ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ผู้ให้บริการโซลูชั่นครบวงจรด้านโลจิสติกส์และนิคมอุตสาหกรรมชั้นนำในประเทศไทย ประกาศรุกธุรกิจดิจิทัล เฮลท์แคร์ เต็มรูปแบบ พร้อมหนุนนวัตกรรมด้านสาธารณสุขรูปแบบใหม่ๆ
ในขณะที่ประเทศต่างๆ ต้องกำหนดมาตรการล็อกดาวน์เพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้การดำรงชีวิตประจำวันของผู้คนทั่วโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง เทคโนโลยีจึงเข้ามามีบทบาทช่วยให้การทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันสามารถดำเนินต่อไปได้ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การเรียน การติดต่อสื่อสารทางธุรกิจ ตลอดจนการติดตามข่าวสาร รวมทั้งอุตสาหกรรมเฮลท์แคร์ ที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดในครั้งนี้ เนื่องจากมีผู้ป่วยจำนวนมากต้องการรับการรักษา กอปรกับจำนวนบุคลากรทางการแพทย์ที่พร้อมให้ความช่วยเหลือไม่เพียงพอกับผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นจำนวนมาก การขาดแคลนเครื่องมืออุปกรณ์ ความท้าทายในการแชร์ข้อมูลระหว่างกันและความไม่สะดวกในด้านอื่นๆ ในขณะที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญทางการแพทย์ อาทิ การแพทย์ทางไกล (Telemedicine) ระบบที่ขับเคลื่อนโดยปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการแชร์ข้อมูลผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน สิ่งเหล่านี้ได้เข้ามาช่วยสนับสนุนการให้บริการทางการแพทย์ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งช่วยลดข้อผิดพลาดจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และลดต้นทุนได้อีกด้วย
ด้วยวิสัยทัศน์ที่ให้ความสำคัญกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จึงได้ผลักดันให้ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ก้าวเข้าสู่การเป็นผู้ขับเคลื่อนการใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อพัฒนาภาคอุตสาหกรรมของประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง รวมถึงได้ร่วมสนับสนุนกลุ่มสตาร์ทอัพ โดยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับทัส โฮลดิ้งส์ เปิดศูนย์เพื่อสนับสนุนนวัตกรรมและการบ่มเพาะธุรกิจ “ทัสพาร์ค ดับบลิวเอชเอ” แห่งแรกในประเทศไทย ส่งเสริมการพัฒนาสตาร์ทอัพจากกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ให้เติบโตได้อย่างมั่นคง และเมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทฯ ยังได้ร่วมสนับสนุน บริษัท เพอเซ็ปทรา (Perceptra) ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพสัญชาติไทยที่กำลังพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ ที่เข้ามาช่วยแพทย์วิเคราะห์ภาพเอกซเรย์เพื่ออำนวยความสะดวกให้การวินิจฉัยโรค
นางสาวจรีพร กล่าวว่า “เทคโนโลยีได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงภาคอุตสาหกรรมตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้เราพบว่าเทคโนโลยีนั้นมีบทบาทสำคัญในการดูแลสุขภาพเป็นอย่างยิ่ง โดยดับบลิวเอชเอ กรุ๊ปได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือชาวชุมชนในหลายรูปแบบ เพื่อให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ซึ่งเทคโนโลยีล้ำสมัยจะช่วยสร้างเสริมชุมชนที่แข็งแกร่งและปลอดภัย อันจะนำไปสู่การพัฒนาอย่างรุดหน้าของสังคม”
“ดับบลิวเอชเอ ยังได้ทำงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขเพื่อให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการจัดพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมจำนวน 8 แห่งให้มีความปลอดภัย พร้อมให้บริการลูกค้าและพนักงาน ตลอดจนผู้อยู่อาศัยในชุมชนใกล้เคียงทั้งหมด เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่จากไวรัสโควิด-19” มร. เดวิด นาร์โดน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวและเสริมว่า “เราได้เตรียมความพร้อมสำหรับสถานที่ฉีดวัคซีนให้สามารถรองรับกลุ่มคนทุกกลุ่ม โดยบริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะช่วยดำเนินการช่วยเหลือด้านบริการฉีดวัคซีน พร้อมอำนวยความสะดวกให้กับทุกคนอย่างทั่วถึง หวังให้ทุกคนมีสุขภาพดีและใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยในสังคม”
