คมนาคม

เปิดแผนเชิงรุกคมนาคมขนส่ง 4.0 ในงาน INTERMAT-CONCRETE 2019

ปัจจุบันภาครัฐได้สนับสนุนการพัฒนาระบบขนส่งทางรางมากขึ้นทั้งรถไฟทางคู่ รถไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร-ปริมณฑล ตลอดจนรถไฟความเร็วสูงเชื่อมระหว่างภาค ส่งผลให้มีโครงการจ่อตอกหมุดกว่า 48 โครงการ มูลค่ากว่า 2.8 ล้านล้านบาท

ดังนั้น ภาคเอกชนซึ่งเห็นความชัดเจนตามแผนการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐจึงวางแผนจัดงานด้านอุตสาหกรรมก่อสร้าง โครงสร้างพื้นฐาน และเทคโนโลยีคอนกรีตระดับภูมิภาค เพื่อร่วมขับเคลื่อนยุทธศาตร์ชาติในด้านการก่อสร้างโดยเฉพาะ ในรายการ INTERMAT ASEAN และงาน CONCRETE ASIA 2019 อีกหนึ่งการจัดงานครั้งยิ่งใหญ่ในวงการอุตสาหกรรมก่อสร้างและงานเกี่ยวกับวงการคอนกรีตชั้นนำของไทย ที่จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ในปีนี้

ศ.ดร.อมร พิมานมาศ นายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างไทย เปิดเผยว่า สำหรับอุตสาหกรรมคอนกรีตในประเทศไทย คาดว่าความต้องการใช้ในประเทศช่วงระยะ 1-3 ปีข้างหน้าจะขยายตัวสูงในอัตราเฉลี่ย 9-11.5% โดยมีปัจจัยจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่ใช้คอนกรีต เช่น การก่อสร้างเส้นทางรถไฟฟ้า มอเตอร์เวย์ สนามบิน พร้อมทั้งการเติบโตของงานก่อสร้างในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่คาดว่าจะมีโครงการใหม่เกิดขึ้นตามแนวเส้นทาง

โดยในครั้งนี้สมาคมวิศวกรโครงสร้างไทยได้เข้ามามีส่วนร่วมสนับสนุนการจัดงาน CONCRETE ASIA 2019 งานแสดงสินค้าและนวัตกรรมด้านคอนกรีต ที่ภายในงานมีกิจกรรมมากมาย อาทิ Networking Luncheon และ Cocktail party พื้นที่สำหรับสร้างเครือข่ายทางธุรกิจเฉพาะผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง การสาธิตพิเศษวิธีการขัดพื้นโดยทีมช่างผู้เชี่ยวชาญจากบริษัท รีเอ็นเทคจำกัด และบริษัท เรพฟลอร์ จำกัด การสาธิตพิเศษระบบ Self-Climbing Protection รอบอาคาร ป้องกันฝุ่นและกันสิ่งของร่วงหล่น และสามารถยืนทำงานภายนอกอาคารได้โดยใช้ระบบ Hydraulic Cylinder ที่เคลื่อนตัวได้เองโดยไม่ต้องใช้เครนเป็นตัวช่วยโดยบริษัท เทคฟอร์ม จำกัด การสาธิตวิธีตบหน้าดินและการขัดพื้นปูนโดยบริษัท เจ อาร์ เอ็ม เจริญมิตร กรุ๊ป จำกัด หรือ มาร์ตัน(ไทยแลนด์) จำกัด ตลอดจนการจัดสัมมนาในหัวข้อที่นย่าสนใจต่างๆ การวิเคราห์แนวโน้มราคาคอนกรีต กรณีศึกษานวัตกรรมบีม(BIM) กับการออกแบบการก่อสร้างระบบชิ้นส่วนคอนกรีตสำเร็จรูป เป็นต้น

“การจัดงานครั้งยิ่งใหญ่ประจำปีนี้ของวงการก่อสร้างไทยได้มีการรวบรวมสินค้าจากแบรนด์ชั้นนำกว่า 300 แบรนด์มาจัดแสดงระหว่างวันที่ 5 -7 กันยายน 2562 อาคาร 9 – 10 อิมแพ็ค เมืองทองธานี พร้อมทั้งกิจกรรมเจรจาธุรกิจกว่า 450 นัดหมาย อัดแน่นด้วยสัมมนาจากผู้เชี่ยวชาญแถวหน้าของประเทศไทย และการสาธิตเทคโนโลยีใหม่ คาดดึงบุคลากรที่อยู่ในอุตสาหกรรมเข้าชมงานมากกว่า 5,000 ราย”

ด้านนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม กล่าวว่า แผนยุทธศาสตร์เชิงรุกพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งทางรางยุค 4.0 สอดคล้องกับนโยบายภาครัฐ และแผนการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของประเทศไทยตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ในการขับเคลื่อนโครงข่ายพัฒนาระบบรางทั้งในเขตเมืองและระหว่างเมือง ในอนาคตทั้ง 14 สายในกรุงเทพ ให้ครบถ้วน 557 กิโลเมตร

รวมถึงการยกระดับการให้บริการที่ดี มีการบูรณาการเชื่อมต่อ ลดภาระของประชาชนในการเดินทาง ราคาเป็นธรรม เพื่อทำให้ประชาชนมีความสุขในการเดินทาง มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ลดระยะเวลาในการเดินทาง ทำให้ครบครัวมีความอบอุ่นมากขึ้น ส่งเสริมและขับเคลื่อนสมรรถนะทางเศรษฐกิจของชาติ สอดคล้องกับการพัฒนาโครงข่ายรรไฟระหว่างเมือง ที่ต้องเร่งพัฒนาโครงข่ายรถไฟทางคู่

ขณะนี้รัฐบาลได้ดำเนินการไปแล้ว 1,314 กิโลเมตร ทั้งในส่วนรถไฟทางคู่ และรถไฟทางสายใหม่ รวมถึงการขับเคลื่อนการพัฒนาระบบรถไฟเสริมสมรรถภาพทางด้านการอาณัติสัญญาณ และการให้บริการที่มุ่งสู่การส่งเสริมให้ภาคเอกชนเข้ามามีบทบาทในการให้บริการ ซึ่งจะทำให้เกิดการแข่งขันอย่างสูงสุด สำหรับการพัฒนาโครงข่ายความเร็วสูง

อย่างไรก็ดี ขณะนี้รัฐบาลอยู่ในระหว่างการดำเนินการสร้าง 2 เส้นทางได้แก่ กรุงเทพ-นครราชสีมา และรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน หน้าที่ของกรมรางคือการบูรณาการโครงข่ายทางรถไฟในเมือง และระหว่างเมืองทั้งหมดให้เกิดการบูรณาการระหว่างกัน ทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างยั่งยืนต่อไป โดยโครงการที่กล่าวมานี้จำเป็นต้องใช้ทั้งแรงงาน เครื่องจักร อุปกรณ์ ในการก่อสร้างอย่างมหาศาล รวมไปถึงเทคโนโลยีที่จะช่วยให้การก่อสร้าง ไม่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แข็งแรง และมีอายุการใช้งานแบบยั่งยืน

“งานแสดงสินค้าและการประชุมในรายการ INTERMAT ASEAN และงาน CONCRETE ASIA 2019 เป็นการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ สำหรับอุตสาหกรรมการก่อสร้างจากทั่วโลกเอาไว้ในงานเดียวที่ประเทศไทย ให้ผู้รับเหมาก่อสร้างและผู้ที่เกี่ยวข้องได้อัพเดทเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดโดยไม่ต้องเดินทางไปดูงานที่ต่างประเทศ พร้อมทั้งสัมมนาให้ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญ”

