“MOSHI’ เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ฯ 22 ธ.ค. นี้ รุกขยายร้านสาขาเพิ่มเป็น 165 สาขาภายในปี 68
‘บมจ. โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น’ หรือ MOSHI ผู้นำในธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์รายใหญ่ของประเทศไทย พร้อมนำหุ้นเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เป็นวันแรก 22 ธ.ค.นี้ ปลื้มกระแสตอบรับนักลงทุนเชื่อมั่นในศักยภาพธุรกิจค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์ในประเทศไทย หลังขาย IPO 75 ล้านหุ้นหมดเกลี้ยง รุกขยายร้านสาขาเพิ่มเป็น 165 สาขา ภายในปี 2568 รักษาผู้นำอันดับ 1 ในตลาดสินค้าไลฟ์สไตล์ในประเทศไทย
นายสง่า บุญสงเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) หรือ MOSHI ผู้นำในธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์รายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้นำหุ้นเข้าซื้อขายเป็นวันแรกในวันที่ 22 ธันวาคม 2565 ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ หมวดธุรกิจพาณิชย์ โดยใช้ชื่อย่อ ‘MOSHI’ ในการซื้อขายหลักทรัพย์ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญและหนึ่งในความสำเร็จของบริษัทฯ ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ด้วยศักยภาพ ข้อได้เปรียบของบริษัทฯ และพื้นฐานการดำเนินธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์รายใหญ่ของประเทศไทยจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งและสนับสนุนให้ MOSHI เป็นหนึ่งหุ้นที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุน
ปัจจุบัน บริษัทฯ มีกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้ามากถึง 12 กลุ่ม ได้แก่ เครื่องใช้ในบ้าน (Home Furnishing) กระเป๋า (Bag) เครื่องเขียน (Stationery) ตุ๊กตา (Plush Toy) ของใช้แฟชั่น (Fashion) อุปกรณ์เสริมความงาม (Beauty) เครื่องนุ่งห่ม (Apparel) เครื่องสำอาง (Cosmetic) อุปกรณ์ด้านไอที (IT) ของเล่น (Toy) อาหารและเครื่องดื่ม (Food & Drink) และหมวดอื่นๆ (Others) เช่น หน้ากากผ้า ชุดตรวจหาเชื้อ COVID-19 (Antigen Test Kit) เป็นต้น โดยมีจำนวนสินค้า (SKUs) รวมกว่า 22,000 SKUs พร้อมกันนี้ ได้มีการวางจำหน่ายสินค้าในลักษณะ Collection เป็นประจำทุกเดือน เพื่อเพิ่มความน่าสนใจ และสร้างสีสันให้แก่ร้านค้า โดยสินค้า Collection มีทั้งลวดลายที่ออกแบบโดยทีมงานของบริษัทฯ และตัวการ์ตูนที่ได้รับลิขสิทธิ์ ได้แก่ ตัวการ์ตูน Mickey Mouse, We Bare Bears, Winnie the Pooh, Snoopy และ Hello Kitty เป็นต้น
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนใช้สำหรับการขยายสาขาและการลงทุนโครงการในอนาคต รวมถึงการพัฒนาสาขาเดิม และการพัฒนาปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงานของบริษัทฯ เช่น การพัฒนาระบบ Supply Chain และระบบการขายสินค้าหน้าร้าน (Point of Sale System) นอกจากนี้ อยู่ระหว่างการศึกษาการขยายสาขาในรูปแบบนอกห้างสรรพสินค้า (Stand Alone) ในพื้นที่ใกล้กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เช่น บริเวณแหล่งชุมชนและโรงเรียน รวมถึงมีแผนในการเปิดสาขารูปแบบแฟรนไชส์ (Franchise) เป็นต้น โดยตั้งเป้าหมายการขยายร้านสาขาของบริษัทฯ เพิ่มเป็น 165 สาขา ภายในปี 2568 จากปัจจุบันมีสาขาร้าน Moshi Moshi และร้าน GIANT ที่เปิดดำเนินการแล้วทั้งหมด 101 สาขา (ณ วันที่ 30 `กันยายน 2565) โดยสาขาส่วนใหญ่ตั้งอยู่บริเวณห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ไฮเปอร์มาร์เก็ต และห้างสรรพสินค้าท้องถิ่น ครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศไทย เพื่อรักษาการเป็นผู้นำในธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์รายใหญ่ของประเทศไทย
“เรามีแผนในการเปิดสาขาทดลองจำนวน 2 สาขาในจังหวัดหัวเมืองรอง ในรูปแบบร้านค้าปลีกนอกห้างสรรพสินค้า หรือที่เรียกว่า Stand Alone บริเวณแหล่งชุมชน โรงเรียน และศูนย์ราชการ เป็นต้น ซึ่งเราจะทำการศึกษาพฤติกรรมกลุ่มลูกค้าและพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าในจังหวัดหัวเมืองรอง เพื่อรวบรวมข้อมูลต่างๆ มาวิเคราะห์ในการกำหนด Product Mix ที่เหมาะสมสำหรับสาขาในจังหวัดหัวเมืองรอง รวมทั้งนำข้อมูลรายได้ต่อสาขา อัตราการทำกำไร มาวิเคราะห์ เพื่อกำหนดรูปแบบและแฟรนไชส์ (Franchise) ที่เหมาะสม และมีแผนต่อยอดการเปิดสาขารูปแบบแฟรนไชส์ (Franchise) ในปี 2567” นายสง่า กล่าว
นายพงศ์ศักดิ์ พฤกษ์ไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า นับเป็นการส่งท้ายปี 2565 อย่างสวยงาม ในการนำหุ้น MOSHI เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดย MOSHI อยู่ในอุตสาหกรรมสินค้าไลฟ์สไตล์ที่มีอัตราการเติบโตสูง และยังมีอัตราการเติบโตสูงกว่าอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมค้าปลีกโดยภาพรวม เนื่องจากสินค้าไลฟ์สไตล์เป็นสิ่งที่บ่งบอกความเป็นตัวตน จึงมีการขยายตัวตามการเติบโตของชนชั้นกลาง และการเติบโตของความเป็นเมือง นอกจากนี้ MOSHI มีข้อได้เปรียบเหนือคู่แข่ง เช่น ทีมผู้บริหารมีประสบการณ์ในธุรกิจค้าปลีกมาอย่างยาวนาน มีความสัมพันธ์อันดีกับคู่ค้าทั้งผู้ผลิตและผู้จำหน่ายสินค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ และมีสินค้าหลากหลายรายการที่เป็นสินค้า Exclusive ที่จำหน่ายเฉพาะที่ร้านของบริษัทฯ เท่านั้น
ด้วยความได้เปรียบของ MOSHI ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติไทย โดยมีฝ่ายจัดหาและพัฒนาผลิตภัณฑ์เป็นของตนเองทำให้มีความเข้าใจตลาดและความต้องการของคนไทยได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้สามารถออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองต่อแนวโน้มความต้องการ ของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งการออกแบบร้านที่โดดเด่น และมีเอกลักษณ์ ซึ่งสร้างความแตกต่างจากร้านค้าของผู้ประกอบการรายอื่น