ส่งสัญญาณสิ้นเดือน พ.ค. ปรับขึ้นดีเซลลิตรละ 33 บาท ผวากองทุนฯ ติดลบทะลุ 1 แสนล้าน
ส่องกล้องราคาน้ำมันดีเซลสิ้นเดือน พ.ค. นี้ ได้เห็น 33 บาทต่อลิตรอย่างแน่นอน เหตุฐานะกองทุนน้ำมันฯ จะติดลบทะลุ 8 หมื่นล้านบาท และคาดว่าสิ้นปีนี้จะเห็น 1 แสนล้านบาท จากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังปรับตัวสูงขึ้นจากปัจจัยการสู้รบของยูเครน-รัสเซีย ขณะที่ปัจจุบัน กบน. ยังกัดฟันตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไว้ที่ 32 บาทต่อลิตรเป็นสัปดาห์ที่ 3
วันนี้ (18 พ.ค.65) นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้พิจารณาทบทวนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลประจำสัปดาห์ โดยมีมติให้คงราคาดีเซลในสัปดาห์นี้ไว้ที่ 32 บาทต่อลิตรเช่นเดิม ถึงแม้ว่าสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังคงอยู่ในระดับสูง ราคาน้ำมันดีเชล (Gas Oil) 141.15 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล แต่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงยังอยู่ในวิสัยที่จะบริหารจัดการสภาพคล่องได้ เพื่อเป็นการช่วยบรรเทาผลกระทบในช่วงเวลานี้ให้กับประชาชนไปก่อน
ทั้งนี้ สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังมีแนวโน้มเคลื่อนไหวอยู่ในระดับสูงจนถึงสิ้นปี จากปัจจัยสงครามยูเครนกับรัสเซีย ทำให้ปีนี้ไม่น่าจะเห็นราคาน้ำมันดีเซลขายปลีกต่ำกว่า 32 บาทต่อลิตร ซึ่งทางกระทรวงพลังงานได้เตรียมมาตรการต่างๆ เพื่อช่วยลดราคาไม่ให้กระทบกับประชาชน อาทิ การปรับลดส่วนผสมของน้ำมันไบโอดีเซล (B100) กับน้ำมันดีเซลจากเดิม B5 ให้เหลือ B3 ซึ่งอยู่ระหว่างการหารือกัน แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปในเรื่องนี้
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้ต่ออายุลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลให้เป็น 5 บาทต่อลิตรไปอีก 2 เดือน ตั้งแต่ 21 พฤษภาคม-20 กรกฎาคม 2565 กบน.จะพิจารณาอีกครั้งว่า แนวทางการบริหารจัดการอุดหนุนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งเชื่อว่าจะมีส่วนช่วยลดความผันผวนด้านราคาของน้ำมันดีเซลลง
อย่างไรก็ดี อัตราภาษีที่ลดลง 5 บาทต่อลิตร ไม่ได้หมายความว่าราคาดีเซลจะลดลง 5 บาทต่อลิตร เพราะขึ้นอยู่กับฐานการคำนวณภาษีจะลดลงตามสัดส่วนน้ำมันดีเซลที่ผสมอยู่ในน้ำมันไบโอดีเซล เช่น ฐานภาษี B5-B7 อัตราภาษีสรรพสามิตเดิม 5.99 บาทต่อลิตร แต่อัตราที่ลดลงจริงจะอยู่ที่ 4.65 บาทต่อลิตร ดังนั้น อัตราภาษีใหม่ที่ลดลงหน้าสถานีบริการน้ำมันจะจัดเก็บอยู่ที่ 1.34 บาทต่อลิตร จากเดิม 5.99 บาทต่อลิตร
สำหรับการพิจารณาทบทวนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลประจำสัปดาห์ของ กบน. เป็นไปตามมมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2565 เรื่อง 10 มาตรการลดค่าครองชีพ โดยรัฐบาลจะเข้าไปช่วยเหลือส่วนที่ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นครึ่งหนึ่ง ซึ่ง กบน. ได้พิจารณาปรับราคาน้ำมันดีเซลครั้งแรกมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นมา โดยปรับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 32 บาทต่อลิตร และจะทยอยปรับราคาขึ้นลงเป็นรายสัปดาห์ หากในแต่ละรอบสัปดาห์ราคาน้ำมันตลาดโลกมีการปรับลดลง ก็จะมีการปรับเงินอุดหนุนและปรับเพดานราคาลดลงตามความการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมันต่อไป
ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวด้วยว่า ปัจจุบัน (15 พ.ค.65) ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ติดลบ 72,062 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 37,854 ล้านบาท และบัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 34,208 ล้านบาท จากทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับขึ้นแบบนี้ คาดว่าภายในสิ้นเดือน พ.ค. นี้ ฐานะกองทุนฯน่าจะติดลบถึง 8 หมื่นล้านบาท และถึงสิ้นปี 2565 น่าจะเห็นตัวเลขติดลบถึง 1 แสนล้านบาท ซึ่งกองทุนฯ อยู่ระหว่างการพิจารณาเลือกสถาบันการการเงินที่ยื่นปล่อยกู้เพื่อเติมสภาพคล่อง จำนวน 2 หมื่นล้านบาท
“ถ้าสถานะกองทุนน้ำมันฯ ติดลบใกล้ถึง 8 หมื่นล้านบาท ก็จำเป็นจะมีการพิจารณาปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซลจาก 32 บาทต่อลิตรเป็น 33 บาทต่อลิตร ซึ่งคาดว่าสิ้นเดือน พ.ค. น่าจะได้เห็นกันแล้ว ซึ่งการปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซลเพื่อนำเงินไปเสริมสภาพคล่องเจ้าหนี้การค้าของกองทุนฯ ด้วย”