การตลาด

ZEN Group ชูความสำเร็จแฟรนไชส์ “เขียง” เร่งปักธงขยายทั่วประเทศสิ้นปีกว่า 100 สาขา

‘เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป’ หรือ ZEN ชูโมเดลแฟรนไชส์เร่งเครื่องขยายสาขาร้าน “เขียง” ร้านอาหารตามสั่งแนวสตรีทฟู้ดทั่วประเทศเต็มพิกัด หลังได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง พร้อมวางกลยุทธ์มุ่งเน้นเป็น Omni Model         ทั้งแบบ Dine in และแบบบริการเดลิเวอรี่ผ่านช่องทางออนไลน์ วางเป้าหมายสิ้นปีนี้มีร้านเขียงกว่า 100 สาขา จากปัจจุบันเปิดบริการแล้วกว่า 80 สาขา ชี้สร้างรายได้เฉลี่ยต่อสาขาเดือนละ 400,000 บาท และมีโอกาสคืนทุนภายใน 1-3 ปี ปีหน้าวางกลยุทธ์รุกขยายแฟรนไชส์ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลอีกไม่ต่ำกว่า 100 สาขา หลังเซ็นสัญญากับผู้ที่สนใจลงทุนแล้ว

นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ปจำกัด (มหาชน) หรือ ZEN  ผู้ประกอบธุรกิจบริการอาหาร (Food Services) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้วางกลยุทธ์รุกขยายแฟรนไชส์ร้าน ‘เขียง’ ซึ่งเป็นแบรนด์เรือธงในกลุ่มร้านอาหารไทยตามสั่งแนวสตรีตฟู้ดที่มีรสชาติถูกปากคนไทยในราคาที่เข้าถึงได้ภายใต้สโลแกนจัดจ้าน ถึงเครื่อง ถึงใจ เพื่อเปิดให้บริการในทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย หลังจากเปิดตัวแบรนด์ดังกล่าวมากว่า 1 ปีและประสบความสำเร็จในการขยายสาขาภายใต้โมเดลแฟรนไชส์ โดยได้รับความสนใจจากนักลงทุนที่สนใจซื้อแฟรนไชส์เพื่อเปิดร้านเป็นจำนวนมาก จากช่วงแรกที่บริษัทฯ ลงทุนขยายสาขาเอง พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการให้บริการเดลิเวอรี่ที่สามารถตอบสนองลูกค้าได้ในทุกสถานการณ์ โดยเข้าร่วมให้บริการผ่าน Call Center 1376 Delivery หรือแอปพลิเคชั่นสั่งอาหารชั้นนำ อาทิ LINE MAN, Grab, foodpanda, Gojek ฯลฯ  รองรับพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคดิจิทัลที่ต้องการความสะดวกสบายและรวดเร็วในการสั่งอาหารมารับประทาน

บริษัทฯ วางเป้าหมายว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีร้านเขียงเปิดให้บริการครบ 100 สาขา จากปัจจุบันที่เปิดให้บริการแล้วกว่า 80 สาขา ส่วนใหญ่เป็นการขยายสาขาแบบแฟรนไชส์ ซึ่งจะทำให้เขียงก้าวขึ้นเป็นแบรนด์สตรีตฟู้ดร้านอาหารไทยตามสั่งแบบ Omni Model ที่มีจำนวนสาขามากที่สุดในประเทศไทย

ทั้งนี้ ร้านเขียงแบ่งเป็น 2 โมเดลคือ แบบสแตนดาร์ดและแบบโลว์คอสต์ ประกอบด้วย 8 รูปแบบคือ สาขาในคอมมิวนิตี้มอลล์, ฟู้ดคอร์ท, สถานีบริการน้ำมัน, เทสโก้โลตัส, สถานีรถไฟฟ้า MRT, ตึกแถว, แบบสแตนอโลน, และภายในห้างสรรพสินค้า กระจายในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัดที่เป็นเมืองเศรษฐกิจ อาทิ เชียงใหม่, หาดใหญ่ เป็นต้น ทำให้ร้านเขียงมีรูปแบบสาขาที่หลากหลายสามารถเข้าถึงได้ทุกพื้นที่ ทั้งในย่านธุรกิจ ย่านชุมชน คอนโดฯ ที่ทำงาน รถไฟฟ้าใต้ดิน หรือห้างสรรพสินค้า

โดยผู้ที่สนใจลงทุนแฟรนไชส์บริษัทฯ คิดค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์แรกเข้า 600,000 บาท ค่าธรรมเนียมลอยัลตี้และมาร์เก็ตติ้งเดือนละ 15,000 บาท และเงินลงทุนอีก 1 – 2 ล้านบาท สำหรับเปิดร้านขนาดพื้นที่ 40 – 50 ตารางเมตร รองรับได้ประมาณ 20 – 30 ที่นั่ง โดยสาขาส่วนใหญ่สามารถสร้างยอดขายเฉลี่ยเดือนละ 400,000 บาท (ขึ้นกับทำเลและจังหวัดที่เปิดบริการ) และบางสาขาที่ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีสามารถสร้างยอดขายได้ถึงเดือนละ 600,000 – 800,000 บาท ดังนั้นหากตั้งอยู่ในทำเลที่ดีจึงมีโอกาสคืนทุนภายในระยะเวลา 1 – 3 ปี

“เราต้องการให้เขียงเป็นแบรนด์ร้านอาหารตามสั่งที่มีสาขาเปิดให้บริการทุกจังหวัดทั่วประเทศ เสมือนร้านสะดวกซื้อของอาหารตามสั่ง โดยเราพร้อมเป็นที่ปรึกษาให้กับแฟรนไชส์ในการเพิ่มศักยภาพขยายสาขาและให้บริการแก่ลูกค้า เพื่อยกระดับสู่การเป็นมาสเตอร์แฟรนไชส์ในอนาคต พร้อมทั้งร่วมเติบโตไปกับชุมชนโดยการสนับสนุนสินค้าในท้องถิ่น เช่น ข้าว, ใบกะเพรา, เครื่องปรุงรส ฯลฯ ในการนำมาใช้ปรุงอาหาร” นายบุญยงกล่าว

ขณะที่แผนงานขยายเขียงในปี 2564 จะมุ่งเน้นการขยายแฟรนไชส์อย่างต่อเนื่องทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยในส่วนพื้นที่กรุงเทพฯ ปัจจุบันได้ข้อสรุปแผนงานขยายแฟรนไชส์ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลอีกไม่ต่ำกว่า 100 สาขา ในจำนวนนี้คาดว่าจะบรรลุข้อตกลงการทำสัญญากับแฟรนไชส์ 2 ราย ที่ต้องการขยายร้านเขียงประมาณ 60 สาขาในปีหน้า จึงมั่นใจว่าจะสามารถขยายสาขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเป็นแบรนด์ที่นึกถึงเมื่อต้องการรับประทานอาหารตามสั่งรสชาติจัดจ้าน

ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่มีพื้นที่และสนใจเข้าร่วมเป็นพันธมิตรของบริษัทฯ ในรูปแบบแฟรนไชส์สามารถติดต่อฝ่ายพัฒนาธุรกิจของบริษัทฯ โทร. 063-202-8753 หรืออีเมล์ business.development@zengroup.co.th

Related Articles

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button