สอดคล้องกับนายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่่ประเทศไทย(รฟท.) กล่าวว่าในอีก 4-5 ปีนี้ระบบรางของไทยจะมีรถไฟทางคู่สายใหม่ ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งดำเนินการตามพ.ร.ฎ.เวนคืนจำนวน 2 เส้นทาง หากรวมระบบรถไฟทางคู่ทั้งหมดจะได้ระยะทางกว่า 1,500 กม. โดยจะเน้นเชื่อมประตูการค้าระหว่างประเทศ อีกทั้งยังมีเส้นทางรถไฟไทย-จีน ระยะแรกกว่า 250 กม. เส้นทางรถไฟเชื่อมสามสนามบิน ที่คาดว่าจะลงนามและเริ่มก่อสร้างได้ในช่วงต้นปีหน้า คาดว่าจะใช้ปูนกว่าล้านตัน ใช้เหล็กจำนวนมาก โดยเฉพาะรถไฟไทย-จีนพบว่างบประมาณจำนวนราว 1.3 แสนล้านบาทจะอยู่ในมือรับเหมาไทย

ด้านนายกฤษดา จันทร์จำรัสแสง อุปนายกสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับอุตสาหกรรมและแบ่งปันข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตลาดก่อสร้างของประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพร่วมของ INTERMAT ASEAN โดยสมาคมฯ เป็นเจ้าภาพจัด TCA Lounge เพื่อให้ผู้แสดงสินค้าสามารถพบปะกับนักลงทุน อีกทั้งนอกจากจัดแสดงสินค้าแล้วภายในงานยังมีการจัดสัมมนาจาก บริษัท บิลค์ วัน กรุ๊ป จำกัด บริษัท แอล.พี.เอ็น ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) สมาคมวิศวกรโครงสร้างไทย และสมาคมส่งเสริมความปลอดภัยและอนามัยในการทำงาน (ประเทศไทย) ในพระราชูปถัมภ์ อีกด้วย

“มีการจัดกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจที่มีกว่า 450 นัดหมาย VIP Networking Luncheon และ Networking Cocktail Party เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมได้พบปะและทานอาหารร่วมกัน สาธิตการตกแต่งพื้นคอนกรีตแบบสามมิติ โชว์นวัตกรรมการขึ้นรูปวัสดุเซรามิกส์ด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติ คาดว่าจะมีผู้สนใจเข้าร่วมชมงานกว่า 5,000 ราย”

 

ขณะที่ นางนิชาภา ยศวีร์ รองผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ หรือ ทีเส็บ กล่าวว่า ทีเส็บมีนโยบายใช้และสนับสนุนงานแสดงสินค้าให้เป็นเครื่องมือช่วยขับเคลื่อนนโยบาย 4.0 งาน INTERMAT ASEAN และ CONCRETE ASIA 2019 ถือเป็นงานที่สามารถเป็นกลไกส่งเสริมการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ โดยเฉพาะการลงทุนในระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC และสามารถขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการคมนาคมของภูมิภาค สอดคล้องกับการสนับสนุนของทีเส็บที่มุ่งช่วยให้งาน INTERMAT ASEAN และ Concrete Asia เป็นงานของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่จะมีส่วนช่วยรักษาตำแหน่งของประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางงานแสดงสินค้านานาชาติของภูมิภาคอาเซียน

สอดคล้องกับที่น.ส. วาทินี สายทอง ผู้จัดการโครงการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นที. จำกัด กล่าวว่าไฮไลต์ปีนี้ สปป.ลาว เมียนมา กัมพูชา ให้การตอบรับร่วมงานในครั้งนี้ อีกทั้งหน่วยงานกรมโยธาธิการและอีกหลายหน่วยงานยังได้ร่วมจัดนิทรรศการ ภายในงานยังมีโปรโมชั่นพิเศษ ประการสำคัญสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยฯ ยังได้จัดผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมงานจำนวนมาก พร้อมด้วยการนำเสนอข้อมูลบิ๊กดาต้าเพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นเบอร์ 1 วงการอุตสาหกรรมก่อสร้างในภูมิภาคนี้นั่นเอง

Related Articles

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button