“ศักดิ์สยามลิสซิ่ง” เคาะราคาขาย IPO หุ้นละ 3.70 บาท
‘บมจ.ศักดิ์สยามลิสซิ่ง’ (SAK) ผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อยแก่ประชาชน กำหนดราคาเสนอขาย IPO หุ้นละ 3.70 บาท หลังสำรวจความต้องการซื้อ (Book Building) ของนักลงทุนสถาบัน และได้รับการตอบรับการจองซื้อหุ้นอย่างท่วมท้นมากกว่า 8 เท่าของจำนวนหุ้นที่จัดสรรให้แก่นักลงทุนสถาบัน ดีเดย์เปิดจองซื้อหุ้นระหว่างวันที่ 26-27 และ 30 พ.ย.นี้ ก่อนเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 8 ธ.ค.นี้ พร้อมแต่งตั้ง บล.ธนชาต จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ด้านผู้บริหาร SAK ชูศักยภาพผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อยมาอย่างยาวนาน เดินหน้าขยายธุรกิจโตเท่าตัวทุกมิติ ดันพอร์ตสินเชื่อเพิ่มเป็น 12,000 ล้านบาท และเพิ่มสาขาเป็น 1,119 สาขา พร้อมลงทุนเทคโนโลยีต่อเนื่องยกระดับการให้บริการลูกค้า หวังเป็นหนึ่งในบริษัทจดทะเบียนผู้นำการให้บริการสินเชื่อรายย่อยระดับชาติ
เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2563 บมจ.ศักดิ์สยามลิสซิ่ง หรือ SAK ผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อยแก่ประชาชน ภายใต้ชื่อแบรนด์ ‘ศักดิ์สยาม’ (SAKSIAM) ได้ร่วมพิธีลงนามในสัญญาแต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) โดยแต่งตั้ง บล.ธนชาต จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย และแต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีก 6 ราย ประกอบด้วย บล.บัวหลวง จํากัด (มหาชน), บล.กสิกรไทย จำกัด (มหาชน), บล.กรุงไทย ซิมิโก้ จำกัด, บล.ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน), บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด และบล.ฟิลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้นสามัญของ SAKในครั้งนี้
นางสาวพันทิตา แซ่เอ็ง รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่า จากการสำรวจความต้องการซื้อ (Book Building) ของนักลงทุนสถาบัน เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับและแสดงความต้องการซื้อจากนักลงทุนสถาบันอย่างดีเยี่ยม รวมทั้งได้รับความสนใจจากนักลงทุนรายย่อยเป็นอย่างมาก ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจ และแผนงานการเติบโตที่มีความชัดเจนของ บมจ. ศักดิ์สยามลิสซิ่ง จึงกำหนดราคาหุ้น IPO ที่ 3.70 บาท ซึ่งเป็นราคาที่เหมาะสมสะท้อนถึงปัจจัยพื้นฐานที่มีความแข็งแกร่ง จากศักยภาพการดำเนินธุรกิจ และโอกาสเติบโตจากแผนการรุกขยายธุรกิจในอนาคต โดยจะเปิดให้นักลงทุนจองซื้อหุ้นในระหว่างวันที่ 26-27 และ 30 พฤศจิกายน 2563 และเริ่มเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นวันแรกในวันที่ 8 ธันวาคม โดยใช้ชื่อย่อหลักทรัพย์ว่า “SAK”
ผศ.ดร.พูนศักดิ์ บุญสาลี ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ศักดิ์สยามลิสซิ่ง หรือ SAK กล่าวว่า บริษัทฯ มีวิสัยทัศน์ก้าวเป็น ‘หนึ่งในผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อยระดับชาติ’ จากศักยภาพการดำเนินธุรกิจที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญนานกว่า 25 ปี เทียบเท่าบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรม จึงมีความเข้าใจในความต้องการสินเชื่อประชาชนเป็นอย่างดี ตลอดจนมีความแข็งแกร่งด้านเครือข่ายสาขาที่ให้บริการ 519 สาขา (ณ วันที่ 30 มิ.ย.2563) ครอบคลุมพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันตก ช่วยให้ SAK สามารถให้บริการสินเชื่อรายย่อยให้แก่ประชาชน ภายใต้แนวคิด ‘การดำเนินธุรกิจ การให้บริการอย่างเป็นธรรม เข้าใจและเข้าถึง’ ด้วยความโปร่งใส ซื่อสัตย์และจริงใจให้แก่ประชาชนในท้องถิ่นเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อย่างสะดวก รวดเร็วและเป็นธรรม
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีเป้าหมายขยายธุรกิจให้เติบโตในทุกมิติภายในอีก 3 ปีข้างหน้า หรือภายในปี 2566 ทั้งจำนวนสาขาที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 1,119 สาขา ในทำเลพื้นที่ภูมิภาคเดิมและขยายธุรกิจไปยังภูมิภาคอื่นๆ รวมถึงขยายพอร์ตสินเชื่อเพิ่มเป็น 12,000 ล้านบาท
นายศิวพงศ์ บุญสาลี กรรมการผู้จัดการ บมจ.ศักดิ์สยามลิสซิ่ง กล่าวว่า การระดมทุนครั้งนี้ ทำให้บริษัทฯ ก้าวขีดจำกัดในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อไปขยายธุรกิจผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อย และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในทุกมิติจากแผนงานขยายผลิตภัณฑ์สินเชื่อให้มีความหลายมากขึ้น รวมถึงนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ขับเคลื่อนธุรกิจ ตั้งแต่การวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าในเชิงลึก (Big Data) การเสนอสินเชื่อ พิจารณาอนุมัติสินเชื่อ รับชำระหนี้ บริหารหนี้สูญ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันและยกระดับการให้บริการแก่ลูกค้าได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเติบโตของบริษัทฯ
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทฯ มีการเติบโตที่ดีต่อเนื่อง รวมถึงมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง จากผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 2560-2562) พอร์ตสินเชื่อรวมมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) สูงถึง 33.5% ส่งผลให้รายได้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่อัตราการเติบโตเฉลี่ย 31.6% ต่อปี ในขณะที่ SAK สามารถรักษาอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin: NPM) ได้ในระดับสูงถึง 31% – 33% โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563 บริษัทฯ มีพอร์ตสินเชื่อรวม 6,067 ล้านบาท จากจำนวนสัญญาสินเชื่อรวม 230,273 สัญญา แบ่งเป็นลูกหนี้ที่มีหลักประกัน 88% และลูกหนี้ไม่มีหลักประกัน 12% ของพอร์ตสินเชื่อรวม
ปัจจุบัน บมจ. ศักดิ์สยามลิสซิ่ง มีทุนจดทะเบียน จำนวน 2,096 ล้านบาท แบ่งเป็น 2,096 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท โดยเป็นทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วจำนวน 1,550 ล้านบาท และจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 546 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 26 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นครั้งนี้ ซึ่งเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ SAK จะนำไปขยายการให้สินเชื่อและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ และการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการให้บริการแก่ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น