ผลใช้คู่มือตีความกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ฉบับปรับปรุงใหม่ ข้อพิพาทลดฮวบเกือบ 50%
คปภ.- สมาคมประกันวินาศภัยไทย เดินสายสร้างความเข้าใจแนวทางปฎิบัติคู่มือตีความกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ (ฉบับปรับปรุงใหม่) เผยหลังบังคับใช้คำสั่งนายทะเบียนที่ 10/2563 ข้อพิพาทด้านการประกันภัยรถยนต์ทั่วประเทศ “ช่วงเมษายน-กันยายน 2563” ลดลงเกือบ 50%
ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เป็นประธานเปิดการสัมมนา 5 ภาค เรื่อง คู่มือตีความกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ (ฉบับปรับปรุงใหม่) ครั้งที่ 1 (ภาคกลาง) เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2563 ณ โรงแรม เอส รัชดา กรุงเทพมหานคร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออธิบายแนวทางการปฏิบัติให้มีความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกัน ระหว่างสำนักงาน คปภ. ในฐานะหน่วยงานกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย และภาคธุรกิจประกันวินาศภัย ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันเพื่อลดข้อโต้แย้งอันจะนำไปสู่ข้อพิพาท รวมถึงเพื่อลดข้อพิพาทที่จะเกิดขึ้นระหว่างบริษัทประกันภัยและปัญหาข้อโต้แย้งระหว่างบริษัทประกันภัยกับผู้เอาประกันภัย โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนา ประกอบด้วย ผู้บริหารระดับสูง และพนักงานสำนักงาน คปภ. ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค จากสายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ สายกำกับผลิตภัณฑ์ประกันภัย สายส่งเสริมและประกันภัยภูมิภาค ผู้บริหารบริษัทประกันภัยด้านการประกันภัยรถยนต์ และผู้บริหารสินไหมรถยนต์ ผู้บริหารด้านกฎหมายของบริษัทประกันภัย และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง จำนวนกว่า 400 คน
เลขาธิการ คปภ. กล่าวว่า ตามที่สำนักงาน คปภ. ได้มีคำสั่งนายทะเบียนที่ 10/2563 เรื่อง ให้ใช้แบบ ข้อความกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์รวมการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ เอกสารประกอบเอกสารแนบท้ายกรมธรรม์ประกันภัย และพิกัดอัตราเบี้ยประกันภัยรถยนต์ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งคำสั่งนายทะเบียนดังกล่าวเป็นการแก้ไขปรับปรุงเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ และพิกัดอัตราเบี้ยประกันภัยรถยนต์ที่ใช้มาตั้งแต่ ปี 2551 จึงถือได้ว่าเป็นการบูรณาการประกันภัยรถยนต์อย่างเต็มรูปแบบเพื่อให้มีความเหมาะสมกับสภาวะในปัจจุบัน และสภาพความเสี่ยงภัยที่แท้จริง โดยเฉพาะในเรื่องการปรับเพิ่มความคุ้มครองเพื่อให้ผู้ประสบภัยจากรถทุกคนมีหลักประกันความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัย อย่างเท่าเทียมกัน รวมถึงปรับปรุงเงื่อนไขความคุ้มครองในหมวดการคุ้มครองต่าง ๆ ให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น และเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ซึ่งภายหลังจากคำสั่งนายทะเบียนที่ 10/2563 มีผลใช้บังคับ ปรากฏว่า จำนวนข้อพิพาทหรือข้อร้องเรียนด้านประกันวินาศภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประกันภัยรถยนต์ทั่วประเทศ ที่ยื่นต่อสำนักงาน คปภ. ได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยในเดือนเมษายน 2563 มีเรื่องร้องเรียนที่ยื่นมาที่สำนักงาน คปภ. จำนวน 1,093 เรื่อง และลดลงมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งในเดือนกันยายน 2563 มีจำนวนเรื่องร้องเรียนลดลงเหลือเพียง 574 เรื่อง หรือคิดเป็นร้อยละ 47.48 จึงสะท้อนให้เห็นว่า หัวใจสำคัญในการกำกับการดูแลและส่งเสริมธุรกิจประกันภัยที่จะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในระบบประกันภัยรถยนต์ของไทยให้ขับเคลื่อนไปได้อย่างมีเสถียรภาพอีกอย่างหนึ่ง คือ การจัดการสินไหมทดแทนที่ดีและได้มาตรฐานระดับสากล ปราศจากหรือลดข้อร้องเรียนให้มากที่สุด
