เกาะติดการแพร่ระบาด “โควิด” กับระบบเช็คไทม์ไลน์ฯ ด้วย Location Intelligence ประมวลผลแม่นยำ เชื่อมโยงทุกมิติ
บริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้าน Location Intelligence การวิเคราะห์ภูมิสารสนเทศในมุมมองใหม่ ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ ArcGIS ในประเทศไทยมากว่า 30 ปี ล่าสุดประสานความร่วมมือกับ ศูนย์บริหารจัดการเมืองสมาร์ทซิตี้ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำระบบ COVID-19 Data Analytics Platform ด้วยซอฟแวร์ ArcGIS จับตาสถานการณ์โควิด-19 ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียง เผยความสามารถสำคัญในการบริหารจัดการข้อมูลผู้ติดเชื้อฯ และไทม์ไลน์ พร้อมสืบค้น แสดงผลที่เข้าใจง่าย เชื่อมโยงข้อมูลจากการสนับสนุนของหน่วยงานสาธารณสุขในจังหวัดขอนแก่น หวังช่วยประชาชนเข้าถึงข้อมูล ตรวจสอบไทม์ไลน์ เฝ้าระวังการแพร่กระจายเชื้อ และวางแผนป้องกันยับยั้งการระบาดในอนาคตอย่างเป็นระบบ
รองศาสตราจารย์ ดร.รวี หาญเผชิญ อาจารย์คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จากโครงการ KKU Smart City มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในฐานะตัวแทนคณะทำงาน กล่าวว่า แพลตฟอร์ม Spatial Open Data Platform Locations เป็นความร่วมมือที่สำคัญของหลายภาคส่วนในจังหวัดขอนแก่น ได้แก่ สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น ศูนย์ Smart City Operations center (SCOPC) มหาวิทยาลัยขอนแก่น และ อีเอสอาร์ไอ ประเทศไทย ที่มีส่วนสำคัญในการ provide ระบบการจัดการ Location Intelligence ข้อมูลแผนที่เชิงลึก โดยระบบสามารถวิเคราะห์ข้อมูลผู้ป่วยโควิด -19 ติดตาม เฝ้าระวังและรายงานผลการระบาดของโควิด -19 ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ทั้งยังสามารถจำแนกกลุ่มประชากร อาทิ อายุ เพศ ฯลฯ และตรวจสอบความเชื่อมโยงของผู้ป่วยในแต่ละเคส โดยมีการแสดงสัญลักษณ์เป็นหมุดสีต่างๆ เพื่อระบุการสัมผัสเชื้อในช่วง 7 – 28 วันที่ผ่านมา ซึ่งมีรูปแบบการแสดงผลข้อมูลเป็นกราฟและมีกราฟฟิคที่เข้าใจง่าย ซึ่งแพลตฟอร์มสามารถนำข้อมูลดิบจากการรวบรวมรูปแบบตารางข้อมูล มาจัดการวิเคราะห์ และแสดงผล (Visualization) ได้ถูกต้องแม่นยำ มีจุดเด่นในเรื่องของการเชื่อมโยงข้อมูลแบบ Interactive ทำให้ง่ายต่อการ Monitor และสะดวกแก่การนำไปสื่อสารใช้งานกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง สำหรับประชาชนและผู้สนใจสามารถตรวจสอบไทม์ไลน์ ได้ที่ https://arcg.is/W9954
“หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมคณะทำงาน หวังว่า การจัดการบริหารข้อมูลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจังหวัดขอนแก่นนี้ จะเป็นอีกหนึ่งจุดเริ่มต้นในการบริหารจัดการข้อมูล เพื่อรับมือกับสถานการณ์วิกฤต และนำไปสู่การวางแผนและยับยั้งการระบาดอย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต ไม่เพียงแค่ในจังหวัดขอนแก่นของเราเท่านั้น แต่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างสู่การกระจายการทำงานและบริหารจัดการข้อมูล เชื่อมโยงด้วยระบบแผนที่ครอบคลุมทั้งประเทศต่อไป” ดร.รวี กล่าว
ด้านนางสาวธนพร ฐิติสวัสดิ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในปัจจุบัน เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนต้องประสานความร่วมมือในการบริหารจัดการสถานการณ์วิกฤต และร่วมกันระดมสรรพกำลังดึงเอาทักษะและความเชี่ยวชาญของแต่ละหน่วยงาน เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาและมอนิเตอร์สถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด โดยล่าสุด อีเอสอาร์ไอ ประเทศไทย จึงได้สนับสนุนระบบการใช้ Location Intelligence ข้อมูลแผนที่เชิงลึก ด้วยซอฟแวร์ ArcGIS โดยการวิเคราะห์บูรณาการฐานข้อมูลผู้ติดเชื้อและไทม์ไลน์ ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น และจังหวัดใกล้เคียง เพื่อร่วมเฝ้าระวังสถานการณ์โควิด-19 อย่างเป็นระบบ โดยมี 3 ไฮไลท์หลักของระบบ คือ 1.การแสดงผลภาพรวมสถิติทั้งจังหวัด 2.การประมวลผลเชื่อมโยงเคสผู้ติดเชื้อรายวันแบบเรียลไทม์ด้วยข้อมูลแผนที่ 3.ไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อแต่ละรายอย่างละเอียด
เทคโนโลยี ArcGIS เป็นซอฟแวร์การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยแผนที่เชิงลึกที่ได้รับความนิยมใช้ในหลายประเทศทั่วโลก โดยดึงเอาหนึ่งในความสามารถสำคัญในการจัดการและวิเคราะห์ฐานข้อมูล (Analysis) บูรณาการร่วมกับตำแหน่งบนแผนที่เชิงลึก แสดงผลเชื่อมโยงข้อมูลแบบ Interactive และสื่อสารข้อมูลให้เข้าใจง่าย ในที่นี้คือข้อมูลด้านสาธารณสุข ช่วยเพิ่มมุมมองสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้อง ในการจัดการบริหารสถานการณ์การระบาด (Situation management )ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม่นยำ พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกประชาชนและผู้เกี่ยวข้องในการเข้าถึงข้อมูลอีกด้วย
“อีเอสอาร์ไอ เชื่อว่าเทคโนโลยี ArcGIS และเครื่องมือที่ได้พัฒนาขึ้น จะเป็นหนึ่งในตัวช่วยที่จะเฝ้าระวังเพื่อรับมือกับสถานการณ์การระบาดในครั้งนี้ โดยเป็นการนำเทคโนโลยี GIS มาใช้ต่อยอดให้เกิดประโยชน์ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ พร้อมเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญให้แก่องค์กร ทั้งหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ภาครัฐ ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องในทุกมิติ เพื่อให้ประเทศไทยผ่านพ้นสถานการณ์วิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน” นางสาวธนพรกล่าวปิดท้าย