จับทาง “บี.กริม เพาเวอร์” ลงทุนโรงไฟฟ้าชุมชน
“บี.กริม เพาเวอร์” ขอรอดูทีโออาร์ก่อนตัดสินใจยื่นประมูลโรงไฟฟ้าชุมชน จับอาการถอดใจเหตุติดขัดปัจจัยหลายอย่างเป็นองค์ประกอบในการลงทุน
ดร. ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM ผู้ผลิตไฟฟ้าภาคเอกชนรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย เปิดเผยถึงความสนใจเข้าลงทุนโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โครงการนำร่อง) จำนวน 150 เมกะวัตต์ ที่จะเปิดประมูลในเดือนมีนาคม 2564 นี้ ว่า ทางบี.กริม เพาเวอร์ คงต้องรอดูขอบเขตและเงื่อนไขการลงทุน (ทีโออาร์) การเปิดประมูลเสียก่อนถึงจะให้คำตอบเรื่องนี้ได้
อย่างไรก็ตาม การลงทุนจะต้องคิดให้รอบคอบ เพราะช่วงนี้บี.กริม เพาเวอร์ มีงานก่อสร้างค่อนข้างเยอะทั้งในและต่างประเทศ จึงไม่แน่ใจว่าจะมีบุคลากรเพียงพอตามที่รัฐบาลต้องการในการสนับสนุนชุมชนหรือไม่ นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยหลายอย่างที่ต้องคิดให้ดีๆ เพื่อประกอบในการตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นการจัดหาเชื้อเพลิงจะได้รับการสนับสนุนจากใคร การได้รับการสนับสนุนโครงการจากใครบ้าง เป็นต้น
“ที่ผ่านมาเรายังไม่ได้มีการพูดคุยกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนใดๆ เลย เพื่อเตรียมตัวลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน และไม่ใช่ว่าเป็นเพราะโครงการขนาดเล็กขนาด 3-6 เมกะวัตต์ จึงทำให้เราไม่สนใจหรอกนะ ที่ผ่านมามีโครงการโซลาร์รูฟท็อปก็ทำเยอะเป็นโครงการขนาดเล็ก แต่เป็นเพราะช่วงนี้โครงการลงทุนเราค่อนข้างเยอะมาก อีกทั้งกำลังดูช่องทางการลงทุนใหม่ๆ ว่าจะไปทางไหนดี รวมถึงระบบกริดของโครงการต่างๆ ในประเทศจะต้องทำให้สมาร์ทจริงๆ และโครงการในต่างประเทศก็ต้องทำให้ดีและมีการหาสัมปทานเพิ่มขึ้นด้วย”
ปัจจุบัน บี.กริม เพาเวอร์ มีโครงการที่เปิดดำเนินการแล้วทั้งหมด 48 โครงการ รวมกำลังการผลิต 3,058 เมกะวัตต์ หากรวมโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างและพัฒนาจะทำให้กำลังการผลิตขยายเป็น 3,682 เมกะวัตต์ โดยภายในปี 2568 มีเป้าหมายขยายกำลังการผลิตเป็น 7,200 เมกะวัตต์ จากทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาและศึกษาคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในอนาคตอันใกล้