คมนาคม

กทพ. เปิดรับฟังความคิดเห็นฯ ทางพิเศษสาย “เมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้” จังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 2 คาดก่อสร้างได้ในปี 2566

กทพ. เปิดรับฟังความคิดเห็นการศึกษาความเหมาะสมทางด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ การเงินและผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการทางพิเศษสายเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ จังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 2 คาดดำเนินการก่อสร้างภายในปี 2566

วันนี้ (19 ธันวาคม 2565) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม เปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชนและ ผู้ที่สนใจเข้าร่วมการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 2 (ผลการคัดเลือกรูปแบบทางเลือกที่เหมาะสม) โครงการทางพิเศษสายเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ จังหวัดภูเก็ต ณ ห้องประชุม บอลรูม 1 ชั้น 2 โรงแรมรอยัล ภูเก็ต ซิตี้ จังหวัดภูเก็ต โดยมี นายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และนายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ให้เกียรติเป็นประธานในการเปิดการประชุม โดยการประชุมครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อชี้แจงผลการศึกษาของโครงการในด้านต่างๆ โดยเฉพาะผลการคัดเลือกแนวเส้นทาง และรูปแบบทางแยกต่างระดับของโครงการ โดยเชิญกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ทั้งหน่วยงานราชการ หน่วยงานภาคเอกชน และประชาชนในพื้นที่โครงการ เข้าร่วมประชุม ร่วมกับการประชุมทางไกล ผ่านโปรแกรม zoom คาดว่ามีผู้สนใจประมาณ 500 คน

นายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวทางทะเลระดับโลก ปัจจุบันจังหวัดภูเก็ตประสบกับปัญหาการจราจรติดขัดเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะทางหลวงหมายเลข 402 ซึ่งเป็นเส้นทางหลักเพียงสายเดียว ที่ใช้ในการเดินทางเชื่อมโยงระหว่างท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตและพื้นที่ทางด้านเหนือของเกาะภูเก็ตกับตัวเมืองภูเก็ตรวมถึงแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ เนื่องจากข้อจำกัดของทางหลวงหมายเลข 402 ที่ไม่สามารถรองรับปริมาณจราจรในช่วงเวลาเร่งด่วนเช้าและเย็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งในอนาคตมีแผนการพัฒนาโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ตามแนวของทางหลวงหมายเลข 402 ซึ่งขณะก่อสร้างอาจทำให้ทางหลวงหมายเลข 402 ติดขัดมากยิ่งขึ้น หากไม่รีบดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว จะทำให้ผู้สัญจรเกิดความล่าช้าในการเดินทาง ส่งผลกระทบทางลบต่อการดำรงชีวิตของคนภูเก็ตและนักท่องเที่ยว ตลอดจนส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจและสังคมของจังหวัดภูเก็ตและประเทศในระยะยาว

ดังนั้น การที่การทางพิเศษฯ จะมาดำเนินโครงการทางพิเศษสายนี้ก็จะช่วยแก้ไขปัญหาข้างต้นได้ และสามารถรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นได้

“การก่อสร้างเส้นทางพิเศษสายเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ แล้วเสร็จจะช่วยแก้ปัญหาจราจรในภูเก็ตสามารถรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวได้แล้วยังรองรับผู้เข้าชมงานสเปเชียลไลซ์ เอ็กโป ที่ภูเก็ตจะเป็นเจ้าภาพ 2571 ส่วนประชาชนที่อาศัยอยู่สองฝั่งของทางพิเศษมีความต้องการถนนโลคัลโรดเพื่อสัญจรไปมาได้สะดวก การทางพิเศษฯ ก็ได้ดำเนินการเรื่องนี้แล้ว รวมถึงค่าเวนคืนที่ประชาชนมีความกังวลเรื่องราคาประเมินต่ำกว่าราคาขายจริงซึ่งการทางพิเศษฯ ได้พิจารณาให้ความเป็นธรรมกับทุกคน”

นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการ กทพ.เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากที่โครงการฯ ได้มีการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 1 (การปฐมนิเทศโครงการ) เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมาเพื่อรับรู้ รับทราบข้อมูลความเป็นมาของโครงการ รวมทั้งเหตุผลและความจำเป็นในการพัฒนาโครงการตลอดจนร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการพัฒนาโครงการ และการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 2 (ผลการคัดเลือกรูปแบบทางเลือกที่เหมาะสม) โครงการทางพิเศษสายเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ จังหวัดภูเก็ต โดยมีรายละเอียด ดังนี้

