เตือนตู้สินค้าไฟไหม้ที่แหลมฉบังกระทบหายใจ-ผิวหนัง
เผยคืบหน้ากรณีตู้คอนเทนเนอร์เกิดเพลิงไหม้บนเรือบรรทุกสินค้าที่ท่าเรือแหลมฉบัง เป็นตู้คอนเทนเจอร์บรรทุกสาร CALCIUM HYPOCHLORITE UN 1748 Class 5.1 เตือนส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจและผิวหนังขอให้ประชาชนใกล้เคียงควรสวมใส่หน้ากากอนามัย และอยู่ห่างจากพื้นที่อย่างน้อย 800 เมตร ผงะ ! ยังเหลือตู้สินค้าอีกจำนวน 2 ตู้ ที่เป็นสินค้าทั่วไปตั้งอยู่บนดาดฟ้าเรือ ยังมีกลุ่มควันอยู่ภายในตู้ เจ้าหน้าที่เร่งเปิดตู้สินค้าและดับไฟภายในตู้สินค้าให้แล้วเสร็จภายในเที่ยงคืนวันที่ 25 พ.ค. นี้
เรือโท ยุทธนา โมกขาว ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีตู้คอนเทนเนอร์เกิดเพลิงไหม้
บนเรือบรรทุกสินค้าที่จอดเทียบท่า A2 ท่าเรือแหลมฉบัง ล่าสุดได้รับข้อมูลยืนยันจาก ตัวแทนสายเรือ KMTC ว่า ตู้สินค้าที่เกิดเพลิงไหม้นั้น เป็น สาร CALCIUM HYPOCHLORITE UN 1748 Class 5.1 ซึ่งไม่ได้มีการขนถ่ายลงที่ท่าเรือแหลมฉบัง แต่จะนำไปลงที่ท่าเรือเอกชน ในเขตแม่น้ำเจ้าพระยา จึงทำให้ต้องใช้เวลาในการประสานกับตัวแทนสายเรือเพื่อตรวจสอบข้อมูลของตู้สินค้าโดยละเอียด
สำหรับสารเคมีดังกล่าว เป็นสารผสมหลักของผลิตภัณฑ์ผงฟอกขาว ใช้ในการปรับสภาพน้ำ ใช้เป็นสารเคมีฟอกสี ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ตา และผิวหนัง โดยขอให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ควรสวมใส่หน้ากากอนามัย และให้อยู่ห่างจากพื้นที่ในระยะอย่างน้อย 800 เมตร ในทุกทิศทาง
จากเหตุการณ์นดังกล่าวมีผู้เข้ารับการรักษา ณ โรงพยาบาลต่างๆ ดังนี้ 1.โรงพยาบาลวิภาราม จำนวน 74 ราย เป็นเพศชาย 40 ราย และเพศหญิง 34 ราย 2.โรงพยาบาลแหลมฉบัง จำนวน 31 ราย เป็นเพศชาย 18 ราย และเพศหญิง 13 ราย 3.โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา จำนวน 44 ราย 4.โรงพยาบาลบางละมุง จำนวน 1 ราย โดยส่วนใหญ่ได้เดินทางกลับบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สถานการณ์ปัจจุบัน ตู้สินค้าที่คาดการณ์ว่า เป็น สาร CALCIUM HYPOCHLORITE ได้ดำเนินการควบคุมจนไม่มีประกายไฟ และกลุ่มควันแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ยังเหลือตู้สินค้าอีกจำนวน 2 ตู้ ที่เป็นสินค้าทั่วไป ได้แก่ ตู้ที่บรรจุ Aluminium Shopping Trolley (รถเข็น) และ ตู้ที่บรรจุ Dinner Ware Kitchen Ware (อุปกรณ์เครื่องใช้ภายในครัว) ซึ่งตั้งอยู่บนดาดฟ้าเรือ ยังมีกลุ่มควันอยู่ภายในตู้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะดำเนินการเปิดตู้สินค้าและดับไฟภายในตู้สินค้าต่อไป และคาดการณ์ว่า จะสามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเที่ยงคืนของวันที่ 25 พ.ค. นี้