชีพวินมอเตอร์ไซค์ในพื้นที่รอบสำนักงานใหญ่และโรงกลั่นน้ำมันบางจากเช่ามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าใช้งานเพื่อศึกษาข้อมูลเป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา เนื่องจากวินมอเตอร์ไซค์ถือเป็นกลุ่มผู้ใช้งานแบบเคลื่อนที่จากจุดสู่จุด (point to point) ทำให้สามารถจำกัดวงเพื่อเก็บข้อมูลได้ในลักษณะ microgrid และนำข้อมูลมาใช้ในการ scale up เพื่อให้บริการจำนวนมากขึ้นในพื้นที่กว้างขึ้น เป็นคอมมูนิตี้ที่มีพันธมิตรมาร่วมพัฒนา ecosystem (ระบบนิเวศน์)
ซึ่งหลังจากช่วงการศึกษาข้อมูล จะมีผู้ร่วมโครงการในเบื้องต้นได้แก่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) และธนาคารเกียรตินาคิน และจะขยายเครือข่ายไปยังผู้ผลิตและจำหน่ายมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า รวมถึงหน่วยงานอื่นๆ ในอนาคต โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานเขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร กรมการขนส่งทางบก และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง

ดร. สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า “ขอแสดงความยินดีกับกลุ่มบางจากฯ กับการเปิดตัวสตาร์ทอัพ “Winnonie” ซึ่งเป็นการนำมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานสะอาด ถือเป็นเศรษฐกิจสีเขียวหรือ Green Economy Model มาใช้แก้ปัญหาหนี้สินของวินมอเตอร์ไซค์ นับเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อน BCG Economy Model ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ สอดคล้องกับวาระยุทธศาสตร์ “รวมไทยสร้างชาติ” ของนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มุ่งร่วมผนึกกำลังทุกภาคส่วน ใช้ความเข้มแข็งของประเทศไทยเชื่อมโยงสู่ประชาคมโลก โดยเดินหน้าไปด้วยกัน ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

ทั้งนี้ BCG Economy Model เป็นการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวมที่ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงแค่การพัฒนาเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมและการรักษาสิ่งแวดล้อมให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืนไปพร้อมๆ กัน ผมดีใจที่ได้เห็นกลุ่มบางจากฯ สะท้อนความเป็นผู้นำด้าน BCG Economy Model ผ่านการทำธุรกิจในรูปแบบต่างๆ อย่างต่อเนื่อง และหวังว่า “Winnonie” จะสามารถขยายผลและต่อยอดเป็นธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว เป็นส่วนหนึ่งในการสร้าง Green Economy เพื่อความยั่งยืนของประเทศ”

ในขณะที่ นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “แสนสิริ ยินดีอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันสร้าง Green Community กับพันธมิตรบางจาก เพื่อสานต่อวิสัยทัศน์ Sansiri Green Mission ในการสร้างคอมมูนิตี้สีเขียวอย่างยั่งยืน โดยแสนสิริจะเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายแรกที่เตรียมพร้อมนำ Winnonie รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าพลังงานสะอาดมานำร่องให้ลูกบ้านแสนสิริใน T77 ได้ใช้บริการผ่าน Sansiri Home Service Application ในเดือนตุลาคมนี้ นอกจากจะเป็นการส่งเสริมให้ลูกบ้านได้ช่วยกันการลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์จากการเดินทางแล้ว ยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดี (Make a Great Neighborhood) อย่างยั่งยืนแก่ชุมชนวินมอเตอร์ไซค์ในย่านอ่อนนุชชุมชนรอบข้าง T77
ปัจจุบัน แสนสิริมีบริการ Smart Move รถยนต์ไฟฟ้าระบบเช่าเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตแก่ลูกบ้าน T77 ซึ่งเราหวังว่าโครงการ Winnonie จะสามารถช่วยเติมเต็มให้ลูกบ้านได้อย่างสมบูรณ์แบบมากขึ้น จากข้อมูลพบว่า วินมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า 1 คัน ถ้าวิ่งระยะทาง 150 กม. ต่อ 1 วัน จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศเฉลี่ยวันละ 6.75 กิโลกรัม สำหรับใน กทม. นั้น มีมอเตอร์ไซค์จดทะเบียนป้ายเหลืองประมาณ 100,000 คัน ถ้าสามารถเปลี่ยนมอเตอร์ไซค์วินหนึ่งแสนคันใน กทม. เป็นมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าได้ทั้งหมด จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศได้กว่า 250,000 ตันต่อปี เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ประมาณ 20.5 ล้านต้น หรือคิดเป็นพื้นที่ 30,000 ไร่ หรือถ้าเทียบง่ายๆ คือประมาณ 3 เท่าของพื้นที่บางกะเจ้า”

“ในฐานะกลุ่มธุรกิจผู้นำนวัตกรรมสีเขียวเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน กลุ่มบางจากฯ ตระหนักถึงความสำคัญของการใช้พลังงานในรูปแบบของพลังงานไฟฟ้า (electrification) ที่มีมากขึ้น ซึ่ง “Winnonie” จัดเป็นการทำธุรกิจที่สอดคล้องกับการใช้พลังงานในรูปแบบดังกล่าว ทั้งนี้ เมื่อปี 2562 บางจากฯ ได้ทำข้อตกลงความร่วมมือกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ในการขยายจุดชาร์จรถพลังงานไฟฟ้าในสถานีบริการน้ำมันบางจากไม่น้อยกว่า 62 สาขาทั่วประเทศ อีกทั้งยังเข้าสู่การทำธุรกิจ digital energy หรือการให้บริการด้านพลังงานที่ขับเคลื่อนด้วยระบบดิจิทัล ผ่านบริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน)

นอกจากนี้ บริษัทฯ มีการศึกษาแนวทางการดำเนินงานอื่นๆ เช่น การพัฒนาระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้า ระบบบริหารจัดการการใช้พลังงาน เป็นการทำธุรกิจให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลกที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน” นายชัยวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย

Related Articles

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button