การทบทวนแนวเส้นทางโครงการในช่วงเมืองใหม่-เกาะแก้วนี้ ได้พิจารณาแนวเส้นทางโครงการตามการออกแบบเดิมของกรมทางหลวง มาดำเนินการออกแบบกรอบรายละเอียดต่อไป

สำหรับแนวเส้นทางในการต่อขยายเข้าสู่กะทู้ จะพิจารณาให้การเดินทางจากจุดเริ่มต้นโครงการสู่กะทู้เป็นแนวทางหลัก บริเวณ กม.19+975 เบี่ยงขวา และมุ่งสู่ทิศใต้ เป็นทางยกระดับบนถนนวิชิตสงคราม และผ่านพื้นที่เมืองกะทู้ โดยมีจุดสิ้นสุดเชื่อมต่อกับทางพิเศษสายกะทู้ ป่าตอง ส่วนทางที่เข้าเชื่อมกับทางหลวงหมายเลข 4024 บริเวณเกาะแก้วเป็นทางเชื่อมบรรจบ เนื่องจากโครงการเป็นทางพิเศษจึงต้องมีการควบคุมการเข้าออกเต็มรูปแบบ (Full Control of Access) โดยการกั้นรั้วและให้เข้า-ออกทางหลักของโครงการได้เฉพาะจุดที่กำหนด โดยออกแบบเป็นทางพิเศษขนาด 4 ช่องจราจร ช่องละ 3.50 เมตร มีทางบริการทั้ง 2 ฝั่งของทางพิเศษให้ประชาชนในพื้นที่สามารถสัญจรได้ตามความเหมาะสมโดยไม่ถูกทางพิเศษปิดกั้นโดยออกเเบบทางบริการฝั่งละ 2 ช่องจราจร แบบวิ่งสวนทิศทางจราจร รวมเขตทาง 80 เมตร เท่ากับเขตทางตามการออกแบบเดิม การศึกษาและคัดเลือกรูปแบบทางแยกต่างระดับที่เหมาะสมของโครงการ ซึ่งมีทางแยกต่างระดับที่สำคัญจำนวน 5 แห่ง ได้แก่

1.​ทางแยกต่างระดับเมืองใหม่ เชื่อมต่อทางหลวงหมายเลข 4026 (จุดเริ่มต้นโครงการ)

2.​ทางแยกต่างระดับบ้านดอน เชื่อมต่อทางหลวงหมายเลข 4030 ออกแบบทางหลักเป็นสะพานข้ามทางหลวงหมายเลข 4030

3.​ทางแยกต่างระดับม่าหนิก 1 เชื่อมต่อทางหลวงหมายเลข 4025 ออกแบบเป็น Trumpet Interchange

4.​ทางแยกต่างระดับม่าหนิก 2 เชื่อมต่อระหว่างทางหลักและทางร่วมบรรจบเป็น System Interchange มีลักษณะเป็นทางแยกต่างระดับรูปตัว Y

5.​ทางแยกต่างระดับบางคู เชื่อมต่อทางหลวงหมายเลข 4024 (จุดสิ้นสุดทางร่วมบรรจบ) มีลักษณะเป็นทางแยกต่างระดับรูปตัว Y

​“การประชุมในวันนี้ เพื่อให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วนได้รับทราบข้อมูลความเป็นมาของโครงการ แนวเส้นทางโครงการ การออบแบบรูปแบบโครงการ และผลการศึกษาการคัดเลือกแนวเส้นทางโครงการและรูปแบบการพัฒนาของโครงการ และร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการพัฒนาโครงการ ทั้งนี้ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ได้มุ่งมั่นที่จะดำเนินการพัฒนาทางพิเศษเส้นนี้ ให้มีความเหมาะสมทั้งทางด้านจราจร ด้านวิศวกรรม ด้านเศรษฐกิจและการลงทุน ด้านสิ่งแวดล้อม โดยการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน แนวเส้นทางโครงการได้ใช้ผลการศึกษาที่กรมทางหลวงได้วางแนวเส้นทางไว้ในปี 2559 และได้เชื่อมต่อเส้นทางไปสู่ทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง ที่จะดำเนินการก่อสร้างภายในปี 2566 เพื่อให้จังหวัดภูเก็ตมีระบบทางพิเศษที่รองรับการขยายตัวของการเดินทางทั้งประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาจากทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพื่อเตรียมการในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพงาน EXPO ที่จะมีขึ้นในปี 2571 ด้วย” นายสุรเชษฐ์ฯ กล่าวในท้ายที่สุด

Related Articles

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button