เปิดแผน AEDP 2018 เพิ่มไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์-ชีวมวล-ขยะ
พพ. จับมือ สนพ. แจงเป้าหมายแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก หรือ AEDP 2018 ตามแผน PDP 2018 พร้อมเตรียมจัดรับฟังความคิดเห็นทั่วประเทศสร้างการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน เฮ ! โซลาร์เซลล์ เพิ่ม ขึ้น 12,725 เมกะวัตต์ ชีวมวล 3,496 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าขยะเพิ่มจากเดิมเป็น 900 เมกะวัตต์
นายยงยุทธ จันทรโรทัย อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เปิดเผยว่า ตามที่แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561-2580 (PDP 2018) ได้รับความเห็นชอบจาก ครม. เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2562 แล้วนั้น ปัจจุบัน พพ. อยู่ระหว่างจัดทำแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก พ.ศ. 2561-2580 (AEDP2018) ให้สอดคล้องกับแผน PDP2018 โดยแผนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานงานทดแทนจะมีการปรับเป้าหมายให้สูงขึ้นจากแผน AEDP2015 ตัวอย่างเช่น
• พลังงานแสงอาทิตย์ตามแผนเดิม ณ ปี 2579 จะติดตั้งให้ได้รวม 6,000 MW ณ สิ้นปี 2560 ดำเนินการแล้ว 2,849 MW ในแผนใหม่จะติดตั้งระหว่างปี 2561–2580 อีก 12,725 MW (โซล่าร์รู๊ฟท๊อปกับโซล่าร์แบบทุ่นลอยน้ำ) รวมมีเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2580 อยู่ที่ 15,574 MW
• พลังงานชีวมวล แผนเดิมอยู่ที่ 5,570 MW ณ สิ้นปี 2560 ดำเนินการแล้ว 2,290 MW มีแผนจะติดตั้งระหว่างปี 2561–2580 อีก 3,496 MW รวมมีเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2580 อยู่ที่ 5,786 MW เป็นต้น
ทั้งนี้ ในแผน AEDP 2018 จะมีการผลิตไฟฟ้ารูปแบบใหม่ที่ไม่มีในแผน AEDP 2015 คือ การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบลอยน้ำ โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ 2,725 MW และมีการเพิ่มเป้าหมายของโรงไฟฟ้าขยะจากเดิม 500 MW เป็น 900 MW เพื่อช่วยแก้ปัญหาการจัดการขยะซึ่งเป็นวาระแห่งชาติ
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการจัดทำแผน AEDP 2018 ในภาพรวมนั้น ปัจจุบัน พพ. อยู่ระหว่างเตรียมพร้อม
จัดรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน ทั่วประเทศ คาดว่าในเดือนสิงหาคม 2562 จะเริ่มดำเนินการได้
ด้านนายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า ตามเป้าหมายของแผน PDP 2018 จะมีกำลังผลิตไฟฟ้าในปี 2580 จำนวน 77,211 เมกะวัตต์ ซึ่งจากเป้าหมายนี้จะต้องมีการเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้า 56,431 เมกะวัตต์ รวมทั้งจะพัฒนาระบบผลิตและส่งไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อรองรับการซื้อขายไฟฟ้ากับเอกชนที่เพิ่มมากขึ้นและเกิดความมั่นคงทางพลังงาน และแนวทางการพัฒนาพลังงานทดแทน ซึ่งเบื้องต้นจะกำหนดเป้าหมายการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน ไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ซึ่งจะเป็นระดับที่สร้างความสมดุลการผลิตไฟฟ้า และการใช้ไฟฟ้า เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศในอนาคตต่อไป