ดังนั้น สำนักงาน คปภ. จึงได้มีคำสั่งสำนักงาน คปภ. ที่ 346/2562 แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาปรับปรุงกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ และคู่มือตีความกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ และคำสั่งสำนักงาน คปภ. ที่ 496/2562 แต่งตั้งคณะทำงานปรับปรุงกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ และคู่มือตีความกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ โดยเป็นการบูรณาการความร่วมมือกับสมาคมประกันวินาศภัยไทย ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขคู่มือตีความกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ให้สอดคล้องกับการปรับปรุงกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ ที่มีการเปลี่ยนแปลงใหม่ตามคำสั่งนายทะเบียนที่ 10/2563 และเพื่อเป็นการอธิบายแนวทางการปฏิบัติให้มีความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกัน ชัดเจน ครบถ้วน และลดข้อโต้แย้งอันจะนำไปสู่ข้อพิพาทระหว่างหน่วยงานกำกับดูแลกับภาคธุรกิจประกันวินาศภัย รวมถึงเพื่อลดข้อพิพาทที่จะเกิดขึ้นระหว่างบริษัทประกันภัย และปัญหาข้อโต้แย้งระหว่างบริษัทประกันภัยกับผู้เอาประกันภัย โดยสำนักงาน คปภ. ได้บูรณาการร่วมกับสมาคมประกันวินาศภัยไทย กำหนดจัดสัมมนาใน 5 ภูมิภาค 5 จังหวัด สำหรับการจัดสัมมนาอีก 4 ครั้ง โดยกระจายไปตามภูมิภาคต่างๆ ของประเทศ ได้แก่ จังหวัดระยอง จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดนครศรีธรรมราช
สำหรับการจัดทำคู่มือตีความกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ คู่มือตีความกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ คู่มือตีความกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์รวมความคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ และคู่มือตีความกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์แบบคุ้มครองเฉพาะภัย จะเป็นการอธิบายความหมายและเจตนารมณ์ของกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ และกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์รวมความคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ เอกสารแนบท้ายความคุ้มครองเพิ่มเติมการประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (ร.ย.01) การประกันภัยค่ารักษาพยาบาล (ร.ย.02) การประกันตัวผู้ขับขี่ (ร.ย.03) กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์แบบคุ้มครองเฉพาะภัย เอกสารแนบท้ายความคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์เนื่องจากการชนกับยานพาหนะทางบก (รยภ.) เบี้ยประกันภัย และการคำนวณเบี้ยประกันภัย สำหรับกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ และกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์รวมความคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มเติมเอกสารแนบท้ายคู่มือตีความฯ ซึ่งประกอบด้วยคำอธิบายเกี่ยวกับวิธีการพิจารณาการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ และวิธีการพิจารณาการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์อีกด้วย โดยเลขาธิการ คปภ. ในฐานะนายทะเบียนได้ลงนามในคำสั่งนายทะเบียนที่ 66/2563 เรื่อง ให้ใช้คู่มือตีความกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ คู่มือตีความกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ คู่มือตีความกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์รวมการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ และคู่มือตีความกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์แบบคุ้มครองเฉพาะภัย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“การปรับปรุงแก้ไขคู่มือตีความกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ (ฉบับปรับปรุงใหม่) ได้มุ่งเน้นให้มีคำอธิบายในรายละเอียดเกี่ยวกับการปฏิบัติตามคำสั่งนายทะเบียนที่ 10/2563 ให้มีความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกัน ชัดเจน ครบถ้วน เพื่อป้องกันการตีความที่แตกต่างกัน รวมถึงเพื่อเป็นการลดข้อโต้แย้งอันอาจเกิดจากการพิจารณาค่าสินไหมทดแทนระหว่างหน่วยงานกำกับดูแลกับภาคธุรกิจประกันวินาศภัย หรือระหว่างบริษัทประกันภัยกับผู้เอาประกันภัย ตลอดจนดำเนินการให้การจัดการค่าสินไหมทดแทนเป็นไปอย่างรวดเร็ว และเกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย คู่มือตีความกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ ฉบับนี้ จึงเป็นเสมือนกรอบการพิจารณาค่าสินไหมทดแทนให้มีมาตรฐาน ซึ่งจะช่วยยกระดับกระบวนการด้านการจัดการสินไหมทดแทนให้มีประสิทธิภาพ รวมถึงจะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในระบบประกันภัยของไทยให้มากยิ่งขึ้น และให้พัฒนาไปสู่ระดับมาตรฐานสากล รวมถึงให้สามารถใช้เป็นคู่มือของประชาชนได้อย่างแท้จริง”เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย