เอ็ม เอ เอ็น ทรัค แอนด์ บัส ประเทศไทย พร้อมลุยตลาดขนส่งไทยและโลจิสติกส์ไทยปี 2564 ต่อเนื่อง หลังเปิดตัวเข้ามาทำตลาดในไทยอย่างเป็นทางการพร้อมส่งรถบรรทุกหัวลาก MAN TGS ลงชิงส่วนแบ่งตลาด โดยได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีทั้งจากภาคธุรกิจและผู้บริโภค มีสัดส่วนการเติบโตเพิ่มขึ้น 7% พร้อมรุกสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์มากยิ่งขึ้นด้วยการเดินหน้าขยายโชว์รูมและศูนย์บริการให้ครอบคลุมจังหวัดใหญ่ที่เป็นฐานสำคัญของระบบขนส่งไทย ล่าสุดเตรียมเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการเพิ่มเติมอีกแห่งใน จังหวัดพัทลุง เพื่อเพิ่มการดูแลลูกค้าในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ ควบคู่ไปกับการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ในกลุ่มผู้บริโภคและภาคธุรกิจ ผ่านการออกโรดโชว์ตามหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศเพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงผลิตภัณฑ์ได้ง่ายมากขึ้น ตลอดจนการสื่อสารเรื่องแคมเปญหรือกิจกรรมต่าง ๆ บนช่องทางออนไลน์เพื่อกระตุ้นการรับรู้ให้กว้างขวางมากขึ้น สร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจแก่กลุ่มลูกค้าทั้งในปัจจุบันและในอนาคตให้ได้รับความพึงพอใจสูงสุด เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายแบรนด์รถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์สัญชาติยุโรปที่มีการเติบโตเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทยอย่างยั่งยืน
นายจักรพงษ์ ศานติรัตน์ ผู้อำนวยการเอ็ม เอ เอ็น ทรัค แอนด์ บัส ประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากเอ็ม เอ เอ็น (MAN) ได้ประกาศเข้ามาทำตลาดรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา พร้อมส่งไฮไลท์รถบรรทุกหัวลาก MAN TGS แบบ 10 ล้อ ทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่ 1.TGS 6×4 360 แรงม้า 2.TGS 6×4 400 แรงม้า 3.TGS 6×4 440 แรงม้า ที่มาพร้อมความโดดเด่นของเครื่องยนต์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเครื่องยนต์ สุดประหยัด มีความแข็งแรงทนทานและเทคโนโลยีระดับชั้นนำที่ได้รับการผลิตและนำเข้าทั้งหมดเป็น CBU 100% โดยตรงจากประเทศเยอรมนี ชิงส่วนแบ่งพื้นที่ตลาดพบว่าได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีทั้งจากภาคธุรกิจและผู้บริโภค มีสัดส่วนการเติบโตเพิ่มขึ้น 7% อย่างไรก็ตามปัจจุบันตลาดรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ในประเทศไทยสามารถแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ประกอบด้วย รถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์แบรนด์สัญชาติเอเชียมีสัดส่วนประมาณ 96% ตามมาด้วยกลุ่มรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์แบรนด์สัญชาติยุโรป ประมาณ 4% แสดงให้เห็นว่าเติบโตของกลุ่มรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์แบรนด์สัญชาติยุโรปยังมีช่องทางการเติบโตได้อีก
ผู้อำนวยการเอ็ม เอ เอ็น ทรัค แอนด์ บัส ประเทศไทย
นายจักรพงษ์ กล่าวต่อว่า ในปี 2564 เอ็ม เอ เอ็น พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์รวมถึงบริการที่ครอบคลุม เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจแก่กลุ่มลูกค้าทั้งในปัจจุบันและในอนาคตให้ได้รับความพึงพอใจสูงสุด อันเป็นตามวิสัยทัศน์ “ซิมพลิฟายด์อิ้ง บิสซิเนส” (Simplifying Business) ที่มุ่งมั่นทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การบริการอย่างง่ายที่สุดเพื่อทำให้ธุรกิจของลูกค้าดำเนินควบคู่ไปด้วยกันได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดผ่านกลยุทธ์และแผนการดำเนินงาน เช่น การเดินหน้าขยายโชว์รูมและศูนย์บริการให้ครอบคลุมจังหวัดใหญ่ที่เป็นฐานสำคัญของระบบขนส่งไทย ปัจจุบันเอ็ม เอ เอ็น มีโชว์รูมและศูนย์บริการที่ได้การรับรองมาตรฐาน เอ็ม เอ เอ็น โกลบอล สแตนดาร์ด (MAN Global Standard) แห่งแรกของประเทศไทย บริเวณถนนบางนา–ตราด ทางเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ ทั้งในด้านการจัดจำหน่ายและการบริการหลังการขายแบบครบวงจร รองรับการเติบโตของตลาดโลจิสติกส์ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑลอันเป็นพื้นที่ศูนย์กลางของการขนส่งไทยทางภาคพื้นที่สำคัญ ซึ่งอยู่ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท เค-แมน. ออโต้ เซอร์วิส จำกัด
พร้อมกันนี้ยังมีแผนการเตรียมเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการเพิ่มเติมอีกแห่งในพื้นที่ จังหวัดพัทลุง ซึ่งโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งนี้จะครอบคลุมการจัดจำหน่ายรวมถึงการดูแลหลังการขายรองรับดีมานด์ในส่วนพื้นที่ภาคใต้ รวมถึงการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ในกลุ่มผู้บริโภคและภาคธุรกิจผ่านการออกโรดโชว์ตามหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงผลิตภัณฑ์ได้ง่ายมากขึ้น ตลอดจนได้ให้ความสำคัญต่อการสื่อสารเรื่องแคมเปญหรือกิจกรรมต่าง ๆ บนช่องทางออนไลน์ที่ปัจจุบันจะเห็นได้ว่ามีความสำคัญต่อการตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ของผู้บริโภค เพื่อกระตุ้นการรับรู้ให้กว้างขวางมากขึ้นอีกช่องทางหนึ่งอีกด้วย
“ผลิตภัณฑ์รถบรรทุกเอ็ม เอ เอ็น ที่จำหน่ายในประเทศไทย ประกอบด้วย รถบรรทุกหัวลาก MAN TGS แบบ 10 ล้อ ทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่ 1.TGS 6×4 360 แรงม้า 2.TGS 6×4 400 แรงม้า 3.TGS 6×4 440 แรงม้า สนนราคาเริ่มต้นที่ 4.2 ล้านบาท นอกจากเครื่องยนต์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวสุดประหยัด เทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมและระบบความปลอดภัยที่ประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อรองรับผู้ขับขี่อย่างเหมาะสมที่สุดในทุกพื้นที่ ยังสามารถให้ลูกค้าเลือกปรับแต่งอุปกรณ์ทั้งภายในและภายนอกให้เหมาะกับความต้องการของประเภทธุรกิจได้ ตอบโจทย์ทุกมิติการขนส่งได้อย่างครอบคลุม พร้อมมอบความมั่นใจให้ผู้ซื้อรถบรรทุก MANTGS ด้วยการรับประกันคุณภาพสินค้าตามมาตรฐานของประเทศเยอรมนี โดยรถบรรทุกทุกคันจะได้รับการรับประกันสินค้าทั้งคุณภาพของตัวรถ ระบบขับเคลื่อน และอะไหล่ ตลอดจนฟรีสัญญาบริการการบำรุงรักษา COMFORT เป็นระยะเวลา 3 ปี หรือ 300,000 กิโลเมตร พร้อมบริการถึงสถานที่” นายจักรพงษ์ กล่าวสรุป
