AGE ชี้เข้ายุคทองไฮซีซั่นถ่านหิน ปั้นรายได้รวมปี 64 ทะลุหมื่นล้าน
บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี หรือ AGE ส่งสัญญาณถ่านหินฟื้น จากความต้องการใช้พุ่งสวนทางปริมาณผลิต หนุนราคาถ่านหินขยับไปแตะระดับ 90 ดอลลาร์ต่อตัน ส่งบวกต่อ AGE ด้านประธานกรรมการบริหาร “พนม ควรสถาพร” สบช่องลุยขยายตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่ม หวังดันยอดขายถ่านหินปีนี้เข้าเป้า 5.5 ล้านตัน พร้อมวางเกมบุกธุรกิจโลจิสติกส์ด้านขนส่งเพิ่ม ขณะที่ธุรกิจพลังงาน ส่อแววโตต่อเนื่อง ตั้งเป้าปี 2564 รายได้รวมแตะระดับ 1.1 หมื่นล้านบาท
นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE ผู้จัดจำหน่ายถ่านหินบิทูมินัส (ถ่านหินสะอาด) เปิดเผยถึงภาพรวมอุตสาหกรรมถ่านหินในปี 2564 ว่า มีการฟื้นตัวอย่างชัดเจนมากขึ้น ตั้งแต่ไตรมาส 4/2563 ที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นช่วง ไฮซีซั่นของธุรกิจ จากความต้องการสต็อกถ่านหิน เพื่อสำรองใช้ในช่วงฤดูหนาว อีกทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้มีข้อจำกัดเรื่องการขนส่งถ่านหินในหลายประเทศโดยเฉพาะประเทศจีน ประกอบกับประเทศอินโดนีเชีย ซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกถ่านหินรายใหญ่ ประสบปัญหา อุทกภัยหลายแห่ง ส่งผลกระทบต่อการส่งออกถ่านหิน ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวหนุนให้ราคาถ่านหิน ขยับไปแตะระดับ 90 ดอลลาร์ต่อตัน ทำให้ค่าเฉลี่ยราคาถ่านหินจากช่วงต้นปี จนถึงปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 85 ดอลลาร์ต่อตันเพิ่มขึ้นกว่า 41% เมื่อเทียบจากค่าเฉลี่ยราคาถ่านหินจากช่วงปีที่ผ่านมา
สำหรับทิศทางการเติบโตของบริษัทฯ ในปีหน้า ได้มีการวางกลยุทธ์เพื่อเจาะตลาดถ่านหินในต่างประเทศ เพื่อเตรียมบุกตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้น ซึ่งในส่วนของตลาดในประเทศ บริษัทฯ มีศักยภาพ และความพร้อมในการจัดเก็บถ่านหิน เนื่องจากคลังของ AGE สามารถรองรับการกองเก็บได้เฉลี่ยสูงถึง 1 ล้านตัน ประกอบกับบริษัทฯ มีบริการด้านโลจิสติกส์ ที่มีความพร้อมด้านขนส่งทั้งทางบกและทางน้ำ
ดังนั้น จากกลยุทธ์การขยายตลาดในธุรกิจถ่านหิน ทำให้บริษัทฯ ตั้งเป้าอัตราการเติบโตยอดขายถ่านหินในปีนี้ไว้ที่ 5.5 ล้านตัน แบ่งเป็นยอดจำหน่ายในประเทศ 3.5 ล้านตัน และต่างประเทศ 2 ล้านตัน โดยปัจจุบันบริษัทฯ มียอดคำสั่งซื้อถ่านหินในมือ (Back log) จำนวน 1 ล้านตัน ซึ่งจะทยอยส่งมอบทั้งหมดภายในครึ่งปีแรก
ส่วนแผนขยายธุรกิจโลจิสติกส์ด้านขนส่งนั้น ประธานกรรมการบริหาร บมจ. เอเชีย กรีน เอนเนอจี กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ ยังเดินหน้าขยายธุรกิจโลจิสติกส์ต่อเนื่อง โดยมีแผนการพัฒนาพื้นที่ส่วนขยายท่าเรือที่ 4 นอกจากนี้บริษัทฯ เตรียมดำเนินการในเชิงพาณิชย์ สำหรับโรงคัดร่อนแห่งที่ 4 ภายในปลายเดือนมกราคมนี้ ส่งผลให้ AGE มีโรงคัดร่อนรวมทั้งหมด 5 โรง ซึ่งจากแผนธุรกิจดังกล่าวยิ่งเป็นการตอกย้ำศักยภาพของบริษัทฯ ที่มีการให้บริการในรูปแบบที่ครบวงจรมากยิ่งขึ้น ทำให้บริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้รวมในปีนี้แตะระดับ 11,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน
“หลังจากที่บริษัทฯ ได้มุ่งมั่นปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ในปีนี้ถือว่าเป็นปีทองของ AGE ที่เห็นโครงสร้างธุรกิจที่ชัดเจนยิ่งขึ้น จนผลิดอกออกผลเป็นผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างมั่นคงและชัดเจน สำหรับธุรกิจพลังงาน ซึ่งเกิดจากบริษัทร่วมทุน ภายใต้บริษัท แอท เอนเนอจี โซลูชั่น จำกัด ปัจจุบันมีการดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ ขนาด 5 เมกะวัตต์ และโครงการการขายไอน้ำ ให้กับลูกค้าขนาดเตา Boiler รวม 16 ตัน ยังคงอยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนในโครงการขายไอน้ำ และโครงการลงทุนโรงไฟฟ้าเพิ่มเติมหลายโครงการ โดยปีนี้ได้ตั้งงบลงทุนในส่วนธุรกิจโลจิสติกส์ไว้ประมาณ 100 ล้านบาท ” นายพนม กล่าวทิ้งท้าย