จากกรณีการพิจารณาคัดเลือกด้านเทคนิคโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โครงการนำร่อง) จำนวน 150 เมกะวัตต์ ได้เลื่อนประกาศผลออกไปเดิมวันที่ 2 กรกฏาคม 2564 เป็นวันที่ 9 กรกฏาคม 2564 โดยนายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ออกมาระบุว่า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) หรือ PEA แจ้งว่ามีเอกสารและข้อเสนอเพื่อเข้าร่วมโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน ที่จะพิจารณาจำนวนมาก รวมถึง กฟภ. ต้องดำเนินการตามมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดของกระทรวงสาธารณสุขด้วย ดังนั้น เพื่อให้การพิจาณาเป็นไปด้วยความรอบคอบ จึงขอขยายกรอบระยะเวลาดำเนินการออกไปอีก 7 วันนั้น
ผู้สื่อข่าว “สำนักข่าวไทยมุง” รายงานจากกระทรวงพลังงานว่า การเลื่อนประกาศผลการคัดเลือกทางด้านเทคนิคโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนครั้งนี้มีหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการพิจารณาการคัดเลือกด้านเทคนิคหลายครั้งก็มีส่วนสำคัญทำให้การพิจารณาล่าช้า รวมถึงการออกประกาศของ กฟภ. จากเดิมระบุว่า หลังจากมีการเปิดให้เอกชนยื่นขอผลิตไฟฟ้าทางออนไลน์เรียบร้อยแล้ว จะมีการเปิดซองด้านเทคนิคเพื่อตรวจสอบเอกสารต่างๆ ถ้าไม่ถูกต้องหรือครบถ้วน ทาง กฟภ. ก็จะแจ้งให้เอกชนแต่ละรายมายื่นเอกสารเพิ่มเติมทางออนไลน์ โดยการลงทะเบียนออนไลน์จองคิวไว้ล่วงหน้าก่อน เพื่อกำหนดเลือกวันและเวลาในการยื่นเอกสารเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม ต่อมา กฟภ. ได้ออกประกาศเรื่อง การตรวจสอบจุดเชื่อมโยงระบบไฟฟ้า และรายละเอียด ขั้นตอน สถานที่ ระยะเวลา แบบคำเสนอขอขายไฟฟ้า และเอกสารหลักฐาน รวมทั้งเงื่อนไขอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรับซื้อไฟฟ้า สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2564 โดยข้อ 4 ระบุว่า กฟภ. ขอแจ้งสิทธิกับผู้ยื่นขอผลิตไฟฟ้าให้กับโรงฟ้าชุมชน ที่ได้ยื่นเสนอขอขายไฟฟ้าทางด้านเทคนิค และด้านราคา สามารถดำเนินการแก้ไขปรับปรุงเอกสารคุณสมบัติและคำเสนอขายไฟฟ้าด้านเทคนิคที่ไม่ครบถ้วน หรือไม่ชัดเจนให้สมบูรณ์ได้เลย โดยจะไม่มีการแจ้งจาก กฟภ. ให้ยื่นทางออนไลน์แล้ว ทำให้มีเอกสารเพิ่มเติมเข้ามาจำนวนมาก ส่งผลต่อการพิจารณาล่าช้า
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า อีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้มีการเลื่อนประกาศผลการคัดเลือกด้านเทคนิคออกไป เนื่องจากที่ผ่านมามีการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขการพิจารณาคัดเลือกด้านเทคนิคหลายครั้ง แม้ว่าจะมีการพิจารณาคัดเลือกผู้มีคุณสมบัติผ่านทางด้านเทคนิคเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่มีผู้บริหาร กฟภ. กล้าเซ็นรับรองผลการคัดเลือกทางด้านเทคนิคดังกล่าว เพราะเกรงว่าจะผิดระเบียบการเปิดประมูลโรงไฟฟ้าชุมชนในครั้งนี้
สำหรับก่อนหน้านี้มีผู้ยื่นเสนอขอขายไฟฟ้าโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน จำนวนทั้งสิ้น 246 ราย อยู่ในเขตพื้นที่ กฟภ. ทั้งหมด แบ่งตามประเภทเชื้อเพลิงชีวมวล จำนวน 143 ราย และประเภทก๊าซชีวภาพ (พืชพลังงานผสมน้ำเสีย/ของเสีย) จำนวน 103 ราย ส่วนในเขตพื้นที่การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ไม่มีผู้ยื่นคำขอเสนอขายไฟฟ้าแต่อย่างใด
