“เบคกา สตามาเรีย” ผอ.สำนักเลขาธิการเอเปค ยกย่องไทย “ระดับเวิลด์คลาส” จัดประชุมเอเปค 2022 ยอดเยี่ยม
“เบคกา สตามาเรีย” ผอ.สำนักเลขาธิการเอเปค ยกย่องไทย “ระดับเวิลด์คลาส” จัดประชุมเอเปค 2022 ยอดเยี่ยม สะท้อน “พล.อ.ประยุทธ์” จัดงานได้มีประสิทธิภาพ ส่งผลภาพลักษณ์และศักยภาพระดับโลก เปิดโอกาสดึงอีเวนท์ใหญ่นานาชาติจัดที่ไทย กระตุ้นเศรษฐกิจกระจายรายได้ทุกภาคส่วน
น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนางรีเบคกา สตามาเรีย ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการเอเปค ได้กล่าวในการประชุมของเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปคว่า ชื่นชมการเป็นเจ้าภาพงานประชุมเอเปค 2022 ของไทยในปีนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีที่ผู้นำจากเขตเศรษฐกิจและผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถกลับมาประชุมแบบพบหน้ากัน ในแง่โลจิสติกส์ สถานที่ต่างๆ ของไทยถือว่าอยู่ในระดับเวิลด์คลาสและจัดการได้เยี่ยมยอด เป็นการจัดเตรียมงานที่เป็นเลิศ เอาใจใส่ดูแลให้ผู้เข้าร่วมประชุมมีความปลอดภัยทั้งจากการเดินทางและจากผลกระทบการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในขณะที่ในแง่สารัตถะก็สามารถทำให้เกิดความคืบหน้าท่ามกลางความท้าทายที่เราเผชิญอยู่ ถือเป็นปีที่ประสบความสำเร็จปีหนึ่งของเอเปค
น.ส. ทิพานัน กล่าวว่า เสียงชื่นชมดังกล่าวเป็นการการันตีการเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปค 2022 ของไทย ที่สามารถจัดการได้อยู่ในระดับเวิลด์คลาส ยอดเยี่ยมภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่วางนโยบาย ควบคุมการจัดการประชุมให้เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และเป็นที่ประทับใจของนานาชาติ
“และยิ่งเมื่อต้นปี 2565 ที่ GainingEdge บริษัทที่ปรึกษาชั้นนำของโลกด้านอุตสาหกรรมการจัดงาน (MICE) ได้จัดอันดับให้กรุงเทพมหานครอยู่ในอันดับ 6 ของโลก “เมืองจุดหมายการประชุมนานาชาติ ปี 2564” และเป็นอันดับที่ 4 ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของเมืองในการเป็นจุดหมายจัดการประชุมนานาชาติ โดยเป็นการประเมินคุณภาพของ 3 ปัจจัยหลัก คือ 1.ด้านสุขอนามัยหรือ Hygiene Factors 2. ด้านความได้เปรียบในการแข่งขันหรือ Competitive Advantages และ 3. ด้านการสร้างความแตกต่างหรือ Key Differentiators
“เชื่อมั่นว่าเสียงชื่นชมการจัดประชุมเอเปคของผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการเอเปคและผู้เข้าร่วมอื่นๆ จะมีส่วนสำคัญที่จะช่วยดึงดูดงานอีเว้นท์ใหญ่ๆ จากทั่วโลกให้เข้ามาจัดในประเทศไทยได้ ซึ่งเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยดีขึ้นและมีรายได้กระจายไปทุกภาคส่วน ดังนั้นระหว่างวันที่ 18-19 พ.ย. นี้จะเป็นการประชุมผู้นำในเขตเศรษฐกิจ จึงเป็นโอกาสดีที่คนไทยทุกคนจะร่วมกันเป็นเจ้าบ้าน สร้างความประทับใจในเสน่ห์ทางวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ อาหารกการกิน อัธยาศัยต้อนรับของคนไทย รวมถึงความปลอดภัยและสงบ ที่จะถูกส่งต่อและเผยแพร่ออกไปสู่สายตานานาประเทศ ให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีระดับโลก ที่ส่งผลถึงประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติในอนาคต” น.ส.ทิพานัน กล่าว