เทคโนโลยี

“นูทานิคซ์” ย้ำความแข็งแกร่งในการเป็นผู้นำตลาด ด้วยนวัตกรรมด้านซอฟต์แวร์สำหรับ HCI

วันนี้ (9 ก.ย. 63) ที่งาน .NEXT ซึ่งจัดระหว่างวันที่ 8-11 กันยายน 2563 นูทานิคซ์ (NASDAQ: NTNX) ผู้นำด้านคลาวด์คอมพิวติ้งระดับองค์กรประกาศเพิ่มขีดความสามารถใหม่ ๆ ครั้งสำคัญให้กับซอฟต์แวร์โครงสร้างพื้นฐานไฮเปอร์คอนเวิร์จ (HCI) โดยนำเสนอนวัตกรรมที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้เร็วขึ้นถึง 50%, มีระบบเวอร์ชวลเน็ตเวิร์คกิ้ง (virtual networking) ที่ช่วยให้ใช้งานมัลติคลาวด์ง่ายขึ้น รวมถึงระบบการตรวจสอบความปลอดภัยแบบครบวงจร เพื่อรองรับกลยุทธ์ Zero-Trust ที่ทุกสิ่งต้องผ่านการตรวจสอบ พร้อมเพิ่มความสามารถต่างๆ ที่เกี่ยวกับระบบอัตโนมัติ และการจัดการงบประมาณให้กับทรัพยากรด้านคลาวด์ นอกจากนั้นยังเพิ่มความสามารถในการขยายซอฟต์แวร์ HCI ของตนเองขึ้นไปยังพับลิคคลาวด์

ประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับประสิทธิภาพการทำงานที่เร็วขึ้น 50%

การเพิ่มความสามารถให้กับสถาปัตยกรรม HCI ของนูทานิคซ์อีกครั้ง ช่วยให้ลูกค้าได้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีล่าสุดด้านการจัดเก็บข้อมูล ที่จะทำให้เวิร์กโหลดที่ต้องใช้การคำนวนจำนวนมาก เช่น ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ และแอปพลิเคชั่นด้านเฮลธ์แคร์ขนาดใหญ่ทำงานได้เร็วขึ้นถึง 50%

Zero-Trust Security ที่ไม่ยุ่งยาก

เพื่อคงไว้ซึ่งความมุ่งมั่นที่มีมาอย่างยาวนานในการให้บริการโครงสร้างพื้นฐานที่ปลอดภัย นูทานิคซ์ได้เปิดตัว Flow Security Central ซึ่งเป็นระบบบริหารจัดการแบบรวมศูนย์ในลักษณะ software as a service (SaaS) ซึ่งช่วยในเรื่องของการทำ Compliance Monitoring, มองเห็นรูปแบบการเชื่อมต่อและความเคลื่อนไหวของเน็ตเวิร์ค และการดำเนินการด้านการรักษาความปลอดภัยบนสภาพแวดล้อมทั้งแบบไพรเวทและพับลิคคลาวด์ที่ขับเคลื่อนด้วยนูทานิคซ์

ลดความซับซ้อนในการใช้คลาวด์ด้วยเวอร์ชวลเน็ตเวิร์คกิ้ง

นูทานิคซ์กำลังพัฒนาการเพิ่มความสามารถใหม่ด้านเวอร์ชวลเน็ตเวิร์คกิ้งให้กับ Nutanix Flow ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในชุดซอฟต์แวร์ Nutanix HCI อยู่แล้ว Flow Networking จะช่วยลดความยุ่งยากของการสร้าง การแยก และการจัดการระบบเน็ตเวิร์คที่ควบคุมการทำงานด้วยซอฟต์แวร์ที่เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ที่ทำงานอยู่ในดาต้าเซ็นเตอร์ที่อยู่ในองค์กร และบนพับลิคคลาวด์

Applications Insight และระบบอัตโนมัติ

นูทานิคซ์ยังได้ประกาศเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการบริหารจัดการการทำงานของโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้บริการทีมงานด้านไอทีและนักพัฒนาแอปพลิเคชั่นได้ดีขึ้น ผ่าน Prism Ultimate ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ของ Prism ที่จะช่วยให้ผู้ดูแลระบบเข้าใจพฤติกรรมการทำงานของ Application และระบบอัตโนมัติที่ล้ำหน้ากับการแก้ปัญหาคอขวดด้านโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับแอปพลิเคชั่น ทั้งยังช่วยให้มองเห็นความเคลื่อนไหวในการใช้ทรัพยากรไอทีด้านคลาวด์ เพื่อลดต้นทุนด้านไอที และการจัดทำงบประมาณที่เที่ยงตรงมากขึ้น

นายราจีฟ มิรานี ประธานฝ่ายไอทีของนูทานิคซ์ กล่าวว่า “วิศวกรและสถาปนิกของเรากำลังสร้างรากฐาน ให้กับสถาปัตยกรรมไฮบริด เพื่อใช้งานแอปพลิเคชั่น และจัดการกับปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากในปัจจุบันเพราะระบบไอทีกำลังเข้ามามีบทบาทด้านกลยุทธ์มากขึ้น และเพื่อเป็นการช่วยลูกค้าของเราปรับเปลี่ยนสู่รูปแบบการดำเนินงานแบบไฮบริดและมัลติคลาวด์ นูทานิคซ์จึงได้ลงทุนครั้งสำคัญในการวิจัยและพัฒนากลุ่มซอฟต์แวร์หลักของเราให้ก้าวล้ำหน้ามากยิ่งขึ้น ความสามารถใหม่เหล่านี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับซอฟต์แวร์ของเรา ทั้งในด้านประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือ ช่วยขยายการทำงานข้ามเน็ตเวิร์ค การรักษาความปลอดภัย ประสิทธิภาพการทำงาน และระบบอัตโนมัติ”

Related Articles

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button