เขื่อนป่าสักฯ วิกฤติหนักสุดน้ำแห้งขอดเหลือน้ำใช้ 3%
“เขื่อนป่าสักฯ วิกฤติหนัก น้ำแห้งสุดตั้งแต่สร้างเขื่อนมา เหลือน้ำใช้แค่ 3% ชี้ใกล้สิ้นสุดฤดูฝน โอกาสได้น้ำเติมเขื่อนน้อยลง ส่งผลปีหน้าแล้งรุนแรงกระทบทุกภาคส่วน
วันนี้ ( 23 ส.ค. 62) ที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี นายศุภชัย มโนการ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักชลสิทธิ์ เปิดเผยว่าถึงตัวเลข และสถิติของสถานการณ์น้ำ ในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ณ ปัจจุบันนี้ สถานการณ์น้ำในเขื่อนยังคงน่าเป็นอย่างอย่างมาก เนื่องจากขณะนี้ ได้เข้าสู่ช่วงครึ่งหลังของฤดูฝนแล้ว แต่ปริมาณน้ำในเขื่อนเหลืออยู่น้อยมาก และเมื่อเปรียบเทียมจากตัวเลข และสถิติต่างๆ ที่ผ่านมา นับตั้งแต่ก่อสร้างเขื่อน ถือว่าน้อยที่สุดตั้งแต่เปิดใช้งานเขื่อนป่าสักฯ เนื่องจากตั้งแต่ต้นปี 2562 ที่ผ่านมา มีฝนตกเฉลี่ยสะสมน้อยมาก โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่รับน้ำ ตามลำน้ำสาขาของแม่น้ำป่าสักตอนบนเหนือเขื่อนแทบไม่มีน้ำไหลเข้าเลย ปริมาณน้ำฝนก็ไม่มากพอที่จะทำให้น้ำไหลลงเขื่อน เนื่องจากฝนไม่ตกต่อเนื่องและส่วนใหญ่ตกนอกอ่างเก็บน้ำของเขื่อน ทำให้น้ำส่วนใหญ่จะซึมหายลงดินไปกับความแห้งแล้งหมด
“หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ ซึ่งเหลือเวลาอีกไม่มากก่อนสิ้นสุดฤดูฝน หากยังไม่มีพายุมรสุม ที่ส่งผลให้มีฝนตกในปริมาณที่มากพอ ในพื้นที่ตอนบนของเขื่อน ตามที่คาดการณ์หรือหวังไว้ อาจสงผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูแล้งปีหน้า”นายศุภชัย กล่าว
สำหรับปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ล่าสุดตรวจวัด เมื่อช่วงเช้าวันนี้ 31.34 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 3.26 จากปริมาณกักเก็บสูงสุดของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ที่ 960 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนเพียง 0.23 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่งถือว่าน้อยมาก จึงขอให้เกษตรกร ใช้น้ำอย่างประหยัด และควรหันไปปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยแทนเพื่อลดความเสียงต่อการเสียหายของภาคการเกษตร