JWD ลุยSelf-Storage รับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่
บมจ.เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ หรือ JWD ปูพรมขยายธุรกิจ Self – Storage (ห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่า) รับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการพื้นที่เก็บของเป็นสัดส่วนและมีความปลอดภัยสูง หลังสาขาศรีกรีฑาและสยามมีผลตอบรับดี ปลายปีนี้เตรียมเปิดบริการอีก 2 แห่งที่เทียนร่วมมิตรและรามอินทรา ตั้งเป้าขยายสาขาต่อเนื่องทุกปีดันพื้นที่ให้บริการรวมเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 2 หมื่นตารางเมตรภายในปี 2565 ขึ้นแท่นผู้นำธุรกิจ ส่วนสาขาสยามเตรียมเปิดพื้นที่เฟส 2 ให้บริการใหม่ ‘ตู้นิรภัยให้เช่า’ ที่ใช้มาตรฐานก่อสร้างระดับสากลและติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัย
นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD ผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชนระดับอาเซียน เปิดเผยว่า บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจ Self-Storage หรือบริการให้เช่าห้องเก็บของส่วนตัว ภายใต้ชื่อ JWD Store It! (เจดับเบิ้ลยูดี สโตร์ อิท!) เพื่อขยายพื้นที่ให้บริการรองรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่อยู่อาศัยในพื้นที่จำกัดและต้องการเช่าห้องเก็บส่วนตัวที่แยกเป็นสัดส่วนจากพื้นที่พักอาศัย หลังจากการเปิดให้บริการสาขาแรกที่ศรีกรีฑา (ถนนกรุงเทพกรีฑา) มีผลตอบรับที่ดี ปัจจุบันมีอัตราเช่าพื้นที่กว่า 90% และสาขา 2 ที่ สยาม (ในโครงการ Zy Walk) ซึ่งในเฟสแรก มีอัตราเช่าพื้นที่กว่า 70% อยู่ระหว่างเตรียมเปิดให้บริการเฟสใหม่
โดยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ บริษัทฯ จะเปิดให้บริการ JWD Store It! เพิ่มขึ้นอีก 2 สาขา ได้แก่ สาขาเทียนร่วมมิตร มีพื้นที่ให้เช่ารวม 2,000 ตารางเมตร และสาขารามอินทรา มีพื้นที่ให้เช่ารวม 1,800 ตารางเมตร เพื่อขยายพื้นที่ให้บริการอย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในย่านรัชดาภิเษก ห้วยขวาง พระราม 9 เอกมัย-รามอินทรา และเกษตร-นวมินทร์ เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมาย
ผู้พักอาศัย ผู้ประกอบธุรกิจ SMEs หรือผู้ประกอบธุรกิจอี-คอมเมิร์ชที่ต้องการพื้นที่เก็บสินค้าที่มีมาตรฐานและความปลอดภัยสูง รวมถึงสามารถเข้า-ออกพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยได้รับการสนับสนุนองค์ความรู้จากพาร์ทเนอร์ (สโตร์อิท แมเนจเม้นท์) จากประเทศสิงคโปร์
“เรามั่นใจว่า Self-Storage เป็นธุรกิจที่มีอนาคต เห็นได้จากเมืองใหญ่ ๆ ทั่วโลก อาทิ สิงคโปร์ ฮ่องกง ญี่ปุ่น ฯลฯ ก็มีผู้ดำเนินธุรกิจประเภทนี้และมีเทรนด์การเติบโตที่ดี JWD จึงมีแผนลงทุนขยายสาขาอย่างต่อเนื่องทุกปี เฉลี่ยปีละ 2-3 สาขา เน้นพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นในที่มีประชากรอยู่อาศัยหนาแน่น อาทิ เยาวราช สาทร เป็นต้น พร้อมตั้งเป้าหมายขยายสาขาทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อเพิ่มพื้นที่ให้บริการในธุรกิจ Self-Storage เป็นกว่า 2 หมื่นตารางเมตรภายในปี 2565 ยกระดับเป็นผู้นำธุรกิจ” นายชวนินทร์ กล่าว
ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JWD กล่าวว่า นอกจากการขยายสาขา บริษัทฯ ได้รุกขยายการให้บริการใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการผู้ใช้บริการ โดยในเดือนกันยายนนี้ JWD Store It! สาขาสยาม จะเปิดพื้นที่เฟส 2 เพื่อให้บริการใหม่ ‘ตู้นิรภัยให้เช่า’ เจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการเช่าพื้นที่เก็บของมีค่า เนื่องจากปัจจุบันธนาคารหลายแห่งมีตู้เซฟไม่เพียงพอต่อความต้องการ โดยมีพื้นที่ให้บริการกว่า 2,000 ช่อง
จุดเด่นของบริการตู้นิรภัยให้เช่าคือ การออกแบบก่อสร้างภายใต้มาตรฐานระดับ International Vault Standard Class A ด้วยผนังคอนกรีตเสริมเหล็กและระบบป้องกันอัคคีภัย พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัยโดยใช้ระบบ Biometric Scan ในการสแกนลายนิ้วมือและใบหน้า ติดตั้งระบบป้องกันการบุกรุกโดย SECOM และมีบริการเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงโดย G4S คาดว่าบริการดังกล่าวจะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าที่พักอาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียงโครงการ