“จุรินทร์ ” ลุยสานต่อกองทุนฟื้นฟูฯ เดินหน้าแก้หนี้เกษตรกรอีสาน
เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2564 ที่ราชาวดี รีสอร์ท แอนด์ โฮเทล จังหวัดขอนแก่น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ประธานกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร นายสมยศ ภิราญคำ รักษาการในตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พร้อมผู้เกี่ยวข้อง ได้ร่วมเดินสายแก้หนี้เกษตรกรภาคอีสานในกิจกรรมมอบเช็คชำระหนี้และมอบโฉนดที่ดินคืนให้เกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร โดยในวันนี้ได้เดินทางมาที่จังหวัดขอนแก่นเพื่อมอบเช็คเงินกองทุนฯ กว่า 26 ล้านบาท พร้อมมอบโฉนดคืนอีก 18 ราย
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ในสมัยรัฐบาลชวน 2 มีการก่อตั้งกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรขึ้นมา มีเป้าหมายเพื่อแก้ปัญหาหนี้สินให้กับพี่น้องเกษตรกร ด้วยการไปชำระหนี้แทนแล้วให้พี่น้องเกษตรกรมาผ่อนคืนกับกองทุนฯ นอกจากเกษตรกรจะไม่สูญเสียที่ดินทำกินแล้ว ยังสามารถฟื้นฟูคุณภาพชีวิตให้พึ่งพาตนเองได้ มาถึงวันนี้ตนซึ่งเป็นหนึ่งในผู้มีส่วนเห็นชอบร่างพ.ร.บ.กองทุนฟื้นฟูฯ โดยในช่วงที่ผ่านมาได้มีการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องเกษตรกรสำเร็จด้วยดีหลายเรื่อง
นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า ในวันนี้ได้มอบเช็คเงินโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรให้กับองค์กรเกษตรกรสมาชิกในจังหวัดขอนแก่น จำนวน 19 โครงการ เป็นเกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการ 251 คน จำนวนเงิน 11,220,440 บาท และมอบเช็คเงินชำระหนี้แทนเกษตรกรสมาชิก จำนวน 27 ราย จาก 5 สหกรณ์ ประกอบด้วย 1. สหกรณ์การเกษตรกระนวน จำกัด 2. สหกรณ์การเกษตรหนองหวาย จำกัด 3. สหกรณ์การเกษตรเมืองพล จำกัด 4. สหกรณ์การเกษตรน้ำพอง จำกัด และ 5. สหกรณ์การเกษตรอุบลรัตน์ จำกัด เป็นเงินจำนวน 14,351,604.11 บาท และเป็นที่น่ายินดีกับเกษตรกรที่ชำระหนี้คืนกองทุนครบตามสัญญา จึงได้มอบโฉนดที่ดินคืนพร้อมประกาศเกียรติบัตรให้กับเกษตรกรที่ชำระหนี้คืนครบถ้วนและปิดบัญชีกับกองทุน
ข้อมูลประกอบ
ข้อมูลจากสำนักงานกองทุนฟื้นฟู และพัฒนาเกษตรกร ระบุว่า ปัจจุบันเกษตรกรขึ้นทะเบียนหนี้เกษตรกร จำนวน 531,815 ราย ได้ชำระหนี้แทนเกษตรกรแล้วจำนวน 29,469 ราย จำนวนเงิน 7,055.37 ล้านบาท และช่วยรักษาที่ดินทำกินของเกษตรกร จำนวน 22,626 แปลง 161,134 ไร่ ปัจจุบันมีเกษตรกรสมาชิกที่ชำระหนี้ครบถ้วนถามสัญญาแล้ว จำนวน 8,159 ราย และโอนหลักประกันคืนเกษตรกรแล้ว จำนวน 9,295 แปลง เนื้อที่ 68,988 ไร่
สำหรับจังหวัดขอนแก่นได้รับการชำระหนี้แทนแล้ว จำนวน 453 ราย รักษาที่ดินของเกษตรกร จำนวน 111 แปลง เนื้อที่ประมาณ 938 ไร่ และโอนหลักประกันคืนเกษตรที่ชำระหนี้ครบถ้วนแล้ว จำนวน 121 ไร่ เนื้อที่ประมาณ 1,009 ไร่