“สุพัฒนพงษ์” รมว.พลังงานป้ายแดง สั่งเดินหน้าโรงไฟฟ้าชุมชนอย่างเร่งด่วน แต่ขอเวลา 30 วันดูกติกาให้ผลประโยชน์ตกอยู่ดับเกษตรกร และมั่นใจว่ามีพื้นที่เพาะปลูกพืชพลังงานเพียงพอและยั่งยืน ยืนยันหลังพิจารณาเสร็จมีแผนงานที่ชัดเจนเปิดให้ผู้สนใจยื่นข้อเสนอทันที
วันนี้ (20 ส.ค. 63) นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยในงานแถลงข่าวกับสื่อมวลชนครั้งแรกหลังจากเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานถึงแผนผลักดันโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานรากว่า ตนได้มอบนโยบายโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเป็นเรื่องเร่งด่วนไปแล้ว โดยยึดหลักเกณฑ์ราคารับซื้อที่ประกาศไปก่อนหน้า เพียงแต่ขอเวลา 30 วัน ในการศึกษาเพื่อผลักดันโรงไฟฟ้าชุมชนให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ให้ผลประโยชน์อยู่กับเกษตรกรเป็นหลัก ไม่ใช่ผลประโยชน์อยู่ที่โรงไฟฟ้า เพียงแต่โรงไฟฟ้าเป็นช่องทางที่จะทำให้เกษตรกรได้รับผลประโยชน์เท่านั้น
นอกจากนี้ โรงไฟฟ้าที่ใช้พืชพลังานเป็นเชื้อเพลิงก็ต้องดูให้มั่นใจว่ามีพื้นที่เพาะปลูกพืชพลังงานเพียงพอและยั่งยืน ที่สำคัญเป็นพื้นที่เพาะปลูกที่คุ้มค่าสามารถทดแทนพืชเศรษฐกิจเดิมได้
“ผมให้นโยบายโรงไฟฟ้าชุมชนไปแล้วว่าจ้องทำให้เร็วที่สุดภายใน 30 วัน ซึ่งระหว่างนี้จะมาศึกษาดูกติกาที่พิสูจน์ได้ว่าดำเนินการแล้วเกษตรกรได้ประโยชน์อย่างแท้จริง”
ส่วนแผนแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561-2580 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 (PDP 2018 Rev.) ซึ่งบรรจุแผนการลงทุนโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก จำนวน 1,933 เมกะวัตต์ ซึ่งอยู่ระหว่างการนำเสนอ ครม. ให้ความเห็นชอบนั้น นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า คงไม่ต้องนำแผนพีดีพีดังกล่าวเสนอ ครม. เห็นชอบให้ดำเนินการโรงไฟฟ้าชุมชน แต่จะปรับวิธีทำงานทำเป็นบทแทรกขึ้นมาเพื่อดำเนินการโรงไฟฟ้าชุมชนแล้วเสนอที่ประชุม ครม. หรือที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) เห็นชอบแทน
“ในทางเทคนิคโรงไฟฟ้าชุมชนถือว่าไม่มีปัญหาเดินหน้าต่อไปได้เลย ส่วนจะดำเนินการเปิดรับซื้อก่อน 100 เมกะวัตต์ หรือ 200 เมกะวัตต์ หรือจำนวนเท่าไหร่ ผมขอเวลา 30 วัน”
ทั้งนี้ หลังจาก 30 วันแล้วมีแผนดำเนินงานที่ชัดเจนจะเปิดให้ผู้สนใจยื่นข้อเสนอเข้ามาทันที
