“บีไอจี” เดินหน้าสนับสนุนออกซิเจนทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง รุกช่วยเหลือผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ส่งมอบออกซิเจนทางการแพทย์พร้อมท่อบรรจุขนาด 7 ลูกบาศก์เมตร รวมถึงอุปกรณ์ปรับลดแรงดัน (Regulators) สำหรับผู้ป่วยในโรงพยาบาลสนามสมุทรปราการรวมใจ 5 ในพื้นที่ศูนย์ เมกะ โลจิสติกส์ กม. 4 จ.สมุทรปราการ ของ WHA
นายปิยบุตร จารุเพ็ญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกอินดัสเทรียลแก๊ส จำกัด (บีไอจี) ในฐานะผู้ผลิตออกซิเจนรายใหญ่ของประเทศ เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ที่ยังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่สีแดงเข้มในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่งผลให้จำนวนเตียงผู้ป่วยที่ต้องรับการรักษาในโรงพยาบาลไม่เพียงพอ บีไอจีได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนในการเข้าถึงระบบสาธารณสุข โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2564 ได้เร่งส่งมอบออกซิเจนทางการแพทย์พร้อมท่อบรรจุออกซิเจน รวมถึงอุปกรณ์ปรับลดแรงดัน (Regulators) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีส่วนสำคัญในการช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง และต้องการใช้ออกซิเจนเพื่อเพิ่มค่าออกซิเจนในร่างกาย ให้กับบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดยมีนางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ. ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น เป็นผู้รับมอบ เพื่อใช้ในพื้นที่คลังสินค้า 10,000 ตารางเมตร ในโครงการดับบลิวเอชเอ เมกะ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ ชลหารพิจิตร กม. 4 จ.สมุทรปราการ จัดตั้งเป็นโรงพยาบาลสนาม (Field Hospital) ขนาด 1,300 เตียง
“ความร่วมมือครั้งนี้ เป็นเป้าหมายที่องค์กรภาคธุรกิจได้เข้าไปช่วยเหลือและสนับสนุนภาคสังคมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การเข้าระบบสาธารณสุขเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถดูแลด้านสุขภาพของประชาชนได้อย่างทั่วถึง ในฐานะที่เป็นบริษัทผู้ผลิตก๊าซอุตสาหกรรมรายใหญ่ของประเทศ บีไอจีพร้อมให้การสนับสนุนในการนำก๊าซออกซิเจนไปใช้ประโยชน์ด้านสาธารณสุข โดยที่ผ่านมาได้ดำเนินผ่านโครงการต่างๆ ทั้งการให้บริการเติมออกซิเจนทางการแพทย์โดยไม่มีค่าใช้จ่ายให้กับองค์กรการกุศล อาสาสมัคร และมูลนิธิต่าง ๆ ผ่านคู่ค้าและตัวแทนจำหน่ายของบีไอจีในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งพื้นที่ในเขตภาคตะวันออก ซึ่งบีไอจีจะให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ในประเทศไทยจะคลี่คลายและกลับมาสู่ภาวะปกติ” นายปิยบุตรกล่าว
