“เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ฯ” ติดอันดับดัชนี DJSI ประจำปี 2565 เป็นปีที่ 2 ด้วยผลการดำเนินงานยอดเยี่ยมด้าน ESG
บมจ. เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมดัชนีความยั่งยืนระดับโลก (DJSI) ประจำปี 2565 เป็นครั้งที่ 2 สำหรับผลการดำเนินงานโดดเด่นและยอดเยี่ยมด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)
ในปีนี้ เดลต้า ประเทศไทย เป็นบริษัทเดียวในประเทศไทยในกลุ่มอุตสาหกรรม “อุปกรณ์ ชิ้นส่วนและส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ ITC” ที่ได้จัดอันดับอยู่ในดัชนี DJSI อีกครั้ง ในปี 2564 เดลต้า ประเทศไทย ได้เข้าร่วมดัชนี DJSI เป็นครั้งแรกหลังจากได้รับรางวัล S&P Global Silver Class 2 ปีติดต่อกัน
ดัชนี S&P ดาวโจนส์ คือผู้ให้บริการดัชนีชั้นนำของโลก ดำเนินการประเมินความยั่งยืนขององค์กร (CSA) ซึ่งประกอบด้วยแบบสอบถามที่เข้มงวดเพื่อประเมินข้อมูลทั้งด้านสาธารณะและไม่ใช่ด้านสาธารณะของบริษัทที่เข้าร่วม ในปีนี้ กว่า 13,800 บริษัท ได้รับเชิญให้ทำแบบประเมิน CSA และมีเพียง 1,728 บริษัทเท่านั้นที่เข้าเกณฑ์ DJSI ซึ่งเพิ่มขึ้น 9% จากปีที่แล้ว
DJSI เป็นดัชนีถ่วงน้ำหนักมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดที่ปรับลอยตัว ซึ่งวัดประสิทธิภาพของบริษัทที่ได้รับการคัดเลือกโดยใช้เกณฑ์ ESG ดัชนีความยั่งยืนระดับโลก DJSI มีการคัดเลือกที่โปร่งใสและอิงตามกฎเกณฑ์ โดยพิจารณาจากคะแนน S&P Global ESG อันเป็นผลมาจาก S&P Global CSA ประจำปี
นายจาง ช่าย ซิง (แจ็คกี้) ประธานบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ ประเทศไทย กล่าวว่า “เดลต้า ประเทศไทย รู้สึกเป็นเกียรติเป็นอย่างยิ่งที่ได้อยู่ในดัชนีความยั่งยืนระดับโลก DJSI เป็นระยะเวลา 2 ปีติดต่อกัน ในฐานะบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำของประเทศไทย และพลเมืองบรรษัทระดับโลก พวกเราให้ความสำคัญกับ ESG และความยั่งยืนเป็นอย่างยิ่ง โดยเป้าหมาย RE100 ของเดลต้า คือการผลิตพลังไฟฟ้าทดแทน 100% ผ่านการดำเนินงานทั่วโลกทั้งหมดของเราภายในปี 2573 ความสำเร็จอันต่อเนื่องของเดลต้าเป็นไปได้ด้วยการสนับสนุนของทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมถึงประชาชนทุกคนผู้เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวแห่งการเติบโตนี้”
ในปี 2564 หลังคาพลังงานแสงอาทิตย์ของเดลต้าช่วยให้บริษัทผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนได้กว่า 9,856 เมกะวัตต์-ชั่วโมง และช่วยประหยัดไฟกว่า 7,281 จิกะจูลต่อปี จากปี 2558 ถึงปี 2563 เดลต้า ประเทศไทย ลดการใช้พลังงานสะสมได้ถึง 44.7% และบริษัทยังประสบความสำเร็จในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในองค์กรได้อีก 29% ภายในปี 2564 โดยมีปี 2560 เป็นปีฐาน
เดลต้าได้ทำงานร่วมกับรัฐบาลไทยและมหาวิทยาลัยชั้นนำเพื่อพัฒนาความสามารถของวิศวกรในท้องถิ่นผ่านโครงการ Delta Automation Academy นักศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ชาวไทยประมาณ 3,000 คน และอาจารย์กว่า 30 ท่าน ได้รับการอบรมและฝึกปฏิบัติที่ห้องปฏิบัติการระบบอัตโนมัติทางอุตสาหกรรมที่เดลต้าได้สร้างขึ้นให้แต่ละมหาวิทยาลัย และนักศึกษาที่มีความสามารถโดดเด่นได้รับรางวัลในการแข่งขัน Delta Advanced Automation ระดับนานาชาติ
ในฐานะสมาชิกดัชนี DJSI เดลต้า ประเทศไทย ได้รับการยอมรับทั่วโลกในฐานะผู้นำด้าน ESG ในประเทศไทยและภูมิภาค กิจกรรมด้านความยั่งยืนของบริษัท รวมถึงด้านการศึกษาและความร่วมมือจากคู่ค้าและซัพพลายเออร์ในการต่อต้านการทุจริตและการส่งเสริมธุรกิจที่ยั่งยืน การรายงานและการรวบรวมข้อมูลที่ครอบคลุมของเดลต้าช่วยในการวัดผลและส่งเสริมการใช้วัสดุรีไซเคิล ทั้งยังช่วยการติดตามการปล่อยคาร์บอนฟุตปริ้นของผลิตภัณฑ์แต่ละอย่างอีกด้วย