เทคโนโลยี

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เปิดงานประชุมสุดยอดผู้นำครั้งยิ่งใหญ่ประจำปี Innovation Summit World Tour 2020

ชไนเดอร์ เผยการพัฒนาสถาปัตยกรรมและแพลตฟอร์ม EcoStruxure™ ล่าสุดพร้อมนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ กับงานใหญ่ระดับโลก และระดับภูมิภาคอีก 10 แห่ง ครอบคลุมเอเชียแปซิฟิก ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา อเมริกาเหนือ และอเมริกาใต้ เชื่อมโยงบรรดาผู้นำและผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมมาไว้ด้วยกัน ระบุงานอีเวนท์ในรูปแบบเวอร์ชวล มีการบรรยายและการพูดคุยในเชิงกลยุทธ์ พร้อมการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ และ Innovation Hub Experience ที่ให้ประสบการณ์ในรูปแบบ 3 มิติ

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันในการจัดการพลังงานและระบบออโตเมชัน เปิดตัว Innovation Summit World Tour 2020 งานประชุมสุดยอดนวัตกรรมครั้งยิ่งใหญ่ในรูปแบบเวอร์ชวล ซึ่งจัดติดต่อกันระหว่างช่วงวันที่ 8 ตุลาคม ถึง 26 พฤศจิกายน โดยเป็นงานที่เชื่อมโยงบรรดาผู้นำทางความคิด ผู้มีวิสัยทัศน์ ผู้เชี่ยวชาญและผู้ที่สร้างการเปลี่ยนแปลง รวมถึงคู่ค้าและลูกค้าจากทั่วโลก มาร่วมเปิดมุมมองเกี่ยวกับโซลูชันดิจิทัลใหม่ล่าสุด เพื่ออนาคตที่ยืดหยุ่นและยั่งยืนมากยิ่งขึ้น

การประชุมสุดยอดนวัตกรรม Innovation Summits ซึ่งเป็นงานครั้งสำคัญประจำปีของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ครั้งนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 5  โดยงานที่จัดขึ้นในปีนี้ นับเป็นครั้งแรกที่จัดผ่านออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ และจะมีงานอีเวนท์แบบอินเตอร์แอคทีฟ อีก 10 งานที่จะจัดในระดับภูมิภาครวม 8 สัปดาห์หลังจากงานในวันนี้ โดยจะช่วยให้ผู้ร่วมงานจากทั่วโลกได้มีโอกาสเรียนรู้เกี่ยวกับบทบาทสำคัญของพัฒนาการด้านไฟฟ้า การเปลี่ยนกระบวนการทำงานสู่ระบบดิจิทัล นวัตกรรม และการบริหารจัดการพลังงาน รวมถึงระบบออโตเมชั่นสำหรับอุตสาหกรรม ที่จะมีบทบาทอย่างมากในการเปลี่ยนแปลงสู่โลกที่ปล่อยคาร์บอนน้อยลงและจำกัดการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอยู่ที่ 1.5 °C

ในการกล่าวเปิดงานผ่านระบบเวอร์ชวล ฌอง ปาสคาล ตริคัวร์ ประธานบริษัทและซีอีโอ ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้กล่าวกระตุ้นผู้ร่วมงานให้เร่งปฏิรูปสู่ดิจิทัลเพื่อสร้างจุดยืนขององค์กรให้ดีขึ้น จากการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ที่มีสาเหตุมาจากโรคระบาดทั่วโลกและวิกฤตด้านสภาพอากาศที่ถาโถมสู่โลกในปี 2020 “สิ่งที่เกิดขึ้นทั่วโลกแค่เพียงไม่กี่เดือน ทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนไป และการเปลี่ยนกระบวนการต่างๆ สู่ระบบดิจิทัลช่วยให้เราปรับตัวเข้ากับวิถีชีวิตแบบใหม่ได้ การปรับการดำเนินงานจากระยะไกลสู่ระบบดิจิทัลช่วยสร้างความต่อเนื่องให้กับธุรกิจ สร้างความยืดหยุ่นในการฟื้นฟูสิ่งต่างๆ และให้มุมมองเชิงลึกเพื่อเตรียมการป้องกันและปรับเปลี่ยนให้เกิดความคล่องตัวได้ดียิ่งขึ้น นวัตกรรมด้านดิจิทัล และการเชื่อมต่อเข้ามาเปลี่ยนรูปแบบการทำงานและการอยู่ร่วมกัน และจะเปลี่ยนผลกระทบด้านสภาพแวดล้อมไปในทางที่ดี พร้อมขับเคลื่อนไปสู่การฟื้นฟูเศรษฐกิจ และให้ความยั่งยืนแก่พวกเราทุกคน”

ตลอดงานอีเวนท์ที่จะจัดติดต่อกันเป็นซีรีย์ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้เปิดตัวการนำเสนอใหม่ให้แก่ลูกค้าและคู่ค้า

  • สายผลิตภัณฑ์สวิตช์บอร์ด แรงดันไฟต่ำ ใหม่ PrismaSeT™ Active และเบรกเกอร์รุ่นใหม่ ComPacT™ ที่จะออกมาในปี 2021 เพื่อปลดล็อคข้อมูลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงของการเกิดไฟไหม้จากไฟฟ้า และความพร้อมด้านพลังงานในระบบไฟฟ้าของอาคาร การที่ PrismaSeT Active เชื่อมต่อกับคลาวด์ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบการจ่ายไฟได้อย่างต่อเนื่องอีกทั้งได้รับการแจ้งเตือนในกรณีที่เกิดการสูญเสียพลังงานที่ก่อให้เกิดอันตราย ซึ่ง ComPacT รุ่นใหม่นี้จะให้ความพร้อมด้านพลังงานในอีกระดับด้วยการปรับปรุงการออกแบบอุปกรณ์ให้มีความปลอดภัยมากขึ้น รวมถึงความพร้อมในการเชื่อมต่อพร้อมด้วยแอกเซสเซอรีที่เป็นโมดูลแบบปลั๊กแอนด์เพลย์เพื่อขยายศักยภาพด้านความสามารถในการตรวจสอบขั้นสูง
  • นวัตกรรมสวิตช์เกียร์ประหยัดพลังงาน SM AirSeT™ ที่ใช้การผสมผสานอันชาญฉลาดของเทคโนโลยีลมและสูญญากาศ แทน SF6 ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกที่อยู่ในอุปกรณ์ไฟฟ้าทั่วไปที่ใช้ในกริดและการติดตั้งระบบไฟฟ้าในอุตสาหกรรม โดยเทคโนโลยีใหม่นี้จะให้แนวทางการหลีกเลี่ยงในอัตราที่เทียบเท่าคาร์บอนหลายล้านตันในเครือข่ายพลังงานทั้งหลาย การขยายการเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT ยังช่วยปลดล็อคประโยชน์ของข้อมูลและการวิเคราะห์เพื่อการบริหารจัดการเครือข่ายและการใช้งานได้อย่างเหมาะสมเต็มประสิทธิภาพ
  • ระบบออโตเมชันแบบใหม่ EcoStruxure™ Automation Expert ระบบออโตเมชั่นสำหรับอุตสาหกรรมระบบแรกของโลกที่ใช้ซอฟต์แวร์เป็นศูนย์กลางทำงานช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานตลอดทั่ววงจรการดำเนินงานที่ครบถ้วนสมบูรณ์

งาน Innovation Summit ในปีนี้ มีการสนทนาระดับสูงจากผู้บริหารระดับสูงของชไนเดอร์ อิเล็คทริค และบรรดาผู้นำจาก AECOM ซึ่งเป็นองค์กรที่ปรึกษาด้านระบบโครงสร้างชั้นนำ GlaxoSmithKline บริษัทเฮลธ์แคร์ระดับโลก RIB Software ผู้คิดค้นอุตสาหกรรมก่อสร้าง และ AVEVA ผู้นำระดับโลกด้านซอฟต์แวร์วิศวกรรมและอุตสาหกรรม

นอกจากนี้ ยังมีการเสวนาแบบอินเตอร์แอกทีฟ โดยมีตัวแทนจาก JPMorgan Chase & Co องค์กรบริการด้านการเงิน McDonalds ผู้ประกอบการบริการค้าปลีกด้านอาหาร Danone ธุรกิจอาหารระดับโลก JLL บริษัทด้านการลงทุนและอสังหาริมทรัพย์ Acciona ผู้ให้บริการระบบโครงสร้างและโครงการพลังงานทดแทน Enedis  ผู้ประกอบการโครงข่ายไฟฟ้าของฝรั่งเศส Suez ผู้ให้บริการด้านสภาพแวดล้อมและ บริษัทให้คำปรึกษาด้านการออกแบบระดับโลกทั้งวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม อย่าง Arup

ผู้เข้าร่วมงานซัมมิท จะสามารถเยี่ยมชม Innovation Hub ได้ในแบบเวอร์ชวล โดยจะได้รับประสบการณ์ในรูปแบบ 3 มิติ กับนวัตกรรมของทั้งชไนเดอร์ และคู่ค้าด้านเทคโนโลยี อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อแบบไลฟ์สดกับห้องปฏิบัติการ โชว์รูม และโรงงานผลิตของชไนเดอร์ในทั่วโลกได้ รวมถึงพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญและชมการสาธิตในเชิงปฏิบัติการได้เช่นกัน

นอกจากงานอีเวนท์เปิดตัวระดับโลกในวันที่ 8 ตุลาคม แล้วยังมีงาน Innovation Summit ในระดับภูมิภาค ที่จะมีเนื้อหาเพิ่มเติมในระดับของโลคัลตามพื้นที่ต่างๆ ซึ่งมีกำหนดการจัดงานตลอดช่วงเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน รวมถึงภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกที่รวมประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ (14 ตุลาคม) ตะวันออกกลางและแอฟริกา (28 ตุลาคม) เอเชียตะวันออก (4 พฤศจิกายน) เกาหลี (5 พฤศจิกายน) อเมริกาเหนือ (10 พฤศจิกายน) อเมริกาใต้ (12 พฤศจิกายน) ตุรกี (17 พฤศจิกายน) ฝรั่งเศส (19 พฤศจิกายน) และไอร์แลนด์ (24 พฤศจิกายน) และฮ่องกง (26 พฤศจิกายน)

Related Articles

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button