อ้อยและน้ำตาลทราย ยกระดับการดูแลด้านสิ่งแวดล้อมพัฒนาอุตฯ สู่ Zero wastes
โรงงานน้ำตาล ประกาศร่วมมือดูแลด้านสิ่งแวดล้อมในอุตสาหกรรมอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่การจัดเก็บผลผลิตในไร่จนถึงกระบวนการผลิต เพื่อลดกระทบด้านฝุ่นละออง น้ำเสีย หวังยกระดับอุตสาหกรรมก้าวสู่ Zero wastes หลังประสบความสำเร็จในด้านความร่วมมือกับชาวไร่ลดอ้อยไฟไหม้ ที่ทำให้ฝุ่นควันส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมลดลง
นายสิริวุทธิ์ เสียมภักดี ประธานคณะทำงานด้านประชาสัมพันธ์ 3สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย หรือ TSMCเปิดเผยว่า อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายไทย ได้มีความเห็นร่วมกันบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบตั้งแต่ในไร่จนถึงกระบวนนำอ้อยเข้ามาหีบสกัดเป็นน้ำตาลทราย เพื่อลดผลกระทบด้านฝุ่นละออง น้ำเสียที่เกิดจากกระบวนการผลิตไม่ให้ก่อผลกระทบต่อชุมชน รวมถึงนำของเสียที่เกิดจากกระบวนการผลิตน้ำตาลมาสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจสูงสุด ซึ่งถือเป็นหนึ่งในความตั้งใจของผู้ประกอบการโรงงานที่ต้องการยกระดับอุตสาหกรรมให้ก้าวสู่การเป็น Zero wastes ได้อย่างแท้จริง
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ผู้ประกอบการโรงงานน้ำตาลทั้งหมดทั่วประเทศได้ตระหนักและเห็นถึงความสำคัญกับการบริหารจัดการดูแลด้านสิ่งแวดล้อมแก่ชุมชนมาโดยตลอด โดยแต่ละโรงงานได้ลงทุนด้านเครื่องดักจับฝุ่นลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือ PM2.5 หรือการบำบัดน้ำเสียให้สะอาด ปลอดภัยและไม่ส่งต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงนำผลพลอยได้ที่ถือเป็นขยะอุตสาหกรรม เช่น ชานอ้อยมาใช้เผาไฟฟ้าเพื่อนำความร้อนที่ได้ไปใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า หรือการนำกากน้ำตาล มาใช้ผลิตเป็นเอทานอลสำหรับเป็นส่วนผสมในน้ำมันเชื้อเพลิงยานยนต์ ทำให้สามารถลดมลพิษในอากาศและลดใช้จ่ายนำเข้าเชื้อเพลิงพลังงานให้แก่ประเทศ นอกจากนี้ มีการนำน้ำเสียมาผ่านกระบวนการผลิตเป็นไบโอแก๊ส และทำการบำบัดก่อนปล่อยลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ หรือนำกลับมาใช้ซ้ำในกระบวนการผลิตได้อีก ซึ่งแต่ละโรงงานได้มีการลงทุนเป็นจำนวนมากเพื่อบริหารจัดการของเสียจากกระบวนการผลิต มิให้ส่งผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ ความสำเร็จจากความร่วมมือกันของผู้ประกอบการโรงงานน้ำตาลและชาวไร่อ้อย จะเป็นพลังสำคัญในการช่วยกันดูแลด้านสิ่งแวดล้อมให้สามารถก้าวสู่เป้าหมายที่วางไว้ เช่นเดียวกับการลดผลกระทบจากปัญหาอ้อยไฟไหม้ในฤดูการเก็บเกี่ยวผลผลิตปีที่ผ่านมา ที่สามารถลดการเผาอ้อยทำให้ปัญหาทุเลาความรุนแรงลง และผู้ที่เกี่ยวข้องก็ได้รับประโยชน์สูงสุดจากความร่วมมือกันในครั้งนี้ โดยชาวไร่มีรายได้ที่ดีขึ้นจากผลผลิตน้ำตาลต่อตันอ้อยและค่าความหวานในอ้อยสูงสุดในรอบ 30 ปี ขณะที่โรงงานได้ผลผลิตน้ำตาลที่ดีทีสุดแม้มีวิกฤติภัยแล้งก็ตาม
“ความสำเร็จในการร่วมมือกันกับชาวไร่ในการลดการเผาอ้อยในรอบการผลิตที่ผ่านมา มีส่วนทำให้สามารถลดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ถือเป็นจุดเริ่มต้นของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายในความร่วมกันดูแลสิ่งแวดล้อม มุ่งลดผลกระทบจากมลพิษในทุกด้าน ตั้งแต่การเก็บเกี่ยวอ้อยสด ไม่เผาอ้อย และจัดการน้ำเสียที่เกิดจากการผลิตที่ต้องผ่านการควบคุมและบำบัดอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการนำของเสียจากการผลิตไปสร้างให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ เพื่อผลักดันให้อุตสาหกรรมก้าวสู่การเป็น Zero Waste ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตามนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาอุตสาหกรรมชีวภาพ (BCG) ของประเทศที่มีมูลค่าเพิ่มสูง ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และมีการหมุนเวียนกลับมาใช้ประโยชน์ได้” นายสิริวุทธิ์ กล่าว