PEA ย้ำชัดๆ เปิดประมูลโรงไฟฟ้าชุมชน ขอคิวทางออนไลน์วันที่ 26-29 เม.ย. ยื่นจริงด้วยตัวเองวันที่ 27-30 เม.ย.นี้
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในประเทศไทยมีแนวโน้มทวีความรุนแรงและขยายเป็นวงกว้างมากยิ่งขึ้น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) หรือ PEA ได้ตระหนักถึงเรื่องการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อดังกล่าว จึงได้เปรียบเปลี่ยนวิธี วันและเวลาการยื่นประมูลโรงไฟฟ้าชุมชน 150 เมกะวัตต์
โดยนายเสกสรร เสริมพงศ์ รองผู้ว่าการวางแผนและพัฒนาระบบไฟฟ้า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) หรือ PEA เปิดเผยว่า ล่าสุด PEA จัดให้มีมาตรการจัดเหลื่อมเวลาให้ประชาชนยื่นซองเอกสารคำเสนอขอขายไฟฟ้าสำหรับโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โครงการนำร่อง) โดยจำกัดจำนวนผู้มายื่นด้วยตัวเองให้น้อยที่สุด และกำหนดไว้ที่ 1 ชั่วโมง ไม่เกิน 12 บริษัท รวมถึงจัดให้มีการรักษาระยะห่างโดยให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรคไวรัสโคโรนา Covid 19
ทั้งนี้ PEA จะเปิดให้ผู้ยื่นประมูลโรงไฟฟ้าชุมชนเข้าเลือกวันเวลามายื่นซอง (เลือกหมายคิว) ได้ตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย. 64 เวลา 8.30 น. จนถึง วันที่ 29 เม.ย. 64 เวลา 23.59 น.โดยผู้ยื่นสามารถเลือกคิวเองว่าจะเดินทางมาวัน และช่วงเวลาที่จะเข้ามายื่นซองเอกสาร ผ่านทางระบบ PPIM (https://ppim.pea.co.th) โดย log in ตาม User ที่เคยลงทะเบียนไว้ และเลือกวันเวลาที่ต้องการมายื่นเอกสาร พิมพ์ใบนัดหมายวันเวลายื่นเอกสารจากระบบ PPIM เพื่อนำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ PEA ด้วยตัวเองตามวันและเวลาที่นัดหมายไว้ในวันยื่นซองประมูลวันที่ 27-30 เม.ย. 64 ที่สำนักงานใหญ่ PEA อาคารคลับเฮาส์ ถนนงามวงศ์วาน กรุงเทพฯ โดยจะต้องนำซองเอกสารด้านเทคนิคและด้านราคาที่มีใบปะหน้าซองซึ่งพิมพ์จากระบบ PPIM หรือสำเนาใบเสร็จการชำระเงินค่าหลักประกันการยื่นซองเอกสารคำเสนอขอขายไฟฟ้า เพื่อแสดงว่าได้ชำระเงินค่าหลักประกันฯ เรียบร้อยแล้ว
“เหตุผลที่ PEA ปรับเปลี่ยนจากเดิมว่าจะมีการยื่นประมูลออนไลน์มาเป็นยื่นด้วยตัวเองที่สำนักงานใหญ๋ PEA เพราะเป็นห่วงการเสนอซองด้านราคาจะควบคุมไม่ได้ ถ้ามีการยื่นทางออนไลน์ จึงได้ปรับเพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน แต่ยังกำหนดวันยื่นประมูลไว้เหมือนเดิมคือ วันที่ 27-30 เม.ย. แต่ผู้ประกอบการจะต้องยื่นขอบัตรคิวทางออนไลน์ก่อนในวันที่ 26-29 เม.ย. นี้ เพื่อเหลื่อมเวลา และลดจำนวนผู้ที่จะเดินทางมายื่นประมูล”
นายเสกสรร กล่าวว่า สำหรับกรอบระยะเวลาในการยื่นประมูลโรงไฟฟ้าชุมชน หลังจากยื่นประมูลเสร็จในวันที่ 30 เม.ย.นี้แล้ว วันที่ 1-7 พ.ค. 64 PEA จะเปิดซองด้านเทคนิคเพื่อตรวจสอบความถูกต้องว่ามีบริษัทไหนขาดตกเอกสารอะไรบ้าง ถ้าไม่ครบก็จะแจ้งให้แต่ละรายมายื่นเพิ่มเติมใหม่อีกครั้ง ซึ่งในรอบนี้ผู้ประกอบการก็จะต้องจองคิวใหม่อีกครั้ง เพื่อกำหนดวันและเวลาที่จะมายื่นเอกสารเพิ่มเติมในช่วงวันที่ 13-14 พ.ค. 64 จากนั้นจะประกาศผลทางด้านเทคนิคในวันที่ 21 พ.ค. 64
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ก็ยังมีขั้นตอนให้ผู้ประกอบการที่ไม่ผ่านการคัดเลือกด้านเทคนิคสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ จนถึงวันที่ 4 มิ.ย. 64 หลังจากส่งให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) และจะประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ ในวันที่ 15 ก.ค. 64 จากนั้นจะลงนามสัญญาโครงการได้ภายใน 120 วัน หรือภายในวันที่ 12 พ.ย. 64
“ตอนนี้มีผู้ประกอบการที่ได้ชำระเงินค่าหลักประกันฯ แล้วจำนวน 50-60 ราย ส่วนจะมีกี่รายสนใจเข้ามายื่นประมูลโรงไฟฟ้าชุมชนจะต้องรอดูในวันสุดท้ายวันที่ 30 เม.ย.นี้”
รองผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวย้ำว่า ทีโออาร์การประมูลที่กำหนดไว้ว่า กรณีที่ผู้ประกอบการเสนอราคาเท่ากันในแต่ละพื้นที่ต้องตัดสินกันที่คิวการยื่นประมูลว่าใครมาก่อนก็จะได้รับการคัดเลือกไปนั้น ยังมีเหมือนเดิมไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร ดังนั้น ขอให้ผู้ยื่นเร่งดำเนินการจองนัดหมายคิวการมายื่นซองเอกสารเพื่อรักษาสิทธิลำดับการยื่นซองเอกสารคำเสนอขอขายไฟฟ้าของผู้ยื่น อย่างไรก็ดี เมื่อได้หมายคิวแล้วก็จะต้องมาตามวันและเวลาที่กำหนดไว้ด้วย ถ้ามาช้าก็จะต้องไปต่อคิวสุดท้ายของช่วงเที่ยง หรือช่วงเย็น ตามที่ได้แบ่งไว้เป็นสองช่วงในแต่ละวัน และจะยึดคิวที่ยื่นจริงเท่านั้นเป็นตัวตัดสิน
อนึ่ง โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โครงการนำร่อง) จะเปิดรับซื้อไฟฟ้า จำนวน 150 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นเชื้อเพลิงชีวมวล จำนวน 75 เมกะวัตต์ เสนอขายโครงการละไม่เกิน 6 เมกะวัตต์ และเชื้อเพลิงก๊าซชีวภาพ จากพืชพลังงาน ผสมน้ำเสีย/ของเสีย น้อยกว่าหรือเท่ากับ 25% จำนวน 75 เมกะวัตต์ เสนอขายโครงการละไม่เกิน 3 เมกะวัตต์