“อีอีซี” คิดใหญ่ต่อยอด 12 ผลงานผลิตภัณฑ์ชุมชนต้นแบบ ยกระดับความร่วมมือชุมชนกับอุตสาหกรรม ดันส่งขายทั่วประเทศและทั่วโลก
วันนี้ (1 กุมภาพันธ์ 2567) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรืออีอีซี จัดพิธีมอบรางวัลผลิตภัณฑ์ชุมชนต้นแบบ ประจำปี 2566 (EEC Select 2023) จำนวน 12 ผลิตภัณฑ์ จาก 6 ผู้ผลิตต้นแบบ อีอีซี เพื่อแสดงศักยภาพผลิตภัณฑ์พื้นถิ่นที่สร้างสรรค์จากวัตถุดิบ/องค์ความรู้ท้องถิ่น โดยชุมชน วิสาหกิจชุมชน และกิจการเพื่อสังคมหรือวิสาหกิจเพื่อสังคม (SE) ในพื้นที่ อีอีซี ด้วยกระบวนการที่ทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ดร. จุฬา สุขมานพ เลขาธิการอีอีซี เปิดเผยว่า โครงการคัดเลือกผลิตภัณฑ์ชุมชนต้นแบบ (EEC Select) นับได้ว่าเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่จะส่งเสริมคุณค่าและมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ชุมชนในพื้นที่ 3 จังหวัด อีกทั้งยังสามารถนำไปสู่การสร้างการรับรู้เกี่ยวกับผลสำเร็จจากการพัฒนาเขตพื้นที่พัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ผ่านการประยุกต์ใช้เทคโนโยลีและนวัตกรรมที่เหมาะสมในการพัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์ในพื้นที่ดังกล่าวในหลากหลายมิติ รวมถึงการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย และพัฒนาเครือข่ายให้แก่ชุมชน วิสาหกิจชุมชน และกิจการเพื่อสังคม หรือวิสาหกิจเพื่อสังคม (SE) ในพื้นที่ อีอีซี เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการคัดเลือกและได้รับตรารับรอง EEC Select 2023 จะต้องเป็นผลิตภัณฑ์มีความชัดเจน สะท้อนความโดดเด่นของเอกลักษณ์ในพื้นที่ อีอีซี และเป็นไปตามนโยบายการพัฒนากิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งการดำเนินงานในครั้งนี้ได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิ และ ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิต และการออกแบบผลิตภัณฑ์ รวมถึงผู้ประกอบการในระดับประเทศ เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการฯ อาทิ คุณธัญรัตน์ อินทร, ศาสตราจารย์ ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์, หม่อมหลวงคฑาทอง ทองใหญ่, คุณวีรศักดิ์ เพ้งหลัง, ดร.อำพล อาภาธนากร, คุณกิตติวุฒิ ศศิวิมลพันธุ์, คุณวิรัตน์ ศิริสกุลงาม, คุณเฉลิมชัย มหากิจศิริ, คุณณพาภรณ์ โพธิรัตนังกูล และคุณวดี ภิญโญทรัพย์
ทั้งนี้ หลักเกณฑ์คัดเลือกคัดเลือกผลิตภัณฑ์ชุมชนต้นแบบประจำปี 2566 (EEC Select 2023) กรรมการจะพิจารณาจากหลักเกณฑ์ 5 ด้าน ได้แก่ ด้านปัจจัยการผลิต ด้านกระบวนการผลิต ด้านผลิตภัณฑ์ ด้านการตลาด และ ด้านการสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืน ซึ่งหลักเกณฑ์ทั้ง 5 นี้ จะสะท้อนให้เห็นถึงกระบวนผลิตตลอดห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ของผลิตภัณฑ์ที่เข้ารับการคัดเลือกในทุกมิติ และจะเป็นตัวแทนในการเล่าเรื่องราวในพื้นที่ อีอีซี ซึ่งพรั่งพร้อมไปด้วยปัจจัยด้านการผลิต บุคคลากร ที่จะสามารถพัฒนาความร่วมมือ และเชื่อมโยงประโยชน์ระหว่างพื้นที่อุตสาหกรรม และพื้นที่ชุมชนได้อย่างเป็นรูปธรรม
โดยในปีนี้มีชุมชนต้นแบบที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือก และเข้ารับรางวัลมีจำนวนทั้งสิ้น 12 ผลิตภัณฑ์จาก 3 ประเภท ประกอบด้วย
1.ประเภท 1 ดาว : ผลิตภัณฑ์ชุมชนต้นแบบที่มีคุณภาพ สามารถพัฒนาต่อยอดองค์ความรู้ดั้งเดิมและวัตถุดิบจากชุมชน ด้วยความคิดสร้างสรรค์ หรือนวัตกรรม ร่วมกับหน่วยงานและองค์กรภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ อีอีซี จำนวน 9 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ สเปรย์น้ำแร่ และ Room Diffuser โดย วิสาหกิจชุมชนกลุ่มลุฟฟาลา กระเป๋าสะพาย และ กระเป๋าถือ โดย กลุ่มสัมมาชีพชุมชนบ้านชากมะหาด เสื้อผ้าสตรี เสื้อผ้าบุรุษ และกระเป๋าสะพาย โดย ชุมชนพนัสนิคม ยาสีฟันสมุนไพรอัดเม็ด โดย บริษัท มาบเอื้อง วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด และซอสมะม่วงรสดั้งเดิม โดยกลุ่มมะม่วงกวนท่าพลับโรงสีล่าง (ขนมทัยซอสทัย)
2. ประเภท 2 ดาว : ผลิตภัณฑ์ชุมชนต้นแบบที่มีคุณภาพมาตรฐาน สามารถองค์ความรู้ดั้งเดิม วัตถุดิบท้องถิ่น ด้วยความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม หรือเทคโนโลยี ร่วมกับหน่วยงานและองค์กรภาครัฐและเอกชนในประเทศ จำนวน 2 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ น้ำตบกฤษณา และ Room Diffuser โดยวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรผลิตไม้กฤษณา
และ 3.ประเภท 3 ดาว ผลิตภัณฑ์ชุมชนต้นแบบที่มีคุณภาพมาตรฐานสากล สามารถถ่ายทอดและนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาแสดงบนผลิตภัณฑ์ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับวัตถุดิบท้องถิ่นได้อย่างชัดเจนด้วยความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม หรือเทคโนโลยี และสามารถพัฒนาต่อยอดร่วมกับหน่วยงานและองค์กรภาครัฐและเอกชนจากต่างประเทศเพื่อบอกเล่าเรื่องราวความเป็น EEC Select ในระดับสากล จำนวน 1 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ น้ำมันกฤษณา โดยวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรผลิตไม้กฤษณา
“ผลิตภัณฑ์ชุมชนต้นแบบที่ได้รับการรางวัลในวันนี้จะได้รับการรับรองผลิตภัณฑ์ผ่านตราสัญลักษณ์ EEC Select 2023 และจะได้รับโอกาสในการพัฒนาศักยภาพ ช่องทางการจัดจำหน่ายในมิติต่างๆ ร่วมกับเครือข่ายทั้งในระดับภูมิภาค ประเทศ และระดับนานาชาติที่เข้มแข็ง อันจะเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันศักยภาพพื้นที่ในเขตพื้นที่พัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง) ให้เติบโตไปพร้อมกับพื้นที่อุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน” เลขาธิการ อีอีซีกล่าว
นางสาวณพาภรณ์ โพธิรัตนังกูล กล่าวว่า ประเทศไทยมีโรงแรมระดับ 5-6 ดาวจำนวนมาก รอต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก สินค้าที่ได้รับรางวัลจากการประกวดครั้งนี้มีศักยภาพที่จะนำไปต้อนรับลูกค้าของโรงแรมได้เลย หรือนำไปเป็นสินค้าที่นักท่องเที่ยวต้องการซื้อเป็นของฝากกลับบ้านได้
ด้านนางสาววดี ภิญโญทรัพย์ กล่าวว่า แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชัอปปิ้งที่ห้างไอคอนสยามมากถึง 1 แสนคน และสินค้าที่นิยมซื้อจากเมืองไทยไปเป็นของฝากจะเป็นสินค้าที่บอกเล่าเรื่องราวของท้องถิ่น หรือ Story Selling มีแพ็กเก็จจิ้งที่ทันสมัย ซึ่งสินค้าที้ได้รับรางวัล 3 ดาวในครั้งนี้เป็นเป้าหมายของลูกค้จากต่างประเทศกลุ่มนี้ และสามารถเป็นตัวแทนสินค้าของท้องถิ่นส่งไปขายยังต่างประเทศได้ด้วย
ขณะที่ศาสตราจารย์ ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ตนคาดหวังว่าชุมชนจะเป็นเจ้าของร่วมกัน มีศักยภาพที่จะส่งไปขายทั่วประเทศให้ชุมชนต่างๆ ได้ใช้ และสามารถส่งออกไปขายต่างประเทศให้เป็นสินค้าระดับโลกต่อไป
“การต่อยอดผลิตภัณฑ์ที่ได้รัางวัลครั้งนี้สามารถทำได้เลยคือ นำไปต้อนรับนักท่องเที่ยวตามห้องพักของโรงแรมปาร์คนายเลิศ หรือนำไปจัดแสดงสินค้าที่ห้างไอคอนสยาม ผมได้ฝากให้ทางห้างฯ จัดทำร้าน EEC Select เพื่อให้เข้าถึงนักท่องเที่ยวได้ง่าย และเพื่อเป็นช่องทางสามารถซื้อสินค้ากลับประเทศได้ ซึ่งทั้งโรงแรมปาร์คนายเลิศ และห้างไอคอนสยาม มีผู้บริหารร่วมทำงานเป็นกรรมการกับเรา จึงน่านะนำร่องก่อนได้” ศาสตราจารย์ ดร.เกรียงศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย