17 พ.ค. นี้ ปรับขึ้นราคาดีเซลอีกลิตรละ 50 สตางค์ เพื่อลดการชดเชยหนุนสภาพคล่องกองทุนน้ำมันฯ ที่ติดลบอยู่กว่าแสนล้านบาท
นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้พิจารณาสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เห็นว่าแม้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะมีรายจ่ายลดลงแต่กองทุนน้ำมันฯ ยังขาดสภาพคล่อง ประกอบกับสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง
ในขณะนี้ยังมีความผันผวนต่อเนื่องจากสถานการณ์ด้านสงครามและเศรษฐกิจ กบน. จึงมีมติลดอัตราเงินชดเชยประเภทน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา และน้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี 20 จาก 2.58 บาท/ลิตร เป็น 1.94 บาท/ลิตร เพื่อให้กองทุนน้ำมันฯ มีรายจ่ายประเภทน้ำมันดีเซลลดลงประมาณวันละ 40.91 ล้านบาท จากวันละ 164.05 ล้านบาท เป็น 123.14 ล้านบาท การลดอัตราเงินกองทุนน้ำมันประเภทดีเซลในครั้งนี้ส่งผลให้ราคาขายปลีกประเภทน้ำมันดีเซลปรับขึ้น 0.50 บาท/ลิตร เป็น 31.94 บาท/ลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ การพิจารณาดังกล่าวเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2567 ที่มีมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานแก่ประชาชน โดยวางกรอบการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 33 บาท/ลิตร ตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน ถึง 31 กรกฎาคม 2567 ซึ่งเป็นมาตรการต่อเนื่อง
จากมาตรการเดิมที่สิ้นสุดเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา และการดำเนินการนี้เป็นไปตามมติ กบน. เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2567 เห็นชอบในหลักการให้ปรับอัตราเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงประเภทน้ำมันดีเซลเพื่อให้ราคาขายปลีกเกินกว่า 30 บาทได้ตั้งแต่เดือนเมษายน 2567 เป็นต้นไป
อย่างไรก็ดี กบน.จะพิจารณาลดการชดเชยราคาน้ำมันดีเซลแบบค่อยเป็นค่อยไปให้เป็นไปตามช่วงเวลาและจังหวะที่เหมาะสม เพื่อรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันภายในประเทศไม่ให้ผันผวนมากจนเกินไป และกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนให้น้อยที่สุด
สำหรับฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสุทธิ ณ วันที่ 12 พฤษภาคม 2567 ติดลบ 110,296 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 62,719 ล้านบาท ส่วนก๊าซ LPG ติดลบ 47,577 ล้านบาท