กทพ.เปิดรับฟังความคิดเห็นทางด่วน “กะทู้-ป่าตอง” พร้อมเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอย่างเป็นธรรม ตั้งเป้าก่อสร้างเสร็จก่อน Specialised Expo ปี 2571
เมื่อวันที่ 4 กรกฏราคม 2565 การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ได้จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นประชาชน ครั้งที่ 1 (การปฐมนิเทศโครงการ) งานศึกษาความเหมาะสมทางด้านวิศวกรรม การเงิน และผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการทางพิเศษสายเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ จังหวัดภูเก็ต ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร โดยมีนายพิเชษฐ์ ปาณะพงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และนายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย เป็นประธานในพิธีเปิดงาน ณ ห้องบอลรูม 1 ชั้น 2 โรงแรมรอยัล ภูเก็ตซิตี้ จังหวัดภูเก็ต
นายพิเชษฐ์ กล่าวระหว่างการเปิดงานตอนหนึ่งว่า เพื่อเป็นการแก้ปัญหาจราจรคับคั่งในจังหวัดภูเก็ต จึงได้มีการก่อสร้างทางพิเศษสายเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ เป็นโครงการทางพิเศษสายใหม่ ซึ่งกรมทางหลวงเคยศึกษาออกแบบไว้เมื่อปี 2559 มาดำเนินการ เดิมแนวสายทางโครงการนี้จะติดปัญหาเขตป่าสงวน แต่ได้มีการปรับแนวเขตและได้รับความเห็นชอบเรียบร้อยแล้ว และมีการออกแบบแนวเส้นทางใหม่ในการเชื่อมต่อเข้าทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง โดยการทางพิเศษแห่งประเทศไทยเป็นผู้ดำเนินการ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจากสนามบินไปยังป่าตอง และกรมป่าไม้ได้ส่งมอบพื้นที่ให้ตั้งแต่ปี 2564 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการหาผู้ร่วมทุนในรูปแบบการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (Public Private Partnership หรือ PPP)
ด้านนายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า การทางพิเศษฯ มีแผนดำเนินโครงการทางพิเศษในจังหวัดภูเก็ต เพื่อแก้ปัญหาจราจร แบ่งออกเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะแรก จากกะทู้-ป่าตอง ระยะทาง 5 กิโลเมตร คาดว่าในปี 2566 จะหาผู้ร่วมทุนและเริ่มก่อสร้างได้ และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 2 ปี ส่วนระยะที่ 2 จากกะทู้-สนามบิน เพื่อรองรับปริมาณนักท่องเที่ยวให้เดินทางสะดวกสบาย จะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนการจัดงาน Specialised Expo 2028 ที่จังหวัดภูเก็ต จะเป็นเจ้าภาพในปี 2571
“การเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ครั้งนี้เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ซึ่งการทำงานของทางพิเศษฯ ไม่มีอะไรซับซ้อน เรามาด้วยใจที่เปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน ซึ่งผู้ได้รับผลกระทบเราจะไม่ทิ้งเขาให้เป็นผู้เสียสละ แต่จะได้รับการเยียวยาที่เป็นธรรม” ผู้ว่าการการทางพิเศษฯ กล่